Apple ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ทั่วโลก รวมถึงซัพพลายเออร์อีก 9 รายของ Apple หันมาใช้พลังงานสะอาดเพื่อการผลิต 100%
Apple

 
หนึ่งในพันธกิจของ Apple® คือการต่อสู้กับภาวะโลกร้อนและสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีกว่าเดิม และวันนี้ Apple ประกาศว่าสถานประกอบการทั่วโลกของ Apple ใช้พลังงานสะอาด 100% แล้ว ทั้งในร้านค้าปลีก สำนักงาน ศูนย์ข้อมูลและสถานที่ที่ใช้ร่วมกับบริษัทอื่นใน 43 ประเทศ รวมถึงสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร จีน และอินเดีย นอกจากนี้ บริษัทยังประกาศว่าพันธมิตรด้านการผลิตอีก 9 แห่งก็หันมาใช้พลังงานสะอาดในการผลิตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของ Apple 100% แล้วเช่นกัน ซึ่งทำให้ตอนนี้จำนวนซัพพลายเออร์ที่ใช้พลังงานสะอาดรวมเป็น 23 รายแล้ว
 
“เรามุ่งมั่นที่จะทำให้โลกใบนี้เป็นโลกที่ดีกว่าเดิม หลังจากทุ่มเทให้กับเรื่องนี้มาเป็นเวลาหลายปี เราภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ก้าวมาสู่จุดสำคัญ” Tim Cook CEO ของ Apple กล่าว “เราจะก้าวข้ามขีดจำกัดและไม่หยุดพัฒนาเรื่องวัสดุที่นำมาใช้ในผลิตภัณฑ์ วิธีการรีไซเคิล อาคารและเครื่องมือเครื่องใช้ รวมทั้งการทำงานกับซัพพลายเออร์เพื่อสร้างแหล่งพลังงานทดแทนใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์และล้ำยุค เพราะเรารู้ดีว่าอนาคตขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้”
โครงการพลังงานทดแทน

Apple และพันธมิตรของ Apple กำลังสร้างโครงการพลังงานทดแทนใหม่ๆ ทั่วโลก เพื่อมอบพลังงานทางเลือกที่ดีกว่าให้กับชุมชนในท้องถิ่น รัฐ หรือแม้แต่ทั่วทั้งประเทศ Apple สร้างสรรค์และพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนระดับภูมิภาคด้านสาธารณูปโภค ซึ่งจะเกิดขึ้นไม่ได้เลยหากไม่มีพลังงานเหล่านี้ โครงการดังกล่าวประกอบด้วยแหล่งพลังงานทางเลือกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นแสงอาทิตย์ ฟาร์มกังหันลม และเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่กำลังมีการพัฒนา เช่น เซลล์เชื้อเพลิงชีวภาพ ระบบผลิตไฟฟ้าพลังน้ำขนาดเล็ก และเทคโนโลยีการเก็บพลังงาน 
 
ปัจจุบันนี้ Apple มีโครงการพลังงานทดแทนที่ดำเนินการอยู่ 25 โครงการทั่วโลก ซึ่งผลิตพลังงานได้รวมกันถึง 626 เมกะวัตต์ และผลิตเซลล์แสงอาทิตย์ได้ 286 เมกะวัตต์ ในปี 2017 นับเป็นปริมาณที่มากที่สุดที่เคยผลิตได้ใน 1 ปี นอกจากนี้ยังมีอีก 15 โครงการที่กำลังก่อสร้างอยู่ ซึ่งเมื่อสร้างเสร็จแล้ว จะผลิตพลังงานสะอาดหมุนเวียนได้กว่า 1.4 กิกะวัตต์ใน 11 ประเทศ
 
ตั้งแต่ปี 2014 ศูนย์ข้อมูลทั้งหมดของ Apple ล้วนใช้พลังงานหมุนเวียน 100% และตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นมา โครงการพลังงานหมุนเวียนของ Apple ทั้งหมดได้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน (CO2e) จากสถานประกอบการทั่วโลกถึง 54% และยับยั้งไม่ให้ CO2e เข้าสู่ชั้นบรรยากาศได้มากกว่า 2.1 ล้านเมตริกตัน
 
