ประเดิมงาน OPPO Inno day 2022 วันแรก OPPO ประกาศเปิดตัว 2 อุปกรณ์ใหม่ทั้งAir Glass 2 แว่นตาอัจฉริยะ, OHealth H1 ตัวช่วยดูแลสุขภาพและ MariSilicon Y ชิปเสียงคุณภาพสูง

งานนี้เรียกว่าผู้บริหารได้ใส่ Air Glass 2 ขึ้นพูดใน KeyNote โชว์ดีไซน์ที่รอบนี้ออกแบบให้เหมือนแว่นตาทั่วไป ใส่ใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ ชูจุดเด่นที่น้ำหนักเบาแค่ 38 กรัมเท่านั้น ในส่วนของเลนส์นั้นใช้ SRG-Diffactive waveguide ที่ทาง OPPO พัฒนาขึ้น ช่วยปรับการมองเห็นและปรับแต่งได้ รวมถึงตัว Micro-LED Projector พัฒนาให้มีขนาดเล็กลงจึงทำให้แว่นมีขนาดเล็กลง
นอกจากนั้นยังมีการเพิ่มลำโพงและไมโครโฟนทำให้ใช้งานได้หลากหลายขึ้น ไม่ว่าจะเป็นใช้เป็น Teleprompter ฟังเพลง รับสายโทรศัพท์ แปลภาษา เปลี่ยนคำพูดเป็นข้อความ หรือนำทางได้แบบ Real-time ซึ่งทาง OPPO ตั้งเป้าว่าแว่นตาคู่นี้จะกลายเป็นผู้ช่วยอัจฉริยะเพื่อให้ใช้ชีวิตได้สะดวกสบายขึ้น
MariSilicon Y
ชิปรุ่นที่สองที่ทาง OPPO พัฒนาขึ้นเพื่อสร้างประสบการณ์เสียงที่ยอดเยี่ยม โชว์ความเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีด้าน Audio ซึ่ง MariSilicon Y เป็น SoC ออกแบบมาเพื่อแก้ปัญหาโปรโตคอลของบลูทูธที่ไม่สามารถสตรีมไฟล์ความละเอียดสูงได้ ซึ่ง MariSilicon Y จะมีอัตราการรับส่งข้อมูลที่ความเร็ว 12 Mbps (เพิ่มขึ้น 50% เมื่อเทียบกับมาตรฐานเดิม) โดยใช้เทคโนโลยีใหม่ N6RF สำหรับการเชื่อมต่อไร้สาย

เสริมด้วย Pro Bluetooth Pack ช่วยให่ส่งไฟล์เสียงความละเอียดสูง 24-bit/192kHz ผ่านบลูทูธได้สบายๆ ซึ่งคุณภาพเสียงที่ได้นั้นจะเป็นระดับเดียวกับการเสียบสายหูฟัง
ต่อมาคือเรื่องของ Codec ที่พัฒนาเองในชื่อว่า Ultra Resolution Lossless Codec (URLC) ช่วยเพิ่มอัตราการบีบอัดให้สูงสุดโดยไม่สูญเสียคุณภาพเสียง นอกจากนั้น URLC ยังรองรับ Adaptive data rate ปรับตามแบนด์วิดท์ให้อัตโนมัติ
MariSilicon Y ถือเป็นชิปเสียงตัวเดียวที่มี NPU ในตัว มี AI ที่สามารถประมวลผล 590 GOPS ช่วยให้ผู้ใช้ได้รับคุณภาพเสียงที่ดีเยี่ยม คมชัด สมจริงและรอบทิศทางให้เข้ากับแต่ละบุคคล แถมยังเปิดกว้างในการต่อยอด AI ด้านการใช้งานเสียงในรูปแบบใหม่ๆ
สุดท้ายคือเรื่องของการประหยัดพลังงาน เพิ่มขึ้น 66% ในขณะที่ขนาดของ Tranciever ลดลง 33%
OHealth H1
OHealth ถือเป็นแบรนด์ย่อยที่นำเสนอบริการด้านสุขภาพโดยเฉพาะ ซึ่งจะชูเรื่องของ Proactive Healthcare หรือดูแลและป้องกันตัวเองก่อนจะเกิดโรคต่างๆ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการรักษา

ผลิตภัณฑ์ชิ้นแรกที่ออกมาทำตลาดคือ OHealth H1 ซึ่งออกแบบมาให้สามารถดูแลสมาชิกในครอบครัวได้สูงสุด 6 คน ภายในมาพร้อมสารพัดเซนเซอร์ ทั้ง การวัดระดับออกซิเจนในเลือด, ECG อัตราการเต้นของหัวใจ การฟังเสียงปอด อุณหภูมิร่างกายและการนอน
ตัวเครื่องมีรูปทรงโค้งรับการฝ่ามือ น้ำหนักแค่ 95 กรัมเท่านั้น ออกแบบให้เป็นมิตรเพื่อให้ทุกคนใช้งานได้บ่อยๆ แม้แต่เด็กๆใช้งานได้ง่าย วัดครั้งเดียวเก็บข้อมูลได้ครบ แถมยังมี AI มาช่วยประเมินความเสี่ยงและอาการผิดปกติ เช่น หัวใจเต้นผิดจังหวะ หัวใจเต้นสั่นพริ้ว โดยข้อมูลทั้งหมดจะถูกส่งไปยังแอปบรมือถือ รวมถึงส่งต่อให้แพทย์ที่ดูแลรักษาได้
ส่วนเรื่องของความเป็นส่วนตัวนั้น ข้อมูลสุขภาพทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในตัวอุปกรณ์ ผู้ใช้สามารถควบคุมได้ว่าข้อมูลจะถูกใช้อย่างไร แชร์กับใครได้บ้าง การอัปโหลดขึ้น Cloud นั้นผู้ใช้จะต้องทำการอนุญาตก่อนและจะเห็นได้เฉพาะแพทย์ที่ได้รับอนุญาตในการรักษาเท่านั้น