20 เหตุผลทำไมต้องซื้อ MacBook ตัวใหม่

 IMG_1108 IMG_1121

1. เป็นครั้งแรกที่ Apple มีความหลากหลายของสีมาให้เลือกถึง 3 สี ได้แก่ Gold สีทอง, Silver สีเงิน และ Space Grey สีเทาดำ

2. Ultimate everyday product- เป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของโลกคอมพิวเตอร์พกพาเลยทีเดียว เป็นของที่ใช้ได้ทุกวันทุกเวลาเหมาะสำหรับทุกๆคน ถ้าเทียบกับ MacBook Pro มันจะยุ่งยากกว่า หนักกว่า เหมาะสำหรับช่างภาพ ช่างตัดต่อ ผู้ที่ต้องการสเปคเครื่องสูงๆ ความเร็วสูง ไม่เหมาะกับการแบกไปไหนมาไหน ทำงานทุกๆวัน แต่คนเราในสมัยนี้ไม่ว่าจะไปไหนก็จะเอาคอมไปทำงานด้วยเสมอ  ไม่ว่าจะเป็นร้านกาแฟ ร้านหนังสือหรือที่ไหนก็ตาม แมคบุคตัวใหม่นี้จะง่ายในการพกพา แถมสะดวกสุดๆ

IMG_1127

3. Make it much more easy to carry everyday- แมคบุคตัวนี้เขาเน้นเรื่อง เบา บาง เป็นพิเศษดังนั้นเขาจะให้ความสำคัญมากกับเรื่องนี้ เขาจะทำให้บางเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ก่อนเราว่า ipad มันบางแล้วตอนนี้มีแมคบุคบางเท่าไอแพดเลย ในขณะที่บางและเบาลง ในทางกลับกับประสิทธิภาพในการทำงานกลับเพิ่มขึ้น

IMG_1136

4. หน้าจอก็ชัดแจ๋วเป็นจอ Retina ที่มีความละเอียดสูงมาก ชัดจนเหมือนหลุดออกไปอีกโลกนึง อีกมิตินึงเลย ไม่เหมือนมองจอคอม มันเป็น “Window of the world, not just a screen” แถมมีสีที่สวยงาม คมชัดมาก

5.เป็นจอคอมที่บางที่สุดที่ Apple เคยทำมา รวมถึงกล้องที่ติดมากับคอมก็เล็กที่สุดเท่าที่ Apple เคยมีด้วยเช่นกัน

IMG_1129

6. Keyboard- คีย์บอร์ดตัวนี้ได้รับการออกแบบใหม่ทั้งหมด รวมทั้งมีนวัตกรรมใหม่เรียกว่า Butterfly Mechanism เป็นการเปลี่ยนกลไกของตัวคีย์บอร์ด ซึ่งแต่ก่อนเวลากด ถ้าเรากดมุมๆ มันอาจจะไม่ลงทั้งปุ่ม แต่คีย์บอร์ดรุ่นนี้ไม่ว่าคุณจะกดตรงไหนมันก็จะลงไปทั้งปุ่มเลย รวมทั้งมีความแม่นยำมากขึ้น กดไม่ผิดแน่นอน แถมแป้นคีย์บอร์ดก็มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิม มีความคงทนกว่าแบบเดิมถึง 4 เท่า และบางลงกว่ารุ่นอื่นๆประมาน 3 เท่า บางเรียบไปกับเครื่องเลยทีเดียว

IMG_1125   IMG_1124

7. Force Touch Trackpad- ระบบใหม่ที่สามารถรับรู้ถึงแรงกดหนักเบาได้ เวลาเรากดทัชแพดก็จะรู้สึกเหมือนมันขึ้นลง เหมือนการคลิกทั่วๆไป แต่ถ้าตัวเครื่องปิดอยู่นั้น การไปกดหรือแตะก็จะไม่มีการตอบสนองใดๆ คือจริงๆแล้วมันอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ขยับเลย มันแค่หลอกเรา จริงๆแล้วมันเป็นเพียงการสร้างความรู้สึกเลียนแบบเหมือนกับว่ามันเป็นปุ่มกดจริงๆ ซึ่งช่วยได้ดีมากในเรื่องอายุการใช้งาน น้ำหนักในการกดแต่ละทีก็มีความหมายแตกต่างกันนะคะ เช่นถ้าเราดูวีดีโออยู่ แล้วต้องการกรอไปข้างหน้าให้เร็วขึ้นก็สามารถเอาลูกศรชี้ไปที่ปุ่ม Forward แล้วกด ความเร็วในการเดินไปข้างหน้ามันขึ้นอยู่กับความหนักเบาในการกดของเรานั่นเอง กดแรง-กรอเร็ว, กดเบา-กรอช้าลง (การเร่งความเร็วตามแรงกด) แต่ถ้าเราไม่ชอบระบบนี้เราก็สามารถปิดเอาไว้ได้นะคะ ระบบที่ใช้นี้เป็นระบบเดียวกันกับ Apple Watch เลยคะ

