จบไปแล้วกับ Keynote วันแรกของงาน WWDC 2017 ใครที่พลาดไม่ได้ดูถ่ายทอดสด Dailygizmo ขอรวบตึงไฮไลต์เด็ดๆปีนี้ของ Apple ที่คุณจะได้ใช้งานกันทั้งฝั่งของซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์

WWDC 2017

ท้าวความก่อนนิดนึงว่างานนี้คืองานประจำปีของ Apple ที่นักพัฒนาจากทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่ออัพเดทความสามารถใหม่ๆซอฟท์แวร์ของแอปเปิ้ล ซึ่งดาวเด่นก็คือ iOS และ macOS เพื่อเตรียมตัวนำฟีเจอร์ใหม่ๆนี้ไปใส่ในแอปหรืออุปกรณ์ของตัวเอง ก่อนงานเริ่มหลายคนก็คาดว่าอาจจะมีอุปกรณ์ใหม่มาเปิดตัวด้วยเพราะแอปเปิ้ลไม่ได้จัดงานช่วงเดือนมีนาคม ซึ่งงานปีนี้เค้าบอกว่าเป็นงานที่จัดใหญ่และดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา ปีนี้มีนักพัฒนากว่า 75 ประเทศเข้าร่วม แถมมีนักเรียนที่เป็นนักพัฒนามาร่วมงานรอบนี้ด้วย

WWDC 2017

ปัจจุบันมีนักพัฒนาลงทะเบียนกับแอปเปิ้ลแล้ว 16 ล้านคนทั่วโลก คนที่เด็กที่สุดมาจากออสเตรเลียและอายุแค่ 10 ขวบเท่านั้น มีแอปในสโตร์ถึง 5 แอป ส่วนคนที่อายุมากที่สุดคือ 82 ปี นักพัฒนาชาวญี่ปุ่นที่มากที่สุดตอนนี้ ทำแอปเกมสำหรับคนสูงวัย

งานครั้งนี้ Tim Cook เน้นทั้งหมด 6 เรื่องหลัก คือ

1.tvOS

ปัจจุบันดูทีวีได้ในจอสารพัดที่มีทั้ง Apple TV, iPhone, iPad  มีพาร์ทเนอร์ 50 รายในจอ รวมทั้งปีนี้ได้ Amazon มาเพิ่มใน TV app อีกด้วย (อเมริกาดีใจสิ ไทยไม่เอี่ยว) เรียกว่าเสริมทัพด้วย หนังเพลงและเอ็กซ์คลูซีพคอนเท้นท์มากมาย เปิดให้ดาวน์โหลดในช่วงครึ่งปีหลัง ส่วนรายละเอียดอื่นของ tvOS ไม่ได้พูดถึงมากนัก

2.watchOS 4

Applewatch ขายดีอันดับ 1 และความพึงพอใจอันดับหนึ่ง เน้นความสามารถหลากหลายไม่ใช่แค่สุขภาพ มาปีนี้ watchOS 4 ปรับปรุงให้ใช้งานได้ดีขึ้น ของใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็มี

  • Siri watchface เวอร์ชั่นก่อนเราสามารถเลือกข้อมูลที่ต้องการมาตั้งบนหน้าจอได้ แต่ในเวอร์ชั่นใหม่นี้เราจะจับสิริไปอยู่บนหน้าปัดนาฬิกา ไม่ใช่แค่เรียกมาคุยเป็นเพื่อน แต่มันจะเลือกข้อมูลมาโชว์ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะเปลี่ยนไปตามเวลาและสถานที่ด้วยการใช้ AI ดึงข้อมูล เมื่อข้อมูลโชว์ขึ้นมาเราสามารถกดเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ ฟีเจอร์นี้คล้ายๆ Google Now เหมือนกันนะ
  • นอกจากนั้นก็ยังมีหน้าปัดใหม่อีกสองแบบคือ Kaleidoscope watchface ที่เป็นหน้าปัดแบบอินเตอร์แอคทีฟ ถ้าเราหมุนปุ่ม Digital crown ภาพก็จะเปลี่ยนไปเหมือนเวลาเราส่องกล้องคาไลโดสโคปและหน้าจอแบบใหม่ Character watchface ประเดิมด้วย TOY STORY ที่เอาตัวละครในเรื่องมาอยู่บนหน้าจอได้
  • Activity มีการออกแบบหน้าจอใหม่ การเสริมการทำงานการตรวจจับออกกำลังได้ดีขึ้น ปรับอินเตอร์เฟซใหม่สำหรับแอป workout นอกจากนั้นยังผูกกับอุปกรณ์ออกกำลังอัจฉริยะต่างๆได้มากขึ้น ทำให้รู้ข้อมูล สุขภาพได้ดีดีขึ้นมาก
  • Music จะ Sync เพลงที่คุณชอบฟังบ่อยๆจาก Apple Music ให้อัตโนมัติ ดึงมาเป็น Playlist หลายอันพร้อมกันได้
  • สรุปภาพรวม APPLE WATCH พยามให้สิริ เป็นส่วนนึงในชีวิตบนข้อมือเรา ไม่ว่าจะนำเสนอหนังล่าสุดคืนนี้ ไปจนโค้ชสุขภาพของเราแบบมีเป้าหมาย มากขึ้นและน่าใช้ขึ้น เพิ่มฟีเจอร์เพลงเข้ากับการ ออกกำลังกาย ให้บังคับได้ง่ายเหมือนอยู่ในที่เดียวกันมากขึ้น การเสริมการทำงานที่ง่ายขึ้นสำหรับกิจกรรมกีฬาทางน้ำ ดีขึ้นมาก เวอร์ชั่นนักพัฒนาโหลดได้วันนี้

3.macOS

เวอร์ชั่นใหม่ 10.13 ใช้ชื่อว่า High Sierra มีการปรับปรุงการทำงานหลายอย่าง

  • Safari ที่ขึ้นแท่นเป็นบราวเซอร์เดสท็อปที่เร็วที่สุด เร็วกว่า Chrome ของกูเกิลถึง 80% ฟีเจอร์ใหม่ที่เพิ่มเข้ามาก็คือบล็อกคลิปที่เล่นเองอัตโนมัติเวลาเราเข้าเว็บต่างๆให้ จะได้ไม่กวนใจ เพิ่มความเป็นส่วนตัวด้วย Intelligent tracking Prevention เกิดมาฆ่า AD ที่คอยตามหลอกหลอนในเวบไซด์ต่างๆ ด้วยการให้ AI มาช่วยแยกออกไป อันนี้ดีต่อผู้ใช้แต่นักโฆษณาและคนทำเว็บต้องปรับตัว
  • แอป Mail เพิ่มโหมด Full Screen Split view ช่วยแบ่งหน้าจอ ระบบบีบอัดไฟล์ที่ทำให้ใช้พื้นที่เก็บข้อมูลน้อยลง
  • Photos ใช้ AI และ Facial Recognition มาช่วยจัดหมวดหมู่ภาพให้เป็นระเบียบยิ่งขึ้น ค้นหาภาพที่ต้องการด้วยการใส่ตัวเลือกต่างๆได้ เช่น ใบหน้าคน มีเครื่องมือแต่งภาพแบบเดียวกับ Photoshop ปิดท้ายด้วยเชื่อมต่อบริการต่างๆสั่งพิมพ์โฟโต้บุ้คออกมาเป็นเล่มนี่ออกมาแข่งกับ Photos ของกูเกิลชัดๆ

