ตามนโยบาย นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้กำหนดนโยบายในการเร่งแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน และ “นโยบายรัฐบาลในการจัดการปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติยุค Digtal Disruption” แก่ข้าราชการตำรวจระดับผู้บริหารทั่วประเทศในโครงการสัมมนาผู้บริหารระดับผู้บัญชาการหรือเทียบเท่าและ ผู้บังคับการหรือเทียบเท่า ประจำปีงบประมาณ พ.พ.ศ.2568 โดย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธ์ุเพ็ชร์ ผบ.ตร., พล.ต.ธนา ชูวงศ์ รองผบ.ตร. และ พล.ต.อ.ธัชชัย ปีตะนีละบุตร จตช.ในฐานะ ผอ.ศปอส./ผอ.ศตคม.ตร. ได้ขับเคลื่อนโยบายผ่าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. ในฐานะผู้รับผิดชอบควบคุมสังการ บช.สอท. และ พล.ต.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ในฐานะรองผอ.ศปอส.ตรได้สังการให้ พล.ต.ท.ไตรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท.นำเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดสืบสวน จับกุมผู้ต้องหาที่กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด  จนนำมาสู่ปฏิบัติการดังกล่าว

วันพุธที่ 19 มี.ค. 68 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณชั้น 1 อาคารเฉลิมพระเกียรติฯ บช.สอท. (เมืองทองธานี) นำโดย พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชานาญ รอง ผบช.สอท, พล.ต.ต. ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ตำรวจไซเบอร์ล่าต่อเนื่องเครือข่ายโจร ออนไลน์พร้อมเดินหน้าจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า

สืบเนืองจากนโยบายของ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. ให้แต่ละกองบังคับการเร่งระดมกวาดล้างจับกุมการ กระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพื่อสร้างความปลอดภัยบนโลกออนไลน์ให้แก่พี่น้องประชาชน จนนำมาสู่ ปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นค้นวนวน 3 ปฏิบัติการดังนี้

ปฏิบัติการที่ 3 :กก.1บก.สอท.3รวบแม่ค้าร้านเสื้อผ้าลอบขายบุหรี่ไฟฟ้ากลางชุมชน

ร.ต.อ.วิเชษฐ์ โคตรบุตร, ร.ต.อ.สุริยาลาแสงสว.กก.1 บก.สอท.3 และ ร.ต.ท.กันตภณ บุตรภาวงศ์ รองสว.(สส)กก.1บก. สอท.3 ร่วมกันนนำกำลังเข้าจับกุม น.ส.สุดฤทัย อายุ 35 ปี ในข้อหา ช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย รับไว้ โดย ประการใดซึ่ง(บุหรี่ไฟฟ้า) และนน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า) ของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยเป็นของที่ไม่ผ่านด่านศุลกากรตาม พรบ.ศุลกากร มาตรา 242,246 ประกอบ ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้ บารากู่ บารากูไฟฟ้า บุหรี่ไฟฟ้า เป็น สินค้าที่ต้องห้ามนำเข้าในราชอาณาจักร พ.ศ.2557″ โดยจับกุมตัวได้ที่ ร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ม.13 ต.เมืองใหม่ อ.ศรี บุญเรือง จ.หนองบัวลำภู

โดยกรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก. บก.สอท.3 ได้รับการร้องเรียนจากประชนว่า มีการลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านบัญชีเฟซบุ๊กชื่อ”ปุ้ยสาวหลังลายเฟสสำรอง” ซึ่งเจ้าของเฟซบุ๊กดังกล่าวเปิดร้านชายเสื้อผ้าอยู่ในแหล่งชุมชน ห่างจากสถานศึกษา400 เมตรและจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าร้านดังกล่าวเคยถูกด˚าเนินคดีเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้ามาแล้ว เมื่อปี 2567 เนื่องจากถูกร้องเรียนว่าได้จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าให้แก่เยาวชนในพื้นที่ จึงได้ด˚าเนินการสืบสวนและละรวบรวม พยานหลักฐาน จนสามารถขออนุมัติศาลออกหมายค้นได้สำเร็จ

กระทั่งช่วงเที่ยงของวันที่ 18ม.ค.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกันได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดหนองบัวลำภูที่

ค 10/2568 ลง 18 มี.ค.68 เข้าทำการตรวจค้นร้านขายเสื้อผ้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ หมู่13 ต.เมืองใหม่อ.ศรีบุญเรือง จ. หนองบัวลำภูพบ น.ส.สุดฤทัย อายุ 35 ปี แสดงตนเป็นผู้ครอบครองสถานที่ดังกล่าวผลการตรวจค้นพบเครื่องบุหรี่ไฟฟ้า แบบชาร์จไฟฟ้า จำนวน 2,หัวพอตบหรี่ไฟฟ้า คละสี คละกลิ่น จำนวน24ชิ้น, น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า คละสีคละกลิ่น จำนวน 19 ขึ้น,หัวคอยน์หรือหัวจุดดูดบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 14 ชิ้นชุกซ่อนอยู่ภายร้านดังกล่าวนอกจากนี้ กก.1 บก.สอท.3 ยังได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐภูมิ อายุ 20 ปี ในข้อหา “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ หรือรับไว้ด้วยประการใดซึ่งของอัน ตนรู้ว่าเป็นของที่เข้ามาในราชอาณาจักร โดยยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง” พร้อมของของกลางบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 8 ชิ้น โดยควบคุมตัวได้ที่บ้ายหลังหนึ่งในพื้นที่ ม.2 ต.หนองแปน อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธ์ุ อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม ความผิดเกี่ยวกับบุหรี่ไฟฟ้าและความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอื่นๆ เป็นประเด็นที่รัฐบาลและ สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังให้ความสำคัญคัญ ตำรวจไซไซเบอร์จึงเพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนและการประสานงาน กับหน่วยงานต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อขยายผลและหาข้อมูลเชื่อมโยงไปยังระดับผู้ปฏิปฏิบัติรายอื่นๆ จนสาวไปถึงผู้ที่อยู่ เบื้องหลังที่คอยสั่งการ เพื่อเร่งนำตัวผู้ต้องหาทั้งขบวนการมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป