นิตยสาร Wired มักจะนำเสนอนวตกรรมโฆษณาในสิ่งพิมพ์ที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้อ่านอย่างสม่ำเสมอ โดยในฉบับประจำเดือนมกราคม 2014 ผู้อ่านจะได้พบกับหน้าโฆษณาของมือถือแบรนด์หนึ่งที่ผู้อ่านสามารถเปลี่ยนสีเคสในภาพได้ ว้าว!!!
เมื่อกลางปีที่แล้ว ซีจำได้ว่า นิตสาร Wired ได้นำเสนอโฆษณารถยนต์ Lexus ด้วยเทคโนโลยี NFC โดยฝังชิปเข้าไปในหน้าโฆษณาบริเวณคอนโซลของรถยนต์ เมื่อผู้อ่านนำสมาร์ทโฟนที่มี NFC มาทาบลงบนหน้าโฆษณา มือถือจะอ่านค่าจากชิป NFC แล้วลิงค์ไปยังคลิปวิดีโอสาธิตการทำงาน เพื่อต่อยอดประสบการณ์โฆษณาจากสิ่งพิมพ์ให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น (ต่อยอดจากภาพนิ่งไปสู่คลิปวิดีโอที่เป็นส่วนหนึ่งของโฆษณา คล้ายๆ กับโฆษณาบนปก aday Bulletins ฉบับหนึ่งใช้ QR code ลิงค์ iPhone ไปยังคลิปวิดีโอยูทูบที่เป็นภาพริมฝีปากของคริส หอวัง กำลังพูดถึงหมากฝรั่งยี่ห้อหนึ่ง) ความจริงยังมีโฆษณานิตยสารไฮเทคอื่นๆ ที่ซีเคยเห็นอีกด้วย เช่น โฆษณาที่ฝังวงจรมือถือพร้อมแบตฯ และชั่วโมงออนไลน์ เพื่อคอนเน็คไปยัง Twitter ลงทุนฝุดๆ สำหรับนิตยสาร Wired ฉบับเดือนมกราคม 2014 โฆษณามือถือ Moto X สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับผู้ที่เห็นโฆษณาชิ้นนี้ได้อย่างน่าสนใจ
จุดเด่นแรกที่พบเห็นตั้งแต่ภายนอกของ Moto X ก็คือ เคสที่มีสีสันหลากหลายตามกระแสมือถือโลก และดูเหมือนจะกลายเป็นแฟชันที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ จนบางทีลืมความสำคัญเรื่องฟังก์ชัน หรือฟีเจอร์อื่นๆไปเลยเหมือนกัน ไม่นับรวมสเป็คเครื่อง ผู้ใช้บางรายยอมได้สเป็คที่แรงน้อยกว่า แต่สวยกว่ากันเลยทีเดียว และด้วยจุดเด่นของเคสมีสีสันหลากหลายนี่เอง โฆษณา Moto X ในนิตยสาร Wired ฉบับมกราคม 2014 จึงไม่ธรรมดา เมื่อพลิกมาถึงหน้าโฆษณาดังกล่าว คุณจะเห็นปุ่มสีสันต่างๆ 11 ปุ่มที่ด้านล่าง ส่วนด้านบนเป็นรูปฝาหลังสีขาวของมือถือรุ่นนี้ ความมหัศจรรย์คือ เมื่อใช้นิ้วแตะบนปุ่มสีต่างๆ ภาพเคสมือถือ Moto X ในหน้าโฆษณาก็จะเปลี่ยนสีไปตามด้วย ทำให้ผู้อ่านได้ประสบการ์ณในการเลือกชมเคสสีต่างๆ ของมือถือรุ่นนี้เป็นเท่าของจริง สีสันจริงๆ อะไรประมาณนั้น ความลับชองลูกเล่นที่พบในโฆษณาชิ้นนี้ก็คือ การใช้ LED ที่ให้แสงสีต่างๆ แผ่นพลาสติกระจายแสง วงจรควบคุมสวิทช์ และแบตเตอรี่กระดุม 4 ก้อน ทั้งหมดซ่อนอยู่ด้านหลังโฆษณาชิ้นนี้่ค่ะ แสงสีของเคสมือถือที่เห็นจะดับลงเองอัตโนมัติ เพื่อประหยัดแบตฯ สำหรับ Wired ฉบับที่มาพร้อมกับโฆษณานี้จะพิมพ์เพียง 150,000 เล่ม วางแผงเฉพาะในนิวยอร์ก และชิคาโกเท่านั้น เห็นแล้วอยากได้จัง
via The Verge