โครงการพลังงานหมุนเวียนของ Apple ประกอบด้วย
  • Apple Park อาคารสำนักงานใหม่ของ Apple ในคูเปอร์ติโน เป็นอาคารสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือที่ผ่านการรับรอง LEED Platinum อาคารแห่งนี้ใช้พลังงานหมุนเวียน 100% จากหลายแหล่ง ทั้งการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ขนาด 17 เมกะวัตต์บนหลังคาและเซลล์เชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพขนาด 4 เมกะวัตต์ รวมทั้งการควบคุมด้วยการจัดเก็บแบตเตอรี่ระบบไมโครกริด นอกจากนี้ในช่วงที่มีการใช้งานต่ำ ยังสามารถจ่ายพลังงานสะอาดไปยังระบบจ่ายกระแสไฟฟ้าสาธารณะได้อีกด้วย 
  • Apple ได้ติดตั้งโครงการพลังงานลมและพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้ว 485 เมกะวัตต์ใน 6 จังหวัดของประเทศจีนเพื่อจัดการกับการปล่อยมลภาวะช่วงต้นน้ำ 
  • และเร็วๆ นี้ Apple ได้ประกาศแผนที่จะสร้างศูนย์ข้อมูลล้ำสมัยขนาด 400,000 ตารางฟุต ในวอคี ไอโอวา ซึ่งจะใช้พลังงานหมุนเวียนทั้งหมดทั่วทั้งอาคารตั้งแต่วันแรก
  • ในไพรน์วิลล์ โอเรกอน บริษัทได้เซ็นสัญญาซื้อพลังงาน 200 เมกะวัตต์จากโครงการ Montague Wind Power ฟาร์มกังหันลมแห่งหนึ่งในโอเรกอน ซึ่งจะพร้อมใช้งานได้ภายในปลายปี 2019
  • ในเรโน เนวาดา Apple ได้ร่วมมือกับ NV Energy บริษัทสาธารณูปโภคในท้องถิ่น และ 4 ปีให้หลัง เราได้พัฒนาโครงการใหม่ร่วมกัน 4 โครงการซึ่งผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ไปแล้วถึง 320 เมกะวัตต์
  • ในญี่ปุ่น Apple กำลังร่วมมือกับ Denryoku บริษัทผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ของท้องถิ่นในการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์ 300 แผงบนดาดฟ้า ซึ่งจะสามารถผลิตพลังงานสะอาดได้ 18,000 เมกะวัตต์-ชั่วโมงในแต่ละปี เพียงพอสำหรับใช้งานในบ้าน 3,000 หลังในญี่ปุ่น
  • ศูนย์ข้อมูลของ Apple ในเมเดน นอร์ทแคโรไลนา ใช้พลังงานหมุนเวียนจากโครงการหนึ่งของ Apple ซึ่งผลิตพลังงานได้ 244 ล้านกิโลวัตต์-ชั่วโมง ต่อปี เทียบเท่ากับพลังงานที่ใช้ในบ้าน 17,906 หลังในนอร์ทแคโรไลนา
  • ในสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีพื้นที่จำกัด Apple ได้ปรับโครงการให้เข้ากับพื้นที่และผลิตพลังงานหมุนเวียนบนดาดฟ้า 800 แห่งแทน
  • ขณะนี้ Apple กำลังก่อสร้างศูนย์ข้อมูลใหม่ 2 แห่งในเดนมาร์ก ซึ่งจะใช้พลังงานหมุนเวียน 100% ตั้งแต่วันแรกที่เปิดใช้งาน
ความร่วมมือของซัพพลายเออร์
การที่ Ibiden สามารถใช้พลังงานหมุนเวียนสำหรับอาคารและเครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ของบริษัทได้ 100% เต็ม เป็นการสร้างแบบอย่างที่ดีให้กับที่อื่นๆ นอกจากนี้ Apple ยังประกาศว่าตอนนี้มีซัพพลายเออร์ 23 รายซึ่งรวมซัพพลายเออร์ใหม่ 9 ราย ที่ใช้พลังงานหมุนเวียน100% ในการดำเนินงาน พลังงานสะอาดจากโครงการของซัพพลายเออร์รวมกันแล้วช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในปี 2017 ได้ 1.5 ล้านเมตริกตัน เทียบได้กับการลดปริมาณรถยนต์ 300,000 คันบนท้องถนน นอกจากนี้ ซัพพลายเออร์กว่า 85 รายได้ลงทะเบียนใน Clean Energy Portal ของ Apple ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ Apple พัฒนาขึ้นเพื่อช่วยให้ซัพพลายเออร์สามารถระบุโซลูชั่นสำหรับพลังงานทางเลือกในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลกที่มีโอกาสนำมาพัฒนาต่อได้และน่าจะเป็นประโยชน์ในอนาคต 
 
