Apple ประกาศเปลี่ยนแปลงกฎของ App Store เพื่อให้สอดรับกับข้อพิพาธทางกฎหมายกับนักพัฒนาในสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นคือเปิดให้นักพัฒนาสามารถจ่ายเงินช่องทางอื่นนอกแอปของตัวเองได้ซึ่งจะทำให้ไม่จำเป็นต้องจ่ายส่งนแบ่งให้ Apple

ค่ายไอทียักษ์ใหญ่ไม่ว่าจะเป็น Google, Facebook, Amazon และ Apple นั้นเริ่มถูกหน่วยงานของสหรัฐเพ่งเล็งในเแง่ของการการผูกขาดตลาดซึ่งเริ่มดำเนินการสอบสวนมาตั้งแต่ปี 2019 ทางฝั่งของ Apple นั้นก็เจอข้อกล่าวหาว่าผูกขาดตลาดในเรื่องของ App Store การบังคับให้ใช้ระบบจ่ายเงินของ Apple ซึ่งจะต้องหักส่วนแบ่งให้ ทำให้เกิดการกีดกั้นเรื่องของการแข่งขัน โดยเฉพาะนักพัฒนารายย่อยที่อาจจะไม่มีเงินทุนไปสู้กับริษัทใหญ่ๆ ล่าสุดทาง Apple ประกาศความเปลี่ยนแปลงหลายเรื่องที่จะเกิดขึ้นบน App Store  ซึ่งจะยุติปัญหาการดำเนินคดีแบบกลุ่มจากนักพัฒนาในสหรัฐฯ

มอบความยืดยุ่นและแหล่งข้อมูลให้กับนักพัฒนารายเล็กมากขึ้น

หลังจากการเจรจา Apple และโจทก์ในคดีข้อพิพาทระหว่างนักพัฒนา Cameron et al v. Apple Inc. ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกัน โดยสามารถสรุปออกมาเป็นลำดับความสำคัญที่ Apple และนักพัฒนารายเล็กเห็นพ้องต้องกัน 7 ประการ ซึ่งได้รับการส่งให้ผู้พิพากษาผู้ดูแลคดีพิจารณาอนุญาตแล้ว
  • Apple และนักพัฒนาตกลงที่จะใช้โครงสร้างปัจจุบันในโปรแกรมต่อไปอีกอย่างน้อย 3 ปี ธุรกิจที่มีรายได้ต่อปีต่ำกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะได้รับประโยชน์จากค่าคอมมิชชั่นที่ถูกลงต่อไป ขณะที่นักพัฒนารายใหญ่กว่าจะต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นให้กับ App Store ในอัตรามาตรฐานสำหรับการซื้อแอปและการชำระเงินในแอป
  • การค้นหาของ App Store ทำให้ลูกค้าเจอแอปที่กำลังค้นหาอยู่ได้อย่างง่ายดายเสมอมา Apple ได้ตกลงทำตามคำเรียกร้องของนักพัฒนาที่ผลลัพธ์การค้นหาจะแสดงตามลักษณะที่เป็นรูปธรรม เช่น จำนวนการดาวน์โหลด จำนวนดาวที่ให้คะแนน ความเกี่ยวข้องของข้อความ และสิ่งต่างๆ ที่สื่อถึงพฤติกรรมของลูกค้า ข้อตกลงนี้จะส่งผลให้ระบบการค้นหาบน App Store ปัจจุบันของ Apple ยังคงเป็นไปในรูปแบบเดิมอีกอย่างน้อย 3 ปี
  • นักพัฒนาสามารถใช้ช่องทางการสื่อสารต่างๆ เช่น อีเมล เพื่อแชร์ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินนอกแอป iOS นอกจากนี้ นักพัฒนาไม่ต้องชำระค่าคอมมิชชั่นให้แก่ Apple หรือการซื้อที่เกิดขึ้นนอกแอปหรือ App Store เช่นเดิม ผู้ใช้จำเป็นต้องยินยอมในการสื่อสารนั้นๆ และผู้ใช้ยังมีสิทธิ์เลือกไม่รับการสื่อสาร
  • Apple จะยังขยายจำนวนระดับราคาที่มีให้นักพัฒนาสำหรับการสมัครสมาชิก การซื้อในแอป และแอปที่ต้องซื้อเป็นต่ำกว่า 100 ไปจนถึงมากกว่า 500 และนักพัฒนายังสามารถตั้งราคาได้เองต่อไป
  • Apple ยังคงมอบตัวเลือกให้นักพัฒนายื่นคำร้องอุทธรณ์การปฏิเสธแอปหากสงสัยว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งเป็นการดำเนินการที่ยังคงประสบผลสำเร็จ Apple ตกลงที่จะเพิ่มเนื้อหาไปยังเว็บไซต์ App Review เพื่อช่วยให้นักพัฒนาเข้าใจขั้นตอนการยื่นอุทธรณ์
  • Apple จะสร้างรายงานความโปร่งใสประจำปีตามข้อมูลนั้นโดยจะแชร์สถิติที่มีความสำคัญเกี่ยวกับขั้นตอนการตรวจสอบแอป รวมถึงจำนวนแอปที่ถูกปฏิเสธเนื่องด้วยเหตุผลต่างๆ จำนวนบัญชีของลูกค้าและนักพัฒนาที่ถูกระงับ ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมเกี่ยวกับคำค้นหาและผลลัพธ์ และจำนวนแอปที่ถูกลบจาก App Store
  • นอกจากนี้ Apple ยังจะจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือนักพัฒนารายเล็กในสหรัฐฯ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทั่วโลกกำลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 นักพัฒนาที่มีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์จะต้องสร้างรายได้ 1 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือต่ำกว่านั้นผ่านหน้าร้านในสหรัฐฯ สำหรับแอปทั้งหมด ในทุกปีปฏิทินที่นักพัฒนามีบัญชีตามช่วงเวลาระหว่างวันที่ 4 มิถุนายน 2015 และ 26 เมษายน 2021 คิดเป็น 99% ของนักพัฒนาทั้งหมดในสหรัฐฯ โดยบริษัทจะแจ้งรายละเอียดให้ทราบในภายหลัง

การเปิดตัวโปรแกรมพาร์ทเนอร์ใหม่

นอกจากนั้น Apple ยังเปิดตัวโปรแกรมพาร์ทเนอร์ใหม่ เพื่อขยายการสนับสนุนงานสื่อมวลชนของ Apple โดยสื่อและองค์กรข่าวจะเปิดให้ลูกค้าเข้าถึงเนื้อหาบน Apple News โดยใช้รูปแบบการทำข่าวแบบ Apple News องค์กรที่เข้าร่วมจะได้ประโยชน์จากค่าคอมมิชชั่น 15% สำหรับการสมัครสมาชิกในแอปใหม่ที่ตรงตามเกณฑ์