ฟีเจอร์ต่างๆนั้นถูกพัฒนาโดยเทคโนโลยีอันทรงประสิทธิภาพ ดังนี้

  • Apple Files System (APFS) มาแทน HFS แบบเดิม เพิ่มประสิทธิภาพ ความปลอดภัยและความเสถียรของข้อมูล ช่วยให้งานพื้นฐานก็อบวางไฟล์ง่ายขึ้น มีการเข้ารหัสข้อมูลป้องกันไฟล์เสียหายจากไฟตกหรือระบบเกิดแครช ส่วนการเขียนอ่านข้อมูลก็รองรับกับไดรฟ์เก่าที่ยังเป็น HFS ได้
  • VDO การบีบอัดและเข้ารหัสวิดีโอเปลี่ยนมาใช้มาตรฐานใหม่ HEVC (H.265) ซึ่งไฟล์มีขนาดเล็กกว่า H.264 ถึง 40% ทำให้การสตรีมมิ่งไวขึ้น
  • Metal 2 คือAPI ที่ช่วยดึงปรัสิทธิภาพของ GPU ให้ทำงานได้ไวและมีประสิทธิภาพที่สุด เสริมด้วยอัลกอริทึ่ม Machine Learning ช่วยในเรื่องของ Speech recognition, natural language processing และ computer vision เมื่อมารวมกับการเชื่อมต่อ Thunderbolt 3 จะช่วยให้ดึงศักยภาพของ GPU ออกมาได้เต็มที่ ทำงานได้เร็วขึ้นถึง 10 เท่าเลยทีเดียว
  • Virtual Reality เมื่อผนวก Metal 2 , ฮาร์ดแวร์ใหม่ของ Mac, macOS High Sierra ก็จะทำให้สามารถใช้งาน VR content creation ได้เป็นครั้งแรก นั้นหมายถึงโอกาสที่เปิดกว้างสำหรับคนที่สนใจทำเกมและคอนเท้นต์ประเภทนี้บน แถมยังไปดึงบริษัทดังๆมาร่วมผลักดันให้เกิดบนแพลตฟอร์มของแอปเปิ้ล ไม่ว่าจะเป็น SteamVR ของ Valve รวมถึงแว่นตา HTC Vive ส่วน Unity และ Epic ก็ปล่อยเครื่องมือพัฒนาให้ผู้ที่สนใจบน macOS
  • นอกจากนั้น Final Cut Pro X wก็อัพเดทให้รองรับ ตัดต่อคลิปแบบ 360 องศาด้วย
สำหรับคนที่สนใจ High Sierra เวอร์ชั่นสำหรับนักพัฒนาเปิดให้โหลดวันนี้

iMac

รุ่นใหม่ชูจุดเด่น หน้าจอภาพที่ดีที่สุด จอใหม่ชัดขึ้น โดยรุ่น 21.5 นิ้วจะขยับเป็นจอ Retina 4K ส่วนรุ่น 27 นิ้วจะเปลี่ยนมาเป็นจอ Retina 5K ซึ่งหน้าจอจะสว่างขึ้นกว่าเดิม 43% อยู่ที่ 500 nits แสดงสีสันได้ถึง 1 ล้านสี จึงให้ภาพที่คมชัดลแะสีสันสมจริงแบบสุดๆ

ปรับสเปคภายในใช้ชิพ Kaby Lake ของอินเทลช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น ช่วยให้เพิ่ม RAM ได้มากกว่าเดิมเท่าตัวเมื่อเทียบกับรุ่นก่อนหน้า เปลี่ยนมาใช้หน่วยความจำที่เร็วขึ้น ปรับชิพกราฟฟิคเร็วขึ้น 3 เท่า ประมวลผลดีขึ้น 80% มีพอร์ต Thunderbolt 3 มาให้ 2 พอร์ต ราคาเริ่มต้นจอ 21.5 นิ้วอยู่ที่ 1099 ดอลล่าร์

Macbook Pro

ปรับสเปคภายใน เปลี่ยนมาใช้ซีพียู Kaby Lake เปลี่ยนฮาร์ดไดรฟ์ภายในมาเป็น SSD ทำงานเร็วขึ้น 50% ปรับราคาลงมาเหลือ 1299 ดอลล่าร์สำหรับรุ่นจอ 13 นิ้ว  ส่วน Macbook Air ก็ยังได้ไปต่อด้วยการปรับรุ่น 13 นิ้วมาเป็นซีพียูตัวใหม่

ทั้ง iMac และ Macbook เริ่มขายพร้อมกันวันนี้

iMac Pro

อันนี้ถือเป็นเซอร์ไพรซ์แรกที่เรียกว่าแทบจะไม่มีข่าวลือหลุดออกมาเลย จะว่าไปแล้วมันก็คือ Mac Pro รุ่งถังที่หลายคนชอบว่าหน้าตาน่าเกลี่ยนนั่นแหละ มาในร่างใหม่น่าใช้เชียว ตัวเครื่องมาพร้อมจอ 27 นิ้ว ผลิตจากวัสดุโลหะสีเทา Space Gray สวยสุดๆไปเลยค่ะ แถมเค้าเคลมว่าเร็วและแรงที่สุดที่เคยทำมา ออกแบบระบบระบายอากาศภายในให้ไหลเวียนดีขึ้น ระบายความร้อนได้ดีกว่าเดิม 80%

