เรียกว่าไอแพดนั้นเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนผ่าน ออนไลน์ตั้งแต่เด็กประถม มัธยม จนถึงระดับมหาวิทยาลัย ด้วยประสิทธิภาพที่เหนือกว่าแล็ปท็อปแม้จะเป็นรุ่นเล็กอย่าง iPad Gen 8 นอกจากนั้นยังมีอุปกรณ์เสริมอย่าง Apple Pencil และ Smart Cover เมื่อรวมกับ iPadOS ทำให้การใช้งานแทบไม่ต่างคอมพิวเตอร์
ตอนนี้ใน App Store เองก็มีแอปที่ออกแบบมาสำหรับทำงานบน iPad มากกว่า 1 ล้านแอปที่จะมาช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และความคิดสร้างสรรค์ให้เด็กๆ โดยหลายๆแอปสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอบต่อ ตอบโจทย์สิ่งที่เด็กๆจินตนาการไว้
Family Sharing
แต่ปัญหานึงคือ ผู้ปกครองหลายคนต้องทำงานทำให้ไม่มีเวลาอยู่กับลูกตลอดเวลา โดยเฉพาะเด็กเล็กที่อาจจะเสียสมาธิได้ง่าย เข้าเว็บ เล่นเกมที่ไม่เกี่ยวกับการเรียน แนะนำให้ผู้ปกครองเปิดใช้งานฟีเจอร์ Family Sharing บนอุปกรณ์ของ Apple ของเรา เพื่อให้เครื่องของผู้ปกครองสามารถจัดการและควบคุมการใช้งานเครื่องของลูกๆที่อายุต่ำกว่า 13 ปีได้ ซึ่งใน Family Sharing มีเครื่องมือและตัวช่วยที่เป็นประโยชน์หลายอย่างเลยค่ะ ที่แนะนำให้ลองใช้งานก็มีดังนี้
Location Sharing
ฟีเจอร์นี้จะเป็นการแชร์พิกัดกับสมาชิกในครอบครัวว่าตอนนี้อยู่ที่ไห ตรวจสอบจากเครื่องผู้ปกครองได้เลยค่ะ หรือเวลาที่กลับไปเรียนตามปกติที่โรงเรียนแล้วก็สามารถใช้นัดหมายจุดรับส่งได้
ขออนุญาตซื้อ (Ask to buy)
ใครที่กลัวเด็กๆเอามือถือหรือไอแพดไปกดซื้อเกมหรือซื้อของในแอปโดยที่ผู้ปกครองไม่รู้ แนะนำให้เปิดฟีเจอร์ “ขออนุญาตซื้อ” เอาไว้สำหรับควบคุมการซื้อของเด็กๆ ในกรณีที่มีการกดดาวน์โหลดหรือกดซื้ออะไรใน App Store ระบบจะส่งการแจ้งเตือนไปให้ผู้ปกครองรู้ทันที จากนั้นก็มาตรวจสอบดูว่าสิ่งที่เด็กๆกดซื้อหรือดาวน์ดหลดคืออะไร หากดูแล้วเป็นแอปเกี่ยวกับการเรียนก็อนุมัติให้โหลดหรือซื้อได้ทันที หากเป็นการซื้อของในเกมหรือโหลดแอปที่ไม่เหมาะสมก็กดปฏิเสธการซื้อได้เลย
จัดการการตั้งค่าเวลาหน้าจอ(Screentime)
หากผู้ปกครองอยากรู้ว่าวันนึงๆนั้นเด็กใช้ iPad ไปกับการใช้งานอะไร สามารถตรวจสอบได้จากฟีเจอร์ เวลาหน้าจอ (Screentime) ดูรายงานกิจกรรมของเด็กๆ ซึ่งจะทำให้รู้ว่าเด็กใช้แอปอะไรบ่อยสุด หยิบขึ้นมาปลดล็อกใช้งานกี่ครั้ง มีการแจ้งเตือนบ่อยแค่ไหน หากการใช้งานอันไหนดูแล้วเกินพอดีก็สามารถจำกัดการใช้งานได้ดังนี้
- เวลาไม่ใช้งาน (Downtime) ฟีเจอร์นี้จะเป็นการตั้งเวลา ช่วยจำกัดให้เด็กๆสามารถใช้งานได้เฉพาะแอปที่ผู้ปกครองตั้งไว้ในช่วงเวลาที่ต้องการ เช่น 9.00 -15.00 อนุญาตให้ใช้งานได้เฉพาะแอปที่เกี่ยวกับการเรียนเท่านั้น แอปอื่นๆอย่างโซเชียลหรือเกมจะไม่สามารถเปิดใช้งานได้ หรือจะตั้งกำหนดเวลาให้เล่นเกมได้เป็นเวลา 1 ชั่วโมง หากหมดเวลาแล้วอยากขอเล่นต่อจะต้องส่งคำขอต่อเวลาได้ 1 ครั้ง ซึ่งคำขอนี้จะไปปรากฎบนหน้าจอของเครื่องผู้ปกครองให้พิจารณาว่าจะอนุญาตให้เล่นต่อรึเปล่า
- การจำกัดการใช้แอป (App Limit) ฟีเจอร์นี้จะช่วยตั้งค่าจำกัดการใช้งานแอปในเครื่องลูก เช่น จำกัดการใช้งานแอปโซเชียลหรือเกม เพื่อให้เด็กไปโฟกัสกับการเรียนมากขึ้น
- การจำกัดการสื่อสาร ฟีเจอร์นี้จะจำกัดการสื่อสารของเด็กว่าจะให้ติดต่อกับใครได้บ้างที่อยู่ในรายชื่อติดต่อ โดยจำจัดได้ทั้งโทรศัพท์, FaceTimeและการส่งข้อความ
- อนุญาตเสมอ (Always Allowed) ฟีเจอร์นี้จะเป็นการอนุญาตให้แอปที่ใช้งานบ่อยๆ ใช้งานได้ตลอดเวลาโดยไม่ถูกจำกัดจากการตั้งค่าอื่นๆ โดยแอปโทรศัพท์, ข้อความ, FaceTime และแผนที่จะได้รับอนุญาตเสมอตามค่าเริ่มต้น ซึ่งเราสามารถเพิ่มแอปอิ่นๆเพิ่มเติมได้ตามต้องการ
- การจำกัดเนื้อหาและความเป็นส่วนตัว ฟีเจอร์นี้จะช่วยจำกัดเนื้อหา คัดกรองไม่ให้เด็กเข้าถึงเนื้อหาที่ไม่เหมาะสม รวมถึงปิดการซื้อ และการดาวน์โหลด และตั้งค่าความเป็นส่วนตัวของได้คุณ
ส่วนผู้ปกครองหรือคุณครูท่านไหนที่อยากเรียนรู้เรื่องการใช้งาน iPad เพิ่มเติม ทาง Apple ก็เตรียมคลังความรู้ให้โหลดไปศึกษาด้วยตัวเองผ่านเว็บ education-static.apple.com ซึ่งก็มีหลายๆบทเรียนที่น่าสนใจ เช่น กิจกรรมสำหรับเด็ก 4-8 ปี, กิจกรรมสำหรับเด็ก 8-12 ปี ,การสร้างสรรค์, การเขียนโค้ด, การใช้ AR ด้านการศึกษา
รวมถึงมีการรวบรวมแอปเป็นคอลเล็กชันตามการใช้งาน ซึ่งจะลิงก์ไปยังหน้าเว็บพร้อมให้กดดาวน์โหลดแอปไปใช้งานได้ทันที
เรียกว่าเป็นเครื่องมือที่ผู้ปกครองควรจะศึกษาและนำไปใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้เด็กๆใช้ iPad ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น