TikTok ประเทศไทย เผยแนวคิด Tiktok For All เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทย เพื่อสร้างโอกาสให้กับครีเอเตอร์ ธุรกิจและคอมมูนิตี้ไทย

ทาง Tiktok มองว่าตัวเองไม่ได้เป็นโซเชียลมีเดียแต่แพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนต์ที่น่าเชื่อถือ (Trusted Entertainment Platform) ที่เปิดให้ทุกคนเข้ามาใช้งานได้อย่างมั่นใจ นั่นจึงเป็นที่มาของแนวคิด “TikTok For All” ในปีนี้ เพื่อต้องการสร้างแรงกระเพิ่มเชิงบวกให้กับประเทศไทย ทั้งครีเอเตอร์ ธุรกิจและคอมมูนิตี้ไทย โดยให้ความสำคัญ 3 ด้านคือ

  • Smart Economy ไทยมีมีครีเอเตอร์มากกว่า 3 ล้านคนที่สร้างรายได้จาก TikTok และมีผู้ขายมากกว่า 2.4 ล้านคน (โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ) ที่ได้รับการสนับสนุนจาก TikTok  ในปี 2564 อุตสาหกรรมครีเอทีฟของประเทศไทยมีมูลค่าประมาณ 1.1 ล้านล้านบาท คิดเป็น 6.81% ของ GDP ของประเทศ โดยในปี 2565 จำนวนบุคลากรที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมนี้เพิ่มขึ้นถึง 963,549 คน ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเติบโตของอุตสาหกรรมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
  • Smart People มอบทักษะและความรู้ด้านดิจิทัลเพื่อยกระดับความรู้และทักษะให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทย โดยร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เช่น กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, กรุงเทพมหานคร (BMA) นอกจากนี้ TikTok ยังจัดโปรแกรมอบรมทักษะดิจิทัลสำหรับธุรกิจท้องถิ่น โดยความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น (OTOP) จำนวน 532 แห่งทั่วประเทศในเฟสแรก โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนอีกกว่า 1,000 แห่งในปีนี้ ทั้งนี้ TikTok ยังคงสร้างโอกาสอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนให้เกิด positive impact ผ่านแคมเปญต่างๆ เพื่อคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทยทุกคน
  • Smart Eviroment มีการทำแคมเปญด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆอย่าง ไม่เทรวมเพื่อส่งเสริมการแยกขยะ, การสร้างความตื่นตัวเรื่องปัญหาสภาพอากาศ

ชนิดา คล้ายพันธ์, Head of Public Policy – Thailand กล่าวว่า “TikTok ยังคงมุ่งมั่นในการสนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์อย่างยั่งยืน โดยเราขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ผ่านแนวคิด TikTok for Smart Economy, Smart People, and Smart Environment แนวคิดนี้ช่วยให้ทุกคนสามารถแบ่งปันเรื่องราวผ่านความคิดสร้างสรรค์ และเป็นแรงบันดาลใจให้สร้าง positive impact ผ่านแคมเปญที่หลากหลายของเราที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และความยั่งยืน”

TikTok มอบทักษะและความรู้ด้านดิจิทัลเพื่อยกระดับความรู้และทักษะให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทย รวมถึงหลักสูตรออนไลน์ความรู้ด้านดิจิทัลสำหรับเยาวชนไทย โดยความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร (BMA) นอกจากนี้ TikTok ยังจัดโปรแกรมอบรมทักษะดิจิทัลสำหรับธุรกิจท้องถิ่น โดยความร่วมมือกับกรมพัฒนาชุมชน สนับสนุนธุรกิจท้องถิ่น (OTOP) จำนวน 532 แห่งทั่วประเทศในเฟสแรก โดยตั้งเป้าเพิ่มจำนวนอีกกว่า 1,000 แห่งในปีนี้ ทั้งนี้ TikTok ยังคงสร้างโอกาสอย่างต่อเนื่องเพื่อสนับสนุนให้เกิด positive impact ผ่านแคมเปญต่างๆ เพื่อคอมมูนิตี้ผู้ใช้ชาวไทยทุกคน

