หลังงานของ Apple รายละเอียดเพิ่มเติมของอุปกรณ์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไป ก็มีออกมาเรื่อยๆ และนี่คือข้อมูลชุดใหม่ที่คุณอาจจะยังไม่รู้
1.Bluetooth 4.2
อุปกรณ์ใหม่เกือบทุกตัวใช้บลูทูธ 4.2 (ยกเว้น Apple TV รุ่นใหม่ ที่น่าจะเป็น HUB การสั่งงานของ Homekit ที่ยังรองรับแค่ บลูทูธ 4.0) ข้อดีก็คือ กินไฟน้อยลง นอกจากนั้นด้านความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยก็เพิ่มขึ้นด้วย ความเร็วในการเชื่อมต่อเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า ซึ่งก่อนหน้านี้ไอพอดทัชเจน 6 ก็อัพเดทไปใช้ก่อนแล้ว จึงไม่แปลกที่อุปกรณ์รุ่นใหม่ๆจะเปลี่ยนมาใช้ตาม
2) หน้าตาของ iPhone 6s และ 6s Plus ไม่ต่างจากเดิม แต่ดูหนักแน่นขึ้น เพราะรุ่นใหม่เลือกใช้อลูมิเนียมซีรีย์ 7000 ที่แข็งแรงขึ้น รวมถึงจอใหม่รองรับ Force Touch ขนาดเครื่องหนาขึ้นนิดหน่อย 0.1 มิลลิเมตร ส่วนน้ำหนักก็เพิ่มขึ้นอีกนิดหน่อย
3) กล่องของ iPhone 6s ใช้รูปปลากัด ซึ่งเป็นรุ่นแรกที่นำใช้ภาพอื่นมาประกอบ ซึ่งรูปนี้ทีมงานมาถ่ายถึงประเทศไทยซะด้วย ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาค่ะ
4) รายละเอียดกล้องของ iPhone 6s นั้น อย่างที่รู้กันว่ากล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล คุณภาพกล้องดีขึ้น ความละเอียดดีขึ้น 50% higher ส่วนขนาดพิกเซลลดลงจาก 1.5µ เป็น 1.22µ ซึ่งจะช่วยลด noise ได้ดีขึ้น โหมดพาโนรามาถ่ายได้ถึง 63 ล้านจากเดิม 43 ล้าน ส่วนกล้องหน้าเพิ่มจาก 1.2 ล้านเป็น 5 ล้านช่วยให้ถ่ายเซลฟีได้ชัดขึ้น
สิ่งที่ไม่ได้กล่าวบนเวทีก็คือ Optical Image Stabilization ที่เอาไว้ช่วยถ่ายภาพเคลื่อนไหวและภาพในสภาวะแสงน้อยให้ดีขึ้น ข่าวร้ายก็คือ OIS ยังมีเฉพาะบน iPhone 6s Plus เท่านั้น ส่วน iPhone 6s ยังเป็นซอฟท์แวร์กันสั่นเหมือนเดิม นอกจากนั้นฟีเจอร์ใน iOS 9 ที่ชื่อว่า “Playback Zoom” จะช่วยให้ผู้ใช้สามารถเลือกซูมเฉาพจุดบนวิดีโอที่ถ่ายมาแล้ว ซึ่งฟีเจอร์นี้ไอโฟนรุ่นเก่าหมดสิทธิ์ใช้งานค่ะ
5) ในส่วนของการเชื่อมต่อ ไอโฟนรุ่นใหม่จะแยกเป็นสองโมเดลสำหรับย่านความถี่ที่ต่างกัน รุ่นแรกจะรองรับ CDMA EV-DO Rev ส่วนอีกรุ่นรองรับ LTE Band 30 อันนี้ก็แล้วแต่ประเทศที่วางจำห่ายค่ะว่าประเทศไหนรองรับย่านความถี่อะไรบ้าง
6) iPad mini 4 เปิดตัวอย่างเงียบๆ รุ่นใหม่นี้ตัวเครื่องบางลงเหลือแค่ 6.1 มิลลิเมตร แต่ยาวขึ้น 3.2 มิลลิเมตรหน้าจอเคลือบกันแสงสะท้อน จึงช่วยภาพที่ได้คมชัดสีสันสมจริงเหมือนกับ iPad Air ส่วนสเปคนั้นมาพร้อมกับซีพียู A8 ถือว่าต่างจากไอแพดแอร์ 2 ที่ใช้ชิพ A8X ส่วนแบตเตอรี่ยังไม่มีข้อมูลว่าเพิ่มขึ้นรึไม่ ส่วนกล้องก็ปรับให้มีความละเอียดเท่าไอแพดแอร์ 2
7) การชาร์จและขนาดแบตเตอรี่ของ iPad Pro ไม่มีการพูดถึงบนเวที นั่นเป็นเพราะว่าใช้กับอแดปเตอร์ชาร์จของไอแพดได้ค่ะ ซึ่ง iPad Pro จะใช้แบตเตอรี่ 38.5WHr ซึ่งมีขนาดเล็กกว่าแบตของ iPad 3 และ iPad 4 ที่ใช้แบต 42.5Whr นั่นหมายความว่าอแดปเตอร์ 12W ของไอแพดทั่วไปนำมาใช้กับ iPad Pro ได้ ซึ่งเวลาชาร์จก็ประมาณไม่ถึง 5 ชั่วโมง
8) Smart Keyboard, Smart Connector และคีย์บอร์ดของ Logitech หน้าตาของ Smart Keyboard จะคล้ายกับ Fabric Skin Keyboard Folio ที่ทาง Logitech เคยวางขายเมื่อปีก่อน นั่นอาจจะเป็นผลให้ Logitech กลายเป็นพันธมิตรรายแรกที่ผลิตคีย์บอร์ดให้ไอแพดโปรเป็นรายแรก
ส่วน Smart Connector ไม่ใช่แค่ออกแบบมาสำหรับใช้งานกับอุปกรณ์เสริมต่างๆเท่านั้น แต่ยังมีประโยชน์ในการช่วยชาร์จเครื่องแนวนอนได้ด้วย
9) Apple TV มาพร้อมกับแพคเกจใหม่กล่องสีดำ ขนาดกว้างยาวเท่าเดิมแต่ตัวเครื่องสูงขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 50% ขนาดที่เพิ่มขึ้นเพราะใส่ 802.11ac with MIMO ที่เสาอาการใหญ่ขึ้นและหน่วยเก็บข้อมูล ส่วนของฮาร์ดแวร์รองรับ Dolby Digital 7.1 (เดิมรองรับแค่ 5.1), HDMI 1.4 รับส่งข้อมูลเร็วขึ้น/ให้สีสันดีขึ้น/แสดงผล 3D ดีขึ้น และ USB-C ที่มาแทน micro-USB, RAM 2GB เรียกว่าเพียงพอต่อการเล่นเกม
10) รีโมท Apple TV มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อม touch surface สำหรับสั่งงานด้วยการสัมผัสอยู่ด้านบน ด้านล่างมาพร้อมสาย Lightning to USB สำหรับชาร์จ
VIA 9to5mac





