เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2003 สตีฟ จ็อบส์ได้ขยายอาณาจักรแอปเปิ้ลไปสู่ธุรกิจใหม่ที่ถือเป็นเดิมพันก้าวที่เสี่ยงมาก นั่นก็คือการขายเพลงดิจิตอล จนเป็นที่มาของ iTunes music store ขึ้นมา

มาถึงวันนี้ก็ครบรอบ 10 ปีของ iTunes แล้วซึ่งตอนนี้มันก็พิสูจน์ตัวเองแล้วว่าเป็นร้านขายเพลงดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดในโลก ครอบคลุม 119 ประเทศทั่วโลก  มีผู้ใช้ลงทะเบียนมากกว่า 435 ล้านคนที่จ่ายเงินซื้อเพลงอย่างสม่ำเสมอ มีเพลงมากกว่า 35 ล้านเพลง ขายเพลงไปแล้วมากกว่า 25,000 ล้านเพลง จนกลายเป็นหนึ่งในช่องทางทำเงินให้กับแอปเปิ้ล แค่ไตรมาสที่ผ่านมาไตรมาสเดียวก็มีรายได้สูงถึง 4,100 ล้านดอลล่าร์

Benedict Evans นักวิเคราะห์จาก Enders Analysis บอกว่าถึงธุรกิจดาวน์โหลดเพลงจะไม่ใหญ่เท่ากับธุรกิจอื่นของแอปเปิ้ล (รายได้จาก iTunes คิดเป็นรายได้แค่ 9% ของแอปเปิ้ลเท่านั้น รายได้หลักๆ 72% มาจากการขายไอโฟนและไอแพด) แต่มันก็สามารถใช้เป็นดัชนีชี้วัดความพึงพอใจของผู้ใช้ได้ เมื่อจำนวนผู้ใช้อุปกรณ์ของแอปเปิ้ลและปริมาณการดาวน์โหลดก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รายได้ต่อเครื่องก็ไม่ได้ตกลงเลย นั่นหมายความว่าผู้ใช้ชื่นชอบและยอมจ่ายเงินคอนเท้นท์เพิ่ม ซึ่งบริการอย่างเพลงที่โหลดจาก iTunes , แอพที่โหลดจาก App store และ iMessage จึงเป็นสิ่งที่ทำให้ผู้ใช้ iOS ยากที่จะเปลี่ยนใจไปใช้แพลตฟอร์มอื่น

หลังจากที่ iTunes ครองความยิ่งใหญ่มาครบ 10 ปี อนาคตมันจะเป็นอย่างไร เพราะตอนนี้เทรนด์ใหม่ของผู้บริโภคก็คือนิยมฟังเพลงผ่านระบบ Streaming มากขึ้น บริการที่คนรู้จักก็มี Spotify, Pandora หรือ Rdio ซึ่งรูปแบบจะใกล้เคียงกันคือคิดค่าบริการรายเดือนเพื่อฟังเพลงได้ไม่จำกัด ล่าสุดแอปเปิ้ลก็มีข่าวลือว่าจะเปิดบริการแบบเดียวกันนี้ ถึงแม้จะมาแย่งรายได้จากการโหลดเพลงและธุรกิจอื่นของแอปเปิ้ล แต่ก็ดีกว่าเสียรายได้ให้บริษัทอื่นโดยไม่ทำอะไรเลย อันนี้เราก็ต้องมาติดตามดูว่าทิศทางในอนาคตของ iTunes จะเป็นยังไงต่อไป

VIA gardian