ครีเอเตอร์และคอนเทนท์

ตอนนี้มีผู้ใช้งาน TikTok เป็นประจำในอาเชียนเดือนละ 325 ล้านคน และมีธุรกิจบนแพลตฟอร์มมากว่า 15 ล้านธุรกิจ TikTok มองว่า ครีเอเตอร์ เป็นกลไกสำคัญในเรื่องของเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ผ่านการนำคอนเทนท์ต่างๆ ซึ่งครีเอเตอร์ไทยบางส่วนได้ใช้แพลตฟอร์มทำให้เกิดรายได้ผ่าน Content Driven Commerce ในระดับ Local ดังนั้น TikTok จึงสร้างระบบนิเวศแบบครบวงจรเพื่อส่งเสริมการสร้างคอนเทนท์ เริ่มตั้งแต่การสนับสนุนให้ครีเอเตอร์พัฒนาตัวเอง ด้วยเครื่องมือและองค์ความรู้ต่างๆ มีการจัด Workshop เป็นประจำเพื่ออัปเดตการทำคอนเทนท์ รวมถึงแบ่งปันประสบการณ์

ที่น่าสนใจไทยยังเป็นที่แรกที่ตั้ง TikTok House ที่เป็นที่พบปะ เทรนนิ่ง รวมถึงจัดกิจกรรมต่างๆให้กับครีเอเตอร์ ซึ่งโมเดลนี้จะมีการขยายไปยังประเทศอื่นๆมากขึ้นในปีนี้

ในส่วนของคอนเทนท์นั้นทาง TikTok เผยว่า เทรนด์ในปี 2024 คอนเทนท์ที่ได้รับความนิยมนั้น คือ คอนเทนท์ที่สนุก , คอนเทนท์ที่สร้างแรงบันดาลใจ, คอนเทนท์จากครีเอเตอร์หน้าใหม่ที่มาแรง โดยหมวดหมู่ที่มาแรงคือ บันเทิง , ท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ, ความสวยความงาม, ไทยแฟชัน, กีฬา, หนังสือ และเกม

ในปีนี้เราจะได้เห็น Entertainment Hub ซึ่งจะเป็นศูนย์รวมความบันเทิงระดับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจะรวมรายการ, ซีรีส์, ภาพยนตร์ต่างๆเอาไว้ในที่เดียว ซึ่งมีการดีลลิขสิทธิ์จาก Publisher ไว้เรียบร้อยแล้ว

ทาง TikTok เองก็จะมีการเพิ่มคลิปที่มีความยาวมากกว่า 1 นาทีมากขึ้น เพราะเห็นสถิติที่น่าสนใจ

  • ผู้ชม 50% ดูคลิปที่มีความยาวเกิน 1 นาที
  • ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คนที่ทำคลิปความยาวเกิน 1 นาที ได้ผู้ติดตามเพิ่มขึ้น 5 เท่า
  • ยอดวิวคลิปความยาว 1 นาทีอัตราการดูเพิ่มขึ้นมากกว่า 41%
  • ระยะเวลาดูคลิป 1 นาทีโดยรวมเพิ่มขึ้น 31%

แต่อย่างไรก็ตามทาง TikTok เน้นย้ำว่าคุณภาพและความคิดสน้างสรรค์ในการนำเสนอเป็นเรื่องที่ครีเอเตอร์ควรให้ความสำคัญเป็นอันดับแรก

นอกจากนั้น TikTok ยังสร้างโอกาสให้กับเหล่าครีเอเตอร์ได้เติบโตขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพาไปสัมผัสกับงานในต่างประเทศ การ Collab กับครีเอเตอร์ต่างชาติเพื่อขยายฐานผู้ติดตามให้มากขึ้น