หน้าจอความละเอียด 5K ซีพียูมีให้เลือกตั้งแต่ 8/10/18 คอร์ กราฟฟิคใช้ Radeon Vrga graphic  เหมาะใช้งานด้านออกแบบ เพิ่ม RAM ได้จุใจถึง 128 GB เรียกว่าเหลือเฟือสำหรับการทำงานกราฟฟิคโหดหรือเรนเดอร์ VR แบบ Realtime

หน่วยความจำมีให้เลือกทั้ง 4TB of SSD and up to 128GB of ECC ส่วนพอร์ตการเชื่อมต่อให้พอร์ต Ethernet ความเร็วเชื่อมต่อกับเครือข่ายสูงถึง 10Gb และ Thunderbolt 3 มาให้อีก 3 พอร์ต สนนราคาขายอยู่ที่ 4999 ดอลล่าร์ เริ่มขายธันวาคมนี้

4.iOS 11

iOS 11 ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ผู้ใช้พึงพอใจถึง 96% ซึ่งในเวอร์ชั่นใหม่นี้มีการเพิ่มฟีเจอร์น่าใช้หลายอย่าง

  • iMessage มีแอปและสติกเกอร์เพิ่มมาอีกเพียบ ออกแบบ App Drawer ใหม่ให้เรียกใช้แอปที่ต้องการได้ไวขึ้น แถม Sync ให้อัตโนมัติทั้งไอโฟน ไอแพดและ Mac ครบทุกอุปกรณ์ผ่าน iCloud พร้อมเพิ่มความปลอดภัยด้วยการเข้ารหัส End-to-End
  • Apple Pay รองรับการจ่ายเงินระหว่างบุคคลกับบุคคลผ่าน iMessage ให้เราส่งเงินให้คนในครอบครัวหรือเพื่อนได้ง่ายขึ้น ส่วนเงินที่ส่งมาจะไปอยู่ใน Apple Pay Cash เก็บในแอป Wallet เราสามารถเอาเงินส่วนนี้ไปซื้อแอปหรือช็อปปิ้งออนไลน์ได้
  • Siri ปรับการทำงานให้ฉลาดและมีประโยชน์ยิ่งขึ้น ปรับให้เหมือนคนพูดยิ่งขึ้น เลือกเปลี่ยนเป็นเสียงผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ สั่งงานแอปอื่นได้มากขึ้น ไม่ได้ฟังแค่เสียงแต่ดูบริบท ดูสิ่งที่เราต้องการ มีการนำ Deep learning มาเรียนรู้พฤติกรรมผู้ใช้จากแอปต่างๆ ดูว่าเราสนใจอะไรพร้อมนำเสนอข้อมูลหรือให้คำแนะนำได้ แถม Sync ข้อมูลที่มันเรียนรู้ไปยังทุกอุปกรณ์ที่คุณใช้ นอกจากนั้นรองรับหน้าที่ล่าม พูดแปลภาษาอังกฤษใส่ก็เลือกแปลเป็นภาษาจีน, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อิตาลีหรือสเปนได้ ส่วนนักพัฒนาที่สนจก็มี SIRI KIT เอาไว้ชื่อมต่อกับแอปของตัวเอง
  • Camera ใช้การบีบอัดไฟล์แบบใหม่ HEVC ช่วยให้ไฟล์เล็กลงถึง 2 เท่า ไม่เปลืองที่เก็บทั้งในเครื่องและบน iCloud ปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพการถ่ายภาพทุกด้าน โหมด Portrait รองรับกันสั่น/HDR/แฟลช True Tone ทำให้ภาพออกมาดูโปรมากขึ้น ,โหมดใหม่ถ่ายภาพ Long exposure แบบเปิดหน้ากล้องนานๆได้เอาไว้ถ่ายน้ำตก ถ่ายไฟตอนกลางคืน นอกจากนั้นยังมี Depth API สำหรับวัดระยะสำหรับใช้งานกับ AR/VR
  • Live Photos ตัดต่อหัวห้าย เลือกเฟรมให้เป็นภาพหลักได้ รวมถึงลูปวิดีโอได้เหมือนแอป boomerang
  • Control Center ออกแบบใหม่ รวมทุกอย่างไว้ในหน้าเดียว กดขยายเพื่อใช้งานได้
  • Maps มีการเพิ่มฟีเจอร์หลายอย่าง เช่น เพิ่มแผนที่ในอาคาร ห้างสรรพสินค้า สนามบิน ปรับปรุงการนำทาง โชว์ความเร็วรถยนต์ แนะนำเลนถนนที่ต้องใช้
  • Do not Disturb While driving หน้าจอจะดำสนิท เสียงการแจ้งเตือนไม่ดัง ป้องกันการเล่นมือถือขณะขับรถ โดยเราตั้งข้อความตอบกลับอัตโนมัติได้ เราจะกลับมาใช้งานได้เมื่อถึงปลายทาง ถ้าพยายามปลดล็อคเครื่องจะต้องตอบคำถามต่างๆให้ครบ
  • HomeKit รองรับ AirPlay 2 สำหรับให้คนที่อยู่ต่างห้องควบคุมลำโพงผ่าน Control Center, แอป Home หรือ Siri ได้ง่ายขึ้น
  • App Store เพิ่มแท็ปใหม่ด้านล่าง Today และ Game ซึ่ง Today เหมือนให้ข่าวอัพเดทเรื่องแอพหรือเกมทุกวัน
  • Apple Music มีโหมดเพื่อนฟังอะไรอยู่ เราก็แชร์ Playlist ให้กันได้

