คาด Apple เปิดตัว Apple Watch Ultra 3 ในปีนี้หลังจากที่เว้นวรรคไป 2 ปี และนี่คือ 6 ฟีเจอร์ใหม่ที่จะมาพร้อมกัน

Apple Watch Ultra 3 จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ ยังคงใช้การออกแบบเหมือน 2 รุ่นแรก เน้นไปที่การอัปเกรดสเปกภายในแทน และนี่คือฟีเจอร์ใหม่ที่เราน่าจะได้เห็นกัน
การตรวจหาความดันโลหิตสูง
Mark Gurman จาก Bloomberg รายงานว่า ฟีเจอร์วัดความดันจะเป็ฯฟีเจอร์ด้านสุขภาพที่จะเปิดตัวใน Ultra 3 เป็นรุ่นแรก
มีข่าวลือว่าจะไม่สามารถวัดความดันโลหิตซิสโตลิกและไดแอสโตลิกได้อย่างแม่นยำ แต่จะติดตามแค่ว่าความดันโลหิตของผู้ใช้มีแนวโน้มสูงขึ้นหรือไม่ และส่งการแจ้งเตือนหากตรวจพบความดันโลหิตสูง หลังจากได้รับการแจ้งเตือนแล้ว ผู้ใช้ Apple Watch สามารถแจ้งข้อมูลดังกล่าวให้แพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมได้
ความดันโลหิตสูงส่งผลให้หัวใจเสียหายและเสียชีวิต ซึ่งความดันโลหิตสูงมักมีอาการเพียงเล็กน้อยจนกว่าจะลุกลามไปมาก การตรวจพบแต่เนิ่นๆ ผ่าน Apple Watch นั้นมีศักยภาพที่จะช่วยชีวิตได้ โดย Apple Watch สามารถตรวจจับภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะหรือการเต้นของหัวใจที่ไม่สม่ำเสมอ และสามารถใช้ในการวัดค่า ECG แบบลีดเดียวได้ นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด แต่ถูกปิดใช้งานในรุ่นปัจจุบันในสหรัฐอเมริกาเนื่องจากปัญหาสิทธิบัตร
หน้าจอสว่างขึ้น รีเฟรชเรทสูงขึ้น
Apple Watch Series 10 มีเทคโนโลยีจอแสดงผลที่เหนือกว่า Apple Watch Ultra ด้วยหน้าจอ Retina OLED แบบ LTPO3 มีอัตราการรีเฟรชที่สูงขึ้นเมื่อเปิดโหมด AOD ทำให้สามารถแสดงเข็มวินาทีบนหน้าปัดนาฬิกาที่เลือกได้ รวมถึงความสว่างขึ้นถึง 40% เมื่อมองในมุมเอียง ส่วนรุ่น Ultra ที่ขายในปัจจุบันใช้เทคโนโลยี LTPO2 เท่านั้น
ชิปใหม่
Apple Watch Ultra 3 จะได้ใช้ S11 ชิปใหม่ ซึ่งแรงขึ้นและมีขนาดเล็กลง ซึ่งชิปใหม่จะทำให้มีพื้นที่ว่างภายในมากขึ้น สำหรับส่วนประกอบอื่นๆ เช่น แบตเตอรี่ที่ใหญ่ขึ้น รวมถึงมีฟีเจอร์ใหม่ๆเพิ่มขึ้นด้วย
การเชื่อมต่อดาวเทียม
เมื่อปีที่แล้ว Mark Gurman กล่าวว่า Apple Watch Ultra 3 จะรองรับการเชื่อมต่อผ่านดาวเทียม ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่มีเฉพาะใน iPhone เท่านั้นในปัจจุบัน. ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายดาวเทียมเพื่อส่งข้อความเมื่อเครือข่ายเซลลูลาร์และ Wi-Fi ไม่สามารถใช้งานได้
การเชื่อมต่อดาวเทียมจะช่วยให้ Apple สามารถแข่งขันกับบริษัทอย่าง Garmin ที่นำเสนอฮาร์ดแวร์ดาวเทียมเฉพาะสำ เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉิน ซึ่ง Apple Watch Ultra มุ่งเป้าไปที่นักเดินป่า นักดำน้ำ และนักผจญภัย และการเชื่อมต่อดาวเทียมสำหรับอุปกรณ์จะเพิ่มระดับความปลอดภัยอีกขั้น
ปัจจุบัน Apple ยังคงไม่คิดค่าบริการสำหรับการเชื่อมต่อดาวเทียม คาดว่าน่าจะเปิดให้ใช้ฟรีสองปี แบบเดียวกับ iPhone
การเชื่อมต่อ 5G
Apple วางแผนที่จะเลิกใช้โมเด็ม Qualcomm ที่ใช้ใน Apple Watch Ultra โดยใช้โมเด็ม C1 หรือชิปที่ Apple พัฒนาเอง นอกจากนั้นApple วางแผนที่จะเปลี่ยนจากโมเด็มของ Qualcomm มาเป็นของ MediaTek แทน ซึ่ง MediaTek เป็นหนึ่งในไม่กี่บริษัทที่สามารถออกแบบโมเด็ม 5G ได้
ชิปโมเด็มของ MediaTek เพิ่มการรองรับ 5G RedCap ซึ่งเป็นบริการ 5G ที่ออกแบบมาสำหรับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อและอุปกรณ์สวมใส่ที่ไม่ต้องการความเร็ว 5G มาตรฐาน ซึ่งรุ่น Apple Watch เซลลูลาร์ปัจจุบันยังคงใช้ 4G LTE
ออกแบบฝาหลังใหม่

Apple Watch Series 10 มีฝาหลังเป็นโลหะที่ได้รับการออกแบบใหม่หมด พร้อมด้วยคอยล์ชาร์จที่ใหญ่ขึ้นและฝังเสาอากาศเข้าไป ด้านหลังที่เป็นโลหะใหม่ทำให้ Series 10 ชาร์จได้ถึง 80% ในเวลาเพียง 30 นาที ซึ่งเร็วกว่า Series 9 ถึง 15 นาที
ปัจจุบัน Apple Watch Ultra มีด้านหลังเป็นเซรามิกและคริสตัลแซฟไฟร์แทนที่จะเป็นโลหะ ดูเหมือนว่า Ultra 3 น่าจะเปลี่ยนการออกแบบตัวเรือนด้านหลังไปเป็นแบบเดียวกับ Series 10 ช่วยให้ประสิทธิภาพการทำงานของเซลลูล่าร์ดีขึ้นและชาร์จได้เร็วขึ้น
ที่มา https://www.macrumors.com/2025/02/25/6-apple-watch-ultra-3-features/