ช่วงโปรโมชั่นที่หลายคนนั้นรอคอยในการช็อปสินค้า IT เพราะเห็นว่ามันถูกและน่าสนใจคือ เทศกาลลดล้างสต็อค ซึ่งเกิดขึ้นบ่อยมาก เพราะการเปลี่ยนแปลงของสินค้า IT ค่อนข้างรวดเร็ว แล้วเราจะดูยังไงให้คุ้มค่าที่สุดและได้กลับบ้านแบบสบายใจไม่ต้องห่วงว่ามันจะมีปัญหา วันนี้มีวิธีเลือกซื้อสินค้า IT แบบ Clearance มาฝากกัน

เลือกสเปคและราคาที่ต้องการก่อน

สเปคของอุปกรณ์ IT และคอมพิวเตอร์นั้นมีความหลากหลายและมีราคาที่แตกต่างกัน เราควรว่าดูที่เราใช้งานได้และพอกับงบประมาณ เช่น ถ้าต้องการ Notebook ที่ทำงานหลายอย่างได้พร้อมกัน ควรจะดู CPU เช่น Intel Core i5 พร้อมกับ RAM 8GB เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ แต่ถ้าเกิดเจอ RAM 4GB ก็ต้องมาเพิ่มที่หลังแต่จะได้เครื่องที่ราคาถูกกว่า หรือมือถือควรจะดูรุ่นที่ไม่เก่าเกินไปจะได้สามารถใช้งานออกไปได้ประมาณ 1-2 ปีอย่างต่ำ

ดูที่ตำหนิของสินค้า

หากสินค้าสามารถแกะออกมาดูจากกล้องได้ ตามมุมด้านหน้าด้านใต้ด้านหลังควรจะดูร่องรอยความเสียหายที่อาจจะเกิดจากการขนส่งหรือตกจากคลังสินค้าก็เป็นได้ ซึ่งร่องรอยเหล่านี้ถ้าไม่ได้เยอะ ถือว่าสอบผ่าน แต่ถ้าเป็นรอยบุบแล้วราคาแพง แนะนำว่าไม่ควรซื้ออย่างยิ่ง

ถามระยะประกันจากคนขาย

เป็นไปได้ว่าสินค้า IT บางอย่างอาจจะมีประกันอยู่ หากคิดว่าไม่แน่ใจ คนขายก็สามารถช่วยเราดูว่าเครื่องนี้เหลือประกันแล้วหรือไม่ก็ได้เช่นกัน จุดนี้จะทำให้เราอุ่นใจเวลาใช้งาน หากเหลือประกันก็สามารถเข้าศูนย์ของยี่ห้อนั้น ๆ ได้ทันที

ถามเรื่องถ้าเกิดเสียแล้วสามารถส่งซ่อมได้ที่ไหน

เป็นอีกสิ่งที่ควรถามเพราะร้านค้า IT ใหญ่ ๆ ชอบนำสินค้ามาลดราคาเสมอ ทำให้หลายคนนั้นเลือกซื้อมาใช้กัน แต่หากเสียและระยะประกันไม่ได้นั้นการส่งร้านที่เคยซื้อมาก็เป็นอีกทางเลือกที่ดีไม่น้อย ซึ่งถ้าส่งได้ก็เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับเรา  ๆ ท่าน ๆ ได้เช่นกัน

ก่อนจ่ายเงิน ตรวจสอบว่าทุกอย่างยังคงใช้งานได้ดีหรือไม่

เป็นสิ่งสุดท้ายที่ก่อนจ่ายเงินควรตรวจสอบทันทีไม่ว่าจะเป็นสินค้า IT แบบไหนก็ตาม เพราะถ้าหากเราซื้อไปแล้วของกลับใช้งานไม่ได้นั้น มันจะทำให้เราเสียประโยชน์อย่างมาก เพราะเหมือนกับต้องแบกที่ทับกระดาษไปตลอดเวลา จนทำให้เรามีอคติกับ Brnad และร้านค้านั้นได้ ฉะนั้นลองเช็คให้ดีก่อนเปิดเล่นลองใช้นาน ๆ ว่ามัน OK หรือไม่ ถ้าร้านไม่ให้เปิดลองนั้น ไม่ต้องซื้อจะดีที่สุด ยกเว้นของจะอยู่ในแพ็คแบบใหม่เอียมไม่เคยแกะ