ซัพพลายเออร์รายใหม่ที่ให้ความร่วมมือกับ Apple ได้แก่
  • Arkema ผู้ออกแบบโพลีเมอร์ประสิทธิภาพสูงจากวัตถุดิบชีวมวล ซึ่งเป็นผู้ผลิตสำหรับ Apple ที่มีอาคารผลิตอยู่ในฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และจีน 
  • DSM Engineering Plastics ผู้ผลิตโพลีเมอร์และส่วนประกอบต่างๆ ในเนเธอร์แลนด์ ไต้หวัน และจีนซึ่งใช้ในผลิตภัณฑ์ของ Apple มากมาย เช่น ขั้วต่อและสาย 
  • ECCO Leather ซัพพลายเออร์สินค้าประเภทเนื้อนิ่มรายแรกที่หันมาใช้พลังงานหมุนเวียน 100% สำหรับการผลิตภัณฑ์ของ Apple หนังที่ ECCO ผลิตให้กับ Apple มีต้นกำเนิดจากยุโรป และนำมาผ่านกระบวนการฟอกและตัดแต่งที่อาคารผลิตในเนเธอร์แลนด์และจีน 
  • Finisar ผู้ผลิตชิ้นส่วนการส่งสัญญาณผ่านสายเส้นใยนำแสงและเลเซอร์ VCSEL (Vertical-Cavity Surface-Emitting Laser) ซึ่งเป็นขุมพลังงานให้กับคุณสมบัติยอดนิยมของ Apple อย่าง Face ID เซลฟี่โหมดภาพถ่ายบุคคล และ Animoji 
  • Luxshare-ICT ซัพพลายเออร์ด้านอุปกรณ์เสริมสำหรับผลิตภัณฑ์ Apple ฝ่ายการผลิตของ Luxshare-ICT สำหรับ Apple ส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศจีนฝั่งตะวันออก 
  • Pegatron ซัพพลายเออร์ผู้ประกอบผลิตภัณฑ์หลายอย่างของ Apple รวมถึง iPhone ซึ่งมีโรงงานสองแห่งอยู่ในเซี่ยงไฮ้ และคุนซาน ประเทศจีน 
  • Quadrant ซัพพลายเออร์ด้านแม่เหล็กและส่วนที่เป็นแม่เหล็กให้ผลิตภัณฑ์ของ Apple จำนวนมาก
  • Quanta Computer ซัพพลายเออร์ของ Mac รายแรกที่หันมาใช้พลังงานหมุนเวียน 100% สำหรับการผลิตภัณฑ์ของ Apple
  • Taiyo Ink Mfg. Co ซึ่งเป็นผู้เคลือบ Solder Mask บนแผงวงจรพิมพ์หรือ Printed Circuit Board ที่ตั้งอยู่ในประเทศญี่ปุ่น
Apple มีการปฏิวัติเทคโนโลยีสำหรับส่วนบุคคลด้วยการเปิดตัวเครื่อง Macintosh ในปี 1984 ในวันนี้ Apple คือผู้นำระดับโลกด้านนวัตกรรมด้วย iPhone, iPad, Mac และ Apple Watch สี่แพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ของ Apple — iOS, OS X, watchOS และ tvOS — ให้ประสบการณ์ที่ราบรื่นในทุกอุปกรณ์ Apple  และเพิ่มประสิทธิภาพให้กับบุคคลด้วยบริการที่ก้าวล้ำรวมถึง App Store, Apple Music, Apple Pay และ iCloud พนักงานของ Apple นับแสนคนทุ่มเทสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดในโลกเพื่อให้โลกเป็นโลกที่ดีกว่า