จากการศึกษาของ University of California พบว่าแอพเกือบครึ่งนึงบน iOS ยังคงใช้ UDID ที่เป็นการละเมิดกฎของแอปเปิ้ล

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา แอปเปิ้ลได้กำหนดเส้นตายให้วันที่ 1 พฤษภาคมให้ทุกแอพเลิกใช้งาน unique device ID (UDID) ซีเรียลนัมเบอร์ความยาว 40 ตัวอักษรที่อยู่ในไอโฟน, ไอแพดและไอพอดชัชที่เอาไว้ระบุตัวตนเพื่อจุดประสงค์ด้านโฆษณาหรือเหตุผลอื่นๆ แต่จากการศึกษาของ University of California พบว่าแอพเกินครึ่งยังคงใช้ UDID อยู่ ซึ่งนั่นเป็นการละเมิดนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปเปิ้ลอย่างชัดเจน

ตามทฤษฎีแล้ว คนที่ใช้ UDID ควรจะเป็นแอปเปิ้ลเพื่อให้คุณสามารถซื้อแอพและคอนเท้นท์ต่างๆจาก App Store และ iTunes บนหลายๆอุปกรณ์ได้โดยไม่ต้องจ่ายเงินซื้อซ้ำ UDID ยังช่วยให้แอปเปิ้ลสร้างเส้นทางของ iMessages ไปยังไอโฟนและไอแพดได้ในเวลาเดียวกัน แต่โชคร้ายที่ผู้พัฒนาแอพเริ่มนำ UDID ไปเชื่อมโยงกับชื่อและที่อยู่ของผู้ใช้ รวมถึงติดตามการใช้งานแอพและอุปกรณ์ต่างๆเพื่อสร้างฐานข้อมูลสำหรับใช้ยิงโฆษณา เมื่อปี 2012 มี UDID 12 ล้านไอดีถูกนำมาเผยแพร่โดยกลุ่มแฮคเกอร์ที่ไม่เปิดเผยตัว นี่แสดงให้เห็นถึงความไม่เป็นส่วนตัวและภัยคุกคามที่อาจจะตามมา

แอปเปิ้ลรับทราบปัญหานี้โดยอออกมาประกาศเมื่อเดือนมีนาคม 2013 ว่าห้ามแอพใหม่หรืออัพเดทแอพเดิมให้เข้าถึง UDID” แต่การสำรวจล่าสุดของนักวิจัยจาก UCSD พบว่ามีแอพถึง 40 % ที่ยังเข้าถึง UDID อยู่แม้ว่าจะเลยเส้นตายที่แอปเปิ้ลกำหนดแล้วก็ยังไม่มีการลงดาบอะไร

ในการเก็บข้อมูลเค้าใช้แอพ ProtectMyPrivacy ที่จะแจ้งเตือนเมื่อมีแอพขอเข้าถึงรายชื่อติดต่อ, พิกัดหรือ UDID แต่ปัจจุบันแอพนี้ได้ถูกถอดออกจาก App Store แล้ว ถ้าใครอยากได้ก็ต้องเจลเบรคแล้วโหลดจาก protectmyprivacy.org แทน
VIA techlicious