ไม่น่าเชื่อว่าเจ้าไอคอนเล็กๆที่เราเรียกกันว่า Emoji จะกลายเป็นภาษาสากล  ไม่ว่าคุณจะพูดภาษาอะไรเห็นอีโมจิแล้วเข้าใจได้ตรงกัน รู้มั้ยว่าทุกวันที่ 17 กรกฎาคมของทุกปีนั้นคือวันอีโมจิโลก (World Emoji Day)

World Emoji Day

ต้นกำเนิดของอีโมจิเองก็เกิดมาจากเอเชียเรานี่แหละค่ะ คนที่คิดคนแรกก็คือ Shigetaka Kurita ชาวญี่ปุ่น เพื่อใช้เป็นสัญลักษณ์แสดงอารมณ์ต่างๆ ส่วนชื่อนั้นขะเป็นการผสมคำระหว่างคำว่า e (絵) ที่แปลว่า รูปภาพ และ moji (文字) หมายถึง ตัวอักษร รวมกันแล้วจึงมีความหมายว่า “อักษรภาพ” ซึ่งคนคิดเองก็คงนึกไม่ถึงว่าวันนึงมันจะกลายเป็นปรากฎการณ์ไปทั่วโลก

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1998-1999 ช่วงนั้น NTT DoCoMo เครือข่ายมือถือของญี่ปุ่นมีบริการชื่อว่า “i-mode” หรือระบบอินเตอร์เน็ตบนมือถือ เปิดให้ส่งข้อความผ่านทางมือถือโดยจะจำกัดความยาว ส่งได้แค่ 250 ตัวอักษรเท่านั้น อารมณ์คล้ายๆทวิตเตอร์ตอนนี้เลยค่ะ อยากจะพิมพ์ข้อความยาวๆจึงแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

คุณ Kurita ที่เป็นหนึ่งในพนักงาน NTT DoCoMo ตอนนั้น ก็เลยปิ๊งไอเดีย เอาภาพมาช่วยสื่อสารเพิ่ม พอมารวมกับข้อความแล้วก็ทำให้พิมพ์สั้นลงแต่ยังคงได้ใจความที่ต้องการสื่อสาร คิดแล้วลงมือทำทันทีเพราะเชื่อว่าเดี๋ยวคนอื่นก็อาจจะคิดได้เหมือนกัน อีโมจิชุดแรกของโลกจึงถือกำเนิดขึ้นมาประกอบด้วยอีโมจิทั้งหมด 176 ไอคอน โดยใช้เวลาทำทั้งหมด 1 เดือน ภาพอีโมจิส่วนใหญ่นั้นได้แรงบันดาลใจมาจากสัญลักษณ์ที่เราเห็นทั่วไปในชีวิตประจำวัน

การมาของสมาร์ทโฟนทำให้ Emoji ฮิตระเบิดระเบ้อ

Emoji ถือเป็นวัฒนธรรมทางตะวันออก ซึ่งก็ค่อยๆรุกคืบไปทางประเทศฝั่งตะวันตกมากขึ้นเรื่อยเพราะช่วยให้การสื่อสารง่ายขึ้น ใครที่โตมาในยุค 90s ก็น่าจะรู้จักอีโมจิจากโปรแกรมแชทต่างๆ เช่น ICQ หรือ MSN 

แต่สิ่งที่ทำให้อีโมจิดังฮิตระเบิดระเบ้อก็คือการมาของสมาร์ทโฟนทั้ง iPhone และ Android เพราะอีโมจิช่วยให้สื่อสารได้ง่ายและเร็วขึ้น แต่ปัญหาก็คือ ต่างฝ่ายต่างก็พัฒนาอีโมจิกันเอง ทำให้ไม่มีมาตรฐานกลาง เวลาส่งข้ามแพลตฟอร์มแล้วภาพอีโมจิที่ต้องการจะสื่อสารเลยไม่ตรงกันค่ะ คนส่งเป็นรูปนึง คนรับเป็นอีกรูปนึง

ในปี 2010 จึงเกิดหน่วยงานชื่อว่า Unicode ขึ้นมา เป็นหน่วยงานกลางที่กำหนดมาตรฐานกลางในการเขียนโค้ด ซึ่งปีนี้เองมีอีโมจิกลางจำนวน 722 อีโมจิออกมาทั้งบน iPhone และ Android

ทำไมต้องเป็นวันที่ 17 กรกฎาคม?

ถ้าเราสังเกตดีๆจะเห็นว่าวันที่บนอีโมจิปฏิทินส่วนใหญ่นั้นจะเป็นเลขวันที่ 17 กรกฎาคม ทาง Emojipedia เค้าก็เลยเลือกวันนี้เป็นวันอีโมจิโลกค่ะ เพื่อเฉลิมฉลองการใช้งานอีโมจิ โดยเริ่มมาตั้งแต่ปี 2014 แต่กว่าจะมาเป็นที่รู้จักก็ปี 2015 เพราะมันไปติดเทรนด์ของ Twitter ในวันนี้ก็จะมีกิจกรรมต่างๆ เช่น โหวตอีโมจิที่ชื่นชอบ ชวนให้คอมเมนท์ด้วยอีโมจิอย่างเดียว

ทางฝั่ง Apple วันนี้ก็เปิดเผยว่าจะมีการเพิ่มอิโมจิใหม่กว่า 70 ตัวจะเพิ่มเข้ามาใน iPhone, iPad, Apple Watch และ Mac พร้อมการอัพเดทซอฟต์แวร์ฟรีภายในปีนี้ อิโมจิดีไซน์ใหม่ซึ่งสร้างขึ้นจากคาแร็คเตอร์ที่ได้รับอนุมัติจาก Unicode 11.0 มาพร้อมทรงผมที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อเป็นตัวแทนของผู้คนได้ดีกว่าเดิม ทั้งผู้ที่มีผมสีแดง สีเทา และผมหยิก อิโมจิใหม่ยังมีแบบศีรษะล้าน และมีหน้ายิ้มแบบใหม่อีกหลายแบบที่จะช่วยถ่ายทอดอารมณ์ในแอปข้อความได้มากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นอิโมจิหน้าแสดงอาการหนาว หน้าปาร์ตี้ หน้าอ้อนวอน หรือหน้าอินเลิฟ

เรียบเรียงจาก cnn, theguardian