ข่าวลือเรื่องไอโฟน 6 จอใหญ่ขึ้นเป็น 4.7 นิ้วหรือใหญ่กว่านั้นมีออกมาได้สักพักใหญ่ๆแล้ว สื่อต่างๆก็ให้ความสนใจเรื่องนี้ แต่ทำไมแอปเปิ้ลอาจจะต้องยอมกลืนน้ำลายตัวเองทำหน้าจอใหญ่ที่ใช้มือเดียวไม่สะดวกล่ะ
คราวก่อนแค่เปลี่ยนขนาดหน้าจอจาก 3.5 นิ้วเป็น 4 นิ้วก็ก่อปัญหาน่าปวดหัวให้กับเหล่านักพัฒนาแอพ, ผู้ผลิตเคสและระบบนิเวศน์ทั้งหมดที่แอปเปิ้ลสร้างมากับมือ คำตอบก็มาจากการศึกษาวิจัยของแอปเปิ้ลเอง โดยแสดงข้อมูลให้เห็นว่าการเพิ่มขนาดหน้าจอให้ใหญ่ขึ้นเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำ เพราะตลาดของสมาร์ทโฟนในกลุ่มหน้าจอ 4 นิ้วที่ราคาสูงกว่า $300 ไม่มีการเติบโต แถมในภาพรวมยังมีการหดตัวอีกด้วย
ทำไมล่ะ? ภาพสไลด์ด้านล่างนี้แสดงถึงสถานการณ์ของแอปเปิ้ลที่ตกอยู่ในสภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก มันไม่ใช่แค่พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป อยากได้มือถือจอใหญ่ขึ้นในราคาที่ถูกลงแค่ปัจจัยเดียว แต่ยังมีเรื่องผู้ให้บริการเครือข่ายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แม้ว่าแอปเปิ้ลจะมีส่วนแบ่งทางการตลาดที่สูงอยู่ในอเมริกา แต่ส่วนหนึ่งเกิดจากการขายเครื่องในราคาถูกโดยผูกสัญญาสองปีกับผู้ให้บริการเครือข่าย โดยผู้ให้บริการเครือข่ายจะเป็นผู้ออกค่าส่วนต่างของเครื่องให้กับแอปเปิ้ลก่อน ซึ่งวิธีการแบบนี้ผู้ให้บริการเครือข่ายไม่ค่อยปลื้มสักเท่าไหร่ แต่เนื่องจากไอโฟนครองตลาดยังไงก็ต้องขาย
ในฟากของคู่แข่งก็เริ่มพัฒนาทั้งฮาร์ดแวร์,ซอฟท์แวร์และระบบนิเวศน์ให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆจนเห็นได้ชัด รวมถึงมีการทุ่มเงินโฆษณาผ่านสื่อและร้านตัวแทนของผู้ให้บริการเครือข่ายเพื่อให้คนสนใจ โดยซัมซุงเป็นค่ายที่ทุ่มงบประมาณเพื่อโปรโมทมากที่สุด
สิ่งที่แอปเปิ้ลทำได้? แอปเปิ้ลมีตัวเลือกคือ ขายไอโฟนหน้าจอ 4 นิ้วในราคาที่ต่ำกว่า $300 ด้วยการลดกำไรต่อเครื่องหรือไม่ก็ผลิตรุ่นราคาประหยัดออกมาขาย ซึ่งทั้งสองทางเลือกนี้ก็ดูแล้ว่าไม่น่าจะเป็นไปได้สักทาง ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ ผลิตไอโฟนที่หน้าจอใหญ่ขึ้นเพื่อจับตลาดกลุ่มใหม่ที่มีอัตราการเติบโต ในขณะเดียวกันรุ่นเก่าก็ค่อยๆปรับราคาลดลง
ทั้งหมดนี้ก็คือสาเหตุที่แอปเปิ้ลจำเป็นต้องทำไอโฟนจอใหญ่กับเค้าบ้าง
VIA 9to5mac



 
					 
					