ทางฟากนักพัฒนาก็มีเครื่องมือใหม่ๆที่ช่วยให้ทำแอปเพื่อใช้งานกับฟีเจอร์ใหม่ๆได้

  • CoreML อันนี้เป็นเครื่องมือสำหรับสร้างแอปบน iOS ที่มาพร้อม machine learning ที่ช่วยศึกษาและเรียนรู้ได้ฉลาดยิ่งขึ้น ดดยการประมวลผลทั้งหมดทำบนตัวอุปกรณ์ผ่านชิปใหม่ ช่วยให้ผู้ใช้มีความเป็นส่วนตัวยิ่งขึ้น
  • HomeKit ปรับให้ใช้งานง่ายขึ้น แม้แต่คนที่ทำเป็นงานอดิเรกก็ใช้ได้สบายๆ นอกจากนั้นยังใช้ซอฟท์แวร์ในการ authenticate อุปกรณ์ด้วย
  • SiriKit เปิดโอกาสให้นักพัฒนานำสิริไปใส่ในแอปของตัวเอง ใน iOS 11 จะขยายการทงานมากขึ้น รองรับ to-do lists, notes และ reminders; แอปธนาคารสำหรับเรียกจ่ายเงินหรือดูรายการเดินบัญชี; และแอป app ที่แสดงข้อมูล QR codes.
  • MusicKit เครื่องมือนี้จะช่วยให้นักพัฒนานำฟีเจอร์ต่างๆของ Apple Music ไปใส่ในแอปตัวเองได้ ช่วยให้เข้าถึงคลังเพลงกว่า 40 ล้านเพลง, เพลง/อัลบั้มแนะ เป็นต้น
  • ARkit เป็นเครื่องมือใหม่สำหรับนำ AR ไปใส่ในแอป มาพร้อมเทคโนโลยีจับการเคลื่อนไหวที่ทำงานอย่างรวดเร็วและเสถียร

iOS 11 เวอร์ชั่นสำหรับนักพัฒนาเปิดให้โหลดแล้ว ส่วนเวอร์ชั่นสมบูรณ์จะเปิดให้อัพเดทช่วงฤดูใบไม้ร่วงนี้

5.iPad

iPad Pro 10.5 นิ้วมาจริงตามข่าวลือเป๊ะๆ จับเอารุ่น 9.7 นิ้วมาย่อขอบด้านข้าง ส่งผลให้ขนาดหน้าจอเพิ่มเป็น 10.5 นิ้ว หน้าจอยังเป็น Two-tone สีสมจริง จอสว่าง 600 nits รองรับ HDRvideo และทีเด็ดคือ ProMotion หน้าจอรีเฟรชเรทเพิ่มจาก 60 เป็น 120 mHz ส่งผลให้การแสดงผลวิดีโอได้ไหลลื่น เนียนตายิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังช่วยประหยัดพลังงานโดยจะปรับรีเฟรชเรทให้อัตโนมัติให้เข้ากับสิ่งที่เคลื่อนไหวอยู่ในจอ

สเปคภายในเปลี่ยนมาใช้ชิพ A10x แบบ 6 คอร์ ช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น 30% กราฟฟิคดีขึ้น 40% กล้องหลัง 12 ล้านพร้อมเลนส์กันสั่น กล้องหน้า 7 ล้าน ส่วน Apple Pencil รับการตอบสนองได้ดียิ่งขึ้น ด้วย latency แค่ 20 มิลลิวินาที ช่วยให้การวาดภาพไหลลื่นและเป็นธรรมชาติ พอร์ตเชื่อมต่อเป็น USB-C รองรับอุปกรณ์เสริมและสายชาร์จ USB-C เชื่อมต่อและโอนข้อมูลได้ไวขึ้น ส่วน Smart Cover มีการออกแบบใช้หนังตัวใหม่

นอกจากนั้นยังมีฟีเจอร์ใหม่ใน iOS 11 ที่เสริมให้ใช้งานได้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

  • เพิ่มประสิทธิภาพของ Multi-task เช่น ออกแบบ app switcher ใหม่, ปรับการสลับทำงานระหว่างแอปให้ดีขึ้น เป็นต้น
  • Drag and Drop เป็นฟีเจอร์ที่นำเรื่องเก่ามาเล่าใหม่ในไอแพตได้สะใจมาก เมื่อนิ้วเราลากภาพข้อความลงอีกหน้าต่างได้อิสระ ก็ดีสิคะ

  • Files เปิดตัวแอพใหม่ในสังกัด เป็นประตูสู่แอพเก็บไฟล์สารพัดสิ่ง
  • Screenshot กดถ่ายหน้าจอมาเขียนทับ อาจเป็นฟีเจอร์ที่สาวก Galaxy Noteโห่ได้ แต่สาวกไอแพดรอมานานคะ
  • Note สามารถเปิดกล้องสแกนกระดาษแล้วเป็นเอกสารคุณภาพมาเซ็นชื่อได้เลย
  • Dock ด้านล่างที่ทำเหมือน Mac ให้เราเลือกแอปที่ใช้บ่อยๆมาวาง กดเรียกใช้ได้ทันที

นอกจากรุ่น 10.5 นิ้วแล้วรุ่นจอใหญ่ 12.9 นิ้วก็มีการปรับสเปคเช่นกัน สนนราคาขายเริ่มต้นที่ 649 ดอลล่าร์เริ่มสั่งได้วันนี้ ส่งของอาทิตย์หน้า ระบบปฏิบัติการเป็น iOS 10 สามารถอัพเป็น iOS 11 ได้

HomePod

6.HomePod

มาตามข่าวลือจริงกับลำโพงความสูง 7 นิ้ว ที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบการฟังเพลงในบ้านได้อย่างเพลิดเพลิน ไดร์เวอร์ 7 ตัวฝังที่ฐานให้เสียงรอบทิศทาง พลังเสียงรอบทิศทางกระจาย ทั้งแบบยิงตรง และ ยิงกระจาย ทั่วห้อง ให้การเบี่ยงเบนของเสียงที่น้อยมาก

ตัวเครื่องใช้ชิพ A8 ประมวลผล รองรับ Apple Music ที่มีเพลงมากกว่า 40 ล้านเพลง ให้ไมโครโฟนมา 6 ตัวไม่ต้องตะเบ็งเสียง รับเสียงคุยกับสิริด้วยลำโพง สั่งทำได้หลายอย่างตามนี้ เปิดเพลง อ่านข่าว แปลภาษา หุ้น อากาศ เปิดปิดสมาร์ทโฮมต่างๆ พยายามเทแนวทางไปที่การเป็นลำโพงเพื่อการฟังดนตรีและบันเทิง มากกว่าเป็นผู้ฃ่วยเหลือส่วนบุคคลแบบจัดหนัก

ราคา 349 ดอลล่าร์ มีสองสี คือสีขาวและ Space Gray วางขายในอเมริกาอังกฤษเดือนธันวาคมนี้ ส่วนประเทศอื่นๆเริ่มขายปีหน้า