8. บางทีเราอยากดู Preview เราก็กด Space Bar แต่ตอนนี้เราแค่กดค้างไว้ ออกแรงกดลงอีกนิด มันก็จะขึ้น Preview ให้เราแล้วโดยไม่ต้องไปกดคีย์บอร์ดอีกต่อไป (การคลิกแบบกดค้าง)

9. เราสามารถวาดรูปคล้ายๆโปรแกรม Paint หรือจะเซ็นลายเซ็นชื่อลงในเอกสารด้วยปลายนิ้วมือของเรา กดเบาๆเพื่อวาดเส้นบางๆ หรือกดหนักๆเพื่อวาดเส้นหนาๆ ไม่ต่างอะไรกับการใช้ปากกาหรือสไตลัสเลย (การวาดนิ้วที่ไวต่อแรงกด)

10. หลังจาก Apple ได้พัฒนาสิ่งเหล่านี้แล้ว แถมยังเปิดโอกาสให้ Developer ทั้งหลายเอาไปพัฒนา application หรือทำไปช่วยเหลือคนตาบอดเราเน้นการสัมผัส

11. ยังมี Multi-Touch อีกด้วย การใช้จำนวนนิ้วที่แตกต่าง แมคก็จะทำงานแตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการแตะ เลื่อน หนีบ กางนิ้ว หรือปัด  1 นิ้วแตะตรงไหนก็ได้เพื่อคลิก 2 นิ้ว เลื่อนขึ้นลง เอกสารของหรือหน้าที่คุณเปิดอยู่ก็จะเลื่อนขึ้นลงตามนิ้ว 2 นิ้วปัดไปซ้ายขวาเพื่อไปข้างหน้าและย้อนหลังใน Safari หรือ 2 นิ้วหนีบหรือกาง เพื่อขยายและย่อ เนื่องจาก Apple เป็นผู้ผลิตทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ การใช้คำสั่งนิ้ว Multi-Touch จึงมีความแม่นยำสูง

12. ในเรื่องของ Battery ใช้งานได้ทั้งวัน นานสูงสุดถึง 9 ชม สามารถใช้งานได้เพิ่มมากขึ้นถึง 35%

13. เป็นแมคเครื่องแรกที่ไม่ต้องมีพัดลม อาจจะสงสัยว่าอ่าวแล้วเครื่องจะร้อนไหม ไม่แน่นอนเพราะใช้กำลังไฟน้อยลง เลยทำให้เกิดความร้อนน้อยลงจึงไม่จำเป็นต้องใช้พัดลม เขาใช้ทีมงานผู้ที่ทำไอโฟนมาช่วยทำแผงวงจรอีกด้วย เผื่อจะทำให้เล็กลง แต่ประสิทธิภาพยังเต็มเปี่ยม

14. เป็นโน็ตบุคที่ประหยัดพลังงานและยังออกแบบโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นจอภาพ Retina เป็นแบตแบบใหม่ นับว่าเป็นเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย แต่ในขณะเดียวกันก็ประหยัดพลังงาน กินไฟน้อยเพราะแบตไม่จำเป็นต้องชาร์จไฟบ่อยๆ วัสดุที่ใช้ยังปลอดภัย แถมสามารถนำไปรีไซคิลได้สูงอีกด้วย ข้อนี้สำคัญมากเลยนะสำหรับคนรักธรรมชาติ

IMG_1115IMG_1149IMG_1156IMG_1157

15. พอร์ตเดียวที่น่าทึ่ง USB-C เพียงแค่พอร์ตเดียวสามารถทำได้ทั้งชาร์จไฟ USB จอภาพ HDMI  VGA และในอนาคตข้างหน้านี้อาจจะมี Flashdrive หรือ External Hardisk อีกด้วย ความพิเศษอีกอย่างของพอร์ตนี้ คือ สามารถเสียบได้ทั้งสองด้าน (Reverse) อย่างเช่นแต่ก่อนเวลาจะเสียบ USB เราก็ต้องดูก่อนว่าต้องเสียบฝั่งไหนถึงถูก แต่ตอนนี้ไม่ว่าจะเสียบด้านไหนก็ใช่ได้หมด ดังนั้นปัญหาที่เราชอบเสียบผิดด้านก็หมดไป

16. เราอาจจะเคยชินกับโปรแกรม iPhoto แต่ตอนนี้เรามีโปรแกรมใหม่คือ Photos ซึ่งเร็วกว่า iPhoto มาก สามารถใช้ได้ง่าย แต่ก็มีประสิทธิภาพในการแก้ไข ตัดต่อ ปรับแต่งรูปภาพได้อย่างดี (simple and powerful editing) จริงๆเราอาจจะคุ้นเคยกันโปรแกรมนี้ในไอโฟน มันก็ทำงานคล้ายๆกัน จัดอัลบั้มให้เราโดยอัตโนมัติ เช่น รูปภาพทั้งหมด (All photos) รูปที่พึ่งนำเข้ามา (Last import) เป็นต้น แถมยังแบ่งแยกตามวัน เวลา  ปีและสถานที่ ที่เราถ่ายภาพอีกด้วย บางทีเราอาจจะมีรูปเยอะมากดูไม่หมด เราแค่กด Trackpad ค้างไว้แล้วเลื่อนไปตามรูป มันก็จะมีอีกหน้าต่างเล็กๆขึ้นมาเพื่อให้เราดูพรีวิวรูปต่างๆ เมื่อเราปล่อย Trackpad ตรงภาพไหน ภาพนั่นก็จะเป็นภาพใหญ่ขึ้นมาด้วย เหมือนแบบปล่อยนิ้วออกตรงภาพที่เราต้องการนะ จะได้ดูภาพใหญ่ๆแทน

17. มีเครื่องมือการปรับแต่งรูปที่ดีเหมาะสำหรับช่างภาพฝึกหัดรวมถึงภาพช่างภาพมืออาชีพอีกด้วย รูปภาพที่เราปรับแต่งไปทั้งหมดแล้ว เราสามารถแก้ไขให้กลับมาเป็นแบบเดิม แบบต้นฉบับได้ทุกเมื่ออีกด้วย เผื่อเรามาดูรูปนั้นที่หลังแล้วไม่ถูกใจก็ปรับให้กลับมาเป็นแบบต้นฉบับได้เลย (Revert to original) หรือว่าถ้าเราแต่งรูปนั้นในไอโฟน แต่พอมาดูในแมคบุคแล้วไม่ถูกใจก็ยังสามารถปรับให้มันกลับมาเป็นต้นฉบับได้อีกด้วยเช่นกัน

18. ปรับแต่งรูปนี้นะ ง่ายเหมือนทำในไอโฟนเลย แต่จะมีฟังก์ชั่นให้เลือกเยอะกว่า แปลว่ามีตัวเลือกในการแต่งภาพมากขึ้นนั้นเอง ไม่ว่าจะเป็น Enhance, Rotate, Crop, Filters, Adjust และ Red-eye ที่พิเศษไปกว่านั้นสำหรับคนที่ทำ Photoshop ไม่เป็นแต่อยาก Retouch รูป โปรแกรม Photos นี้ก็สามารถรีทัชรูปได้อย่างง่าย เร็วและสะดวกอีกด้วย

19. ยังมีโหมด Shared ที่เราสามารถแชร์รูปภาพกับเพื่อน ครอบครัว คนรัก และใครอีกหลายๆคนที่เราต้องการ มันเป็นเหมือนการโต้ตอบทั้งสองฝั่งเพราะทั้งสองฝั่งคือ เรากับคนที่เราแชร์รูปด้วยสามารถแชร์รูปภาพเข้ามาให้อัลบั้มเดียวกันได้ แถมยังคอมเม้นและกดไลค์ได้ด้วยอีกเช่นกัน

20. ระบบไร้สายอย่างเช่น iCloud ทั้งรูปภาพ เพลง ไฟล์ พร้อมใช้ในทุกที่แบบไร้สาย แต่ก่อนเราอาจจะต้องเสียบนู้นเสียบนี้ ซิงค์กับอุปกรณ์หลายเครื่องโดยใช้สาย ส่งอีเมล์ไปกลับหาตัวเอง แต่ iCloud  เป็นอีกตัวหนึ่งที่จะทำให้ทุกอย่างสะดวกขึ้น เพราะมันจะเก็บทุกอย่างไว้ในบัญชีเดียว มีทั้งแมคบุค ไอโฟน อุปกรณ์ iOS ทั้งหลาย ก็ไม่ลำบากอีกต่อไปเพราะเราสามารถแชร์ข้อมูลกันอย่างง่ายดาย