พิสุทธิ์ โรจน์เลิศจรรยา, Head of Operations – Thailand กล่าวว่า “TikTok ตั้งเป้าในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ให้กับประเทศไทยโดยให้การสนับสนุนคนไทยผ่านอีโคซิสเต็มบนแพลตฟอร์มที่สมบูรณ์ ความมุ่งมั่นของเราคือการส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การสร้างสรรค์คอนเทนต์ให้กับคอมมูนิตี้ผู้ใช้ของเรา รวมถึงการค้นหา และเพลิดเพลินไปกับคอนเทนต์ต่างๆ ได้อย่างปลอดภัย แพลตฟอร์มของเรายังสร้างโอกาสและมุ่งมั่นในการปลดล็อคความเป็นไปได้ให้กับครีเอเตอร์ของเราในการสร้างคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผลงานเพื่อรักษาและยกระดับความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขา”

TikTok ได้พัฒนาไปมากกว่าการเป็นแพลตฟอร์มเอนเตอร์เทนเมนท์ โดยเป็นตัวเร่งที่ทำให้เกิดช่วงเวลาที่เปลี่ยนแปลงชีวิต (life-changing moments) ของครีเอเตอร์ ในปี 2567 TikTok พร้อมขยายการสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ไปที่พาร์ทเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ด้วยกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟ เช่น เวิร์คช็อปพิเศษสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ผลิตคอนเทนต์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และยังคงสนับสนุนการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต่อไปโดยขยายความร่วมมือระดับเวิลด์คลาสกับครีเอเตอร์ระดับโลก ช่วยให้ครีเอทีฟคอมมูนิตี้ที่หลากหลายสามารถแบ่งปันข้อมูลและประสบการณ์ไปพร้อมๆ กับเพิ่มขีดความสามารถของตนเอง

ภาคธุรกิจ

ฝั่งของภาคธุรกิจนั้นมี TikTok Shop เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อมต่อ ผู้ซื้อ ผู้ขาย และครีเอเตอร์เข้าด้วยกัน โดยผสาน entertainment กับ Commerce เข้าด้วยกันในแนวคิด “Shopertainment” สร้างรายได้จากความคิดสร้างสรรค์ ผู้ใช้สามารถเข้าใช้งานได้ทั้งผ่าน Shopping Center, Product Showcase, Live Shopping และ Video Shoping

จุดเด่นของ Tiktok คือ ให้ประสบการณ์ช้อปปิ้งแบบครบวงจร ตั้งแต่การค้นหา พิจารณาข้อมูล รีวิว จนไปถึงการซื้อได้ในที่เดียว ตอนนี้มี SMB ไทยอยู่บน Tiktok แล้วกว่า 2.4 ล้านราย เปิดให้พบเจอ พูดคุยกับลูกค้าโดยตรง ปีที่ผ่านมานั้น OTOP กว่า 532 รายก็ขายของได้มากขึ้นเมื่อเข้ามาทำตลาดบนแพลตฟอร์ม ในปีนี้จะมี อีกกว่า 1,000 ธุรกิจไทยเข้ามาเสริมทัพ นอกจากนั้นยังมีการจับมือกับหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น กระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

สิ่งที่ทำให้ TikTok Shop เติบโตอย่างรวดเร็วคือ ความหลายหลายของสินค้าและความสนุกในการใช้งาน สิ่งที่ TikTok Shop โฟกัสก็คือ ความพึงพอใจของลูกค้า เปิดให้ลูกค้ารวิวสินค้าที่ซื้อไป รับประกันความพอใจมีการคืนเงินเมื่อของไม่ตรงปก รวมถึงการให้ผู้ซื้อได้ดีลที่ดีที่สุดทั้งจากแบรนด์เองหรือ Flash Sales รวมถึงเปิดให้ครีเอเตอร์สร้างรายได้จาก Affiliate marketing ได้

