ความปลอดภัยบนโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่คนต้องให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะใช้งานส่วนตัวหรือในองค์กรล้วนแต่มีผลกระทบทั้งนั้น ล่าสุดทาง Trend Micro ออกมาคาดการณ์ 6 แนวโน้มภัยคุกคามปี 2016
บริษัท Trend Micro ผู้นำด้านซอฟท์แวร์และบริการักษาความปลอดภัย ออกมาเปิดเผยการคาดการณ์แนวโน้มภัยคุกคามปี 2016 โดยมีหัวข้อสำคัญดังนี้
1. ปีนี้การโจมตีบนออนไลน์จะมีเพิ่มสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน
อัตราการโตขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย หลักๆก็คือ จำนวนผู้ใช้อินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากสมาร์ทโฟน ความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตบนมือถือที่เร็วขึ้น หลายองค์กรรวมถึงภาครัฐเองก็เริ่มเข้าสู่ออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะการเชื่อมต่อข้อมูลหรือการให้บริการต่างๆผ่านอินเตอร์เน็ตเพื่อเพิ่มความสะดวก
ทางแฮคเกอร์เองก็มีการคิดค้นวิธีใหม่ๆที่หลากหลายขึ้นตามกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการ ยกตัวอย่างเช่น RAMSOMWARE ที่พัฒนาตัวเองไปอีกขึ้น จากเดิมที่เป็นเพียงแค่ดาวน์โหลดไฟล์ ก็ขยายความสามารถไปฝังตัวในแบบเนอร์โฆษณาออนไลน์ ล่าสุดมีการพบบน JAVA แล้ว จึงทำให้ปีนี้ RAMSOMWARE น่าจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการขู่กรรโชกออนไลน์
2. พบช่องโหว่ในอุปกรณ์ต่อเน็ตมากขึ้น
IoTs เรียกว่าเป็นเทรนด์ของแวดวงไอที ดังนั้นอุปกรณืเครื่องใช้ต่างๆที่ต่ออินเตอร์เน็ตได้มีออกมาขายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นมือถือ เครื่องใช้ไฟฟ้า กล้องวงจรปิด อุปกรณ์เหล่านี้เมื่อมีช่องโหว่ ก็เปิดทางให้แฮคเกอร์เข้ามาได้ ซึ่งถ้าเจอเคสแบบนี้ต้องรอให้ผู้ผลิตแก้ไขอย่างเดียวค่ะ ไม่เหมือนกับคอมพิวเตอร์ที่ไวรัสบางตัวสามารถโหลดโปรแกรมมาฆ่าได้ทันที
วิธีป้องกันเบื้องต้นที่ผู้ใช้อย่างเราๆสามารถทำได้ก็คือ หมั่นอัพเดทซอฟท์แวร์เป็นประจำ รวมถึงคอยเปลี่ยนรหัสผ่านเป็นระยะๆ
3. มัลแวร์บนมือถือโตขึ้น
ปีนี้มัลแวร์บนมือถือจะเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้าน ส่งผลกระต่อประเทศจีนเป็นหลักเนื่องจากมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมาก หลักๆมัลแวร์เหล่านี้จะพุ่งเป้าไปที่การจ่ายเงินผ่านมือถือ เพื่อขโมยข้อมูล รวมถึงบัญชีผู้ใช้และรหัสผ่าน
แอดรอยด์ยังคงเป็นระบบปฏิบัติการที่มีความเสี่ยงสูงสุด เพราะแอปต่างใน Play Store สามารถปลอมแปลงได้ง่าย รวมถึงไม่มีระบบคัดกรองเบื้องต้นทำให้แฮคเกอร์สามารถส่งแอปปลอมขึ้นไปได้ทันที ส่วนฝั่ง iOS ก็เจอ แต่เครื่องที่ได้รับผลกระทบจะเป็นเครื่องที่เจลเบรคแล้วโหลดแอปจากที่อื่นที่ไม่ใช่ App Store
วิธีป้องกันตัวเองเบื้องต้นคือ โหลดแอปจากผู้พัฒนาที่วางใจได้ ไม่โหลดแอปจากแหล่งอื่นๆ รวมถึงติดตั้งแอปพวก Anti Virus ก็จะป้องกันได้ระดับหนึ่ง
4. data breach
แฮคเกอร์จะใช้วิธี social engineering ในการดักขโมยข้อมูล นั่นก็คือใช้ความอยากรู้อยากเห็นของคนเป็นตัวล่อให้เหยื่อคลิกเข้าไป อาจจะเป็น หัวข้อข่าวในกระแส รูปภาพ
5. ตำแหน่งงานใหม่ D.P.O.
ปีนี้เราจะได้เห็นตำแหน่งงานใหม่คือ D.P.O. (Data Protection Officer) หน้าที่นี้จะคอยกำหนดเลเวลของดาต้า ว่าใครที่เข้าถึงข้อมูลไหนได้บ้าง ซึ่งเกิดในองค์กรใหญ่ๆในอเมริกาก่อน
6. Adblock
ตอนนี้ผู้ใช้หลายคนเริ่มหันมาใช้ Adblock เพื่อบล็อกโฆษณาในหน้าเว็บต่างๆเพื่อไม่ให้โผล่ขึ้นมากวนใจเวลาใช้งาน นอกจากนั้นมัยังมีข้อดีก็คือช่วยบล็อกโฆษณาที่มีไวรัส ทำให้เราไม่เผลอคลิ๊กเข้าไปดู แต่คนที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆก็คือคนผลิตคอนเท้นท์ที่หารายได้จากโฆษณา รวมถึงเอเจนซี่ต่างๆ ส่งกระทบรูปแบบการขายโฆษณา ซึ่งอาจจะต้องหาวิธีใหม่ๆในการโฆษณา
7. การร่วมมือกันป้องปราม cyber crime
เราจะเห็นความร่วมมือระหว่างองค์กรต่างๆทั่วโลก เพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ จากเดิมที่ Interpol ไม่มีอำนาจจับกุม ประสานงานอย่างเดียวกับตำรวจในประเทศนั้นๆ ซึ่งมีอำนาจในการดำเนินคดี และจับกุม ปีนี้เราจะเห็นความร่วมมือระหว่างหน่วยงานมากขึ้น ส่งผลให้การจับกุมและดำเนินคดีลงโทษแฮคเกอร์ได้มากขึ้นน