กรณิการ์ นิวัติศัยวงศ์, Head of FMCG, E-Commerce – Thailand กล่าวว่า “TikTok Shop คือ อีโคซิสเต็มอีคอมเมิร์ซแบบครบวงจรซึ่งผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากการค้นพบไปสู่การตัดสินใจได้ในเวลาเพียงไม่กี่วินาที เราสร้างประสบการณ์การช้อปปิ้งแบบ infinity loop โดยทำให้ผู้ใช้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่นตั้งแต่การค้นพบไปจนถึงการพิจารณา การซื้อ และการรีวิว แล้วกลับไปสู่การค้นพบอีกครั้ง ปัจจุบันเราสนับสนุนผู้ขายจำนวนมากกว่า 2.4 ล้านราย โดย 99% เป็นผู้ขายในประเทศ เรายังคงส่งเสริมการมีส่วนร่วมระหว่างผู้ขายและผู้บริโภค ซึ่งมีส่วนช่วยทำให้เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศเติบโต”

ในปี 2567 TikTok มุ่งมั่นที่จะให้การสนับสนุนแก่ผู้ขายและธุรกิจในท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มศักยภาพให้พวกเขาเติบโตและคว้าโอกาสทางธุรกิจได้ โดย TikTok ช่วยเพิ่มโอกาสทางธุรกิจอีคอมเมิร์ซผ่านการควบรวมคอนเทนต์ความบันเทิงและคอมเมิร์ซเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มขีดความสามารถให้กับประสบการณ์ช็อปปิ้งอย่างราบรื่นไร้รอยต่อ

Brand

ฝั่งแบรนด์ที่เข้ามาใน TikTok ปีนี้ก็จะมีการนำเสนอข้อมูลผู้บริโภคในเชิงลึกขึ้นทั้งสถิติและการศึกษาต่างๆเพื่อให้ทำการตลาดได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

ผลักดัน Shoppertainment 2.0 หรือการป้ายยาเพื่อให้เกิด Commerce สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ ผ่านคอนเทนท์ต่างๆ ซึ่ง 71% ของคนที่รับชมวิดีโอถูกกระตุ้นให้ซื้อสินค้า มีการคาดการณ์ว่าภายในปี 2025 TikTok จะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้ภูมิภาค APAC ได้ 1 ล้านล้านดอลลาร์ โดยไทยจะมีอัตราการเติบโตสูงสุดอยู่ที่ 12,400 ล้านดอลลาร์

ต่อมาคือช่วยแบรนด์ในการทำคลิปให้มีประสิทธิภาพขึ้นผ่านเครื่องมือต่างๆ เช่น Creative Center สำหรับดูแฮชแท็ก/เพลงที่กำลังติดเทรนด์ , TikTok Smart Creative ตัวช่วยสร้างชิ้นงานอัตโนมัติ, TikTok Creative Exchange เปิดให้แบรนด์จับคู่กับครีเอเตอร์มาช่วยผลิตคอนเทนท์ และ TikTok Ads Academy สุดท้ายคือ TikTok Works การวัดผลการตลาดอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในเรื่องของมีเดีย แบรนด์และยอดขาย

ชลธิชา งามกมลเลิศ, Head of Client Partnership, TikTok กล่าวว่า “ในฐานะของแพลตฟอร์มเอ็นเตอร์เทนเมนท์ที่สร้าง impact TikTok ได้พัฒนาไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มแบบไดนามิกที่ช่วยให้แบรนด์สามารถสื่อสารเรื่องราวของตนได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้าง positive impact ในปี 2567 TikTok ตั้งเป้าที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค (CPG), คอมเมิร์ซ, อาหารและเครื่องดื่ม (F&B), ยานยนต์, การเงิน, และแอปพลิเคชั่น ด้วยการผสมผสานคอนเทนต์แบบไดนามิก และกลยุทธ์อีคอมเมิร์ซ โดยเรายังคงมุ่งมั่นในการเร่งสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจในทุกขนาด”