Apple ประกาศผลผู้ชนะรางวัล Apple Music Awards ประจำปีครั้งที่ 3 อันได้แก่ The Weeknd ซึ่งได้รับรางวัลศิลปินแห่งปีระดับโลก ในขณะที่ Olivia Rodrigo และ H.E.R. ต่างคว้ารางวัลใหญ่ด้วยเช่นกัน Apple มอบรางวัลศิลปินแห่งปีประจำภูมิภาคที่เพิ่มมาใหม่ให้แก่ Aya Nakamura (ฝรั่งเศส), OFFICIAL HIGE DANDISM (ญี่ปุ่น), RIN (เยอรมนี), Scriptonite (รัสเซีย) และ Wizkid (แอฟริกา)

 
Apple ประกาศผลผู้ชนะรางวัล Apple Music Awards ประจำปีครั้งที่ 3 เพื่อยกย่องศิลปินที่ดีที่สุดแห่งปี 2021 รวมถึงอิทธิพลที่ศิลปินเหล่านี้มีต่อวัฒนธรรมในระดับโลก
 
Apple Music Awards คือรางวัลอันทรงเกียรติที่ยกย่องความสำเร็จในวงการดนตรี 5 สาขา ได้แก่ ศิลปินแห่งปี นักแต่งเพลงแห่งปี ศิลปินดาวรุ่งแห่งปี เพลงยอดนิยมแห่งปี และอัลบั้มยอดนิยมแห่งปี โดยในกระบวนการคัดเลือกผู้ชนะนั้นมีการพิจารณาจากทั้งมุมมองของทีมบรรณาธิการ Apple Music และเพลงที่ลูกค้าทั่วโลกฟังบ่อยที่สุด
 
ปีนี้ Apple Music Awards เพิ่มรางวัลสาขาใหม่สำหรับศิลปินแห่งปีประจำภูมิภาคด้วยเพื่อยกย่องศิลปินจาก 5 ประเทศและภูมิภาค อันได้แก่ แอฟริกา ฝรั่งเศส เยอรมนี ญี่ปุ่น และรัสเซีย โดยที่รางวัลศิลปินแห่งปีประจำภูมิภาคจะมอบให้แก่ศิลปินที่สร้างความแตกต่างทางวัฒนธรรมมากที่สุดและติดอันดับในชาร์ตของประเทศและภูมิภาคนั้นๆ
 
“ช่วง 12 เดือนที่ผ่านมานี้เรียกได้ว่าเป็นปีที่โดดเด่นสำหรับวงการเพลงจริงๆ และเรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้มอบรางวัลเพื่อเป็นเกียรติแก่ศิลปินผู้กำหนดทิศทางของวัฒนธรรม และสานสัมพันธ์กับแฟนเพลงทั่วโลกบน Apple Music” Oliver Schusser รองประธานฝ่าย Apple Music และ Beats ของ Apple กล่าว “ในปีนี้เรายังมีรางวัลสำหรับศิลปินประจำภูมิภาคมากขึ้นด้วย เพื่อแสดงให้โลกเห็นถึงอิทธิพลทางดนตรีของศิลปินมากฝีมือที่กำลังสร้างแรงกระเพื่อมในระดับโลก”
 
งานฉลอง Apple Music Awards จะจัดขึ้นในวันอังคารที่ 7 ธันวาคม 2021 โดยจะมีทั้งการสัมภาษณ์ คอนเทนต์สุดพิเศษ และอีกมากมาย ซึ่งสามารถสตรีมได้ทั่วโลกบน Apple Music และแอป Apple TV ส่วนแฟนเพลงที่ยังไม่ได้เป็นสมาชิก Apple Music ก็สามารถลงทะเบียนเพื่อทดลองใช้บริการฟรีได้เป็นเวลา 3 เดือนที่ apple.com/th/apple-music
 
ผู้ชนะรางวัลในปีนี้ได้แก่…

ศิลปินแห่งปีระดับโลก: The Weeknd

The Weeknd ครองวงการเพลงและวัฒนธรรมป๊อปในแบบของตัวเองโดยการกลั่นกรองแนวเพลง R&B และป๊อปผ่านมุมมองที่กว้างขวาง อัลบั้ม “After Hours” ที่ปล่อยในปี 2020 ซึ่งได้รับความนิยมทั่วโลก มียอดเพิ่มลงในคลังล่วงหน้ามากกว่า 1 ล้านครั้งบน Apple Music จนกลายเป็นอัลบั้มศิลปินชายที่มียอดเพิ่มลงในคลังล่วงหน้าสูงสุดของแพลตฟอร์ม นอกจากนี้ “After Hours” ยังเป็นเจ้าของสถิติอัลบั้ม R&B/Soul ที่มียอดสตรีมมากที่สุดในช่วงสัปดาห์แรกใน 73 ประเทศอีกด้วย ส่วนซิงเกิ้ล “Blinding Lights” สุดฮิตก็ครองอันดับ 1 ในชาร์ต Daily Top 100: Global ของ Apple Music และติดอันดับหนึ่งใน 20 เพลงที่มีผู้ Shazam มากที่สุดตลอดกาล เท่านั้นยังไม่พอ The Weeknd ยังจัดรายการวิทยุที่สร้างกระแสในวงกว้างอย่าง “MEMENTO MORI” ซึ่งได้รับคำชมทั้งในแง่เพลย์ลิสต์ที่คัดสรรมาอย่างดีและเพลงเด็ดที่ทั่วโลกได้ฟังเป็นครั้งแรก แถมยังได้ขึ้นปกนิตยสารทั้ง TIME, Forbes, Variety, Rolling Stone, Esquire, Harper’s Bazaar และ GQ ส่วนโชว์สุดประทับใจในช่วงพักครึ่งการแข่งขัน Super Bowl LV ปี 2021 ก็กลายเป็นช่วงเวลาที่ได้รับการ Shazam มากที่สุดแห่งปี
 
“ผมรู้สึกปลาบปลื้มจริงๆ ที่ได้รับเกียรติในครั้งนี้ และอยากขอบคุณ Apple ที่ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ซึ่งไม่ใช่แค่ในส่วนงานเพลงของผม แต่รวมถึงเพลงดีๆ จากศิลปินหน้าใหม่ด้วย เพราะการเปิดพื้นที่ให้ศิลปินมีที่ยืนและได้รับการสนับสนุนเป็นเรื่องสำคัญมาก” The Weeknd กล่าว
 
รางวัลศิลปินดาวรุ่งแห่งปี อัลบั้มแห่งปี และเพลงแห่งปีตกเป็นของ Olivia Rodrigo

สำหรับ Olivia Rodrigo แล้ว 2021 คือปีแห่งการเปิดตัวอย่างอลังการ นักร้อง-นักแต่งเพลงวัย 18 ปีคนนี้ได้ปล่อยซิงเกิ้ลเปิดตัวสุดเศร้า “drivers license” ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา ซึ่งทะยานขึ้นสู่อันดับหนึ่งของชาร์ตเพลงอย่างรวดเร็วและกลายเป็นหนึ่งในเพลงออกใหม่ที่มียอดสตรีมมากที่สุดแห่งปี “drivers license” เป็นเพลงที่ได้ถูกสตรีมมากที่สุดในสัปดาห์แรกทั่วโลกนับตั้งแต่มีการเปิดตัวซิงเกิ้ลทั้งหมดโดยศิลปินบน Apple Music โดยเพลงนี้ได้ขึ้นสู่ อันดับ 1 ของชาร์ต Daily Top 100: Global และครองตำแหน่งนานกว่าหนึ่งเดือน นอกจากนั้นยังเป็นเพลงเดี่ยวเพลงแรกของศิลปินชาวอเมริกันที่มียอด Shazam ถึงห้าล้านครั้งในเวลาที่รวดเร็วที่สุด “SOUR” อัลบั้มเปิดตัวที่ทุกคนรอคอยตามมาในเดือนพฤษภาคม และได้รับการเฉลิมฉลองด้วยกิจกรรม Apple Music First Listen แบบออนไลน์กับแฟนๆ พร้อมด้วยการให้สัมภาษณ์กับ Zane Lowe “SOUR” เป็นอัลบั้มเปิดตัวที่ได้รับการสตรีมมากที่สุดทั่วโลกในสัปดาห์แรกที่ปล่อยบน Apple Music ทั่วโลก โดยทั้ง 11 เพลงติดอันดับบนชาร์ต Daily Top 100: Global และ Daily Top 100 ในอีก 66 ประเทศ Rodrigo ได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ของ Apple Music อย่าง Today’s Hits, A-List Pop และ New Music Daily และปิดท้ายปีที่เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอด้วยรางวัล Apple Music Awards สามรางวัลแรกอย่างสมเกียรติ โดยเธอได้คว้ารางวัลศิลปินดาวรุ่งแห่งปี อัลบั้มแห่งปี (“SOUR”) และเพลงแห่งปี (“drivers license”) ติดไม้ติดมือกลับบ้านไป
 
“ฉันให้สัมภาษณ์ครั้งแรกกับ Apple Music เกี่ยวกับเพลง ‘drivers license’ และมีอะไรเกิดขึ้นอีกมากมายหลังจากนั้น” Rodrigo กล่าว “รู้สึกเหมือนอยู่ในความฝันเลย ขอบคุณ Apple Music สำหรับทั้งสามรางวัลอันยอดเยี่ยมนี้”
 
นักแต่งเพลงแห่งปี: H.E.R.

ผลงานของนักร้อง นักแต่งเพลง และนักดนตรีที่เล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลายและเจ้าของรางวัลอย่าง H.E.R. ในแนว R&B นั้นได้ขยายวงกว้างยิ่งขึ้นอีกในปี 2021 เมื่อเธอได้เปิดตัวอัลบั้มอันโด่งดัง “Back of My Mind” ที่ประกอบไปด้วยเพลงถึง 21 เพลง ซึ่งเป็นการแสดงออกถึงความสามารถอันแพรวพราว ความมั่นใจ และความมีอิสระเสรีมากที่สุดของตัวเธอเอง อัลบั้มที่ติดชาร์ตของเธอเป็นอัลบั้มแนว R&B/Soul ที่มียอดสตรีมสูงสุดเป็นอันดับสามบน Apple Music ในสัปดาห์แรกที่เปิดตัวสำหรับอัลบั้มที่เปิดตัวโดยศิลปินหญิงในปีนี้ โดยมีซิงเกิ้ลอย่าง “Damage” และ “Come Through” (ร่วมร้องโดย Chris Brown) ที่ติดชาร์ต Daily Top 100 ในกว่า 30 ประเทศเป็นเวลาหลายสัปดาห์ อดีตศิลปิน Apple Music Up Next รายนี้ยังเป็นผู้เขียนเพลงต้นฉบับ “Fight for You” สำหรับภาพยนตร์ชื่อดังเรื่อง “Judas and the Black Messiah” และคัฟเวอร์เพลง“Inner City Blues (Make Me Wanna Holler)” ของ Marvin Gaye สำหรับเพลย์ลิสต์รวมเพลงสุดพิเศษ “Juneteenth: Freedom Songs” ของ Apple Music อีกด้วย H.E.R. ร่วมเป็นแขกรับเชิญขาประจำในรายการของ Zane Lowe และ Ebro Darden บน Apple Music 1 และยังได้รับเลือกให้เป็นศิลปินแนะนำบนเพลย์ลิสต์ยอดนิยมของ Apple Music อย่าง New Music Daily, R&B Now และอีกมากมาย
 
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจอย่างยิ่งที่ได้รับการยกย่องนี้” H.E.R. กล่าว “ในฐานะศิลปินผิวสีที่อายุน้อยและเป็นชาวฟิลิปปินส์ และในฐานะผู้หญิงคนหนึ่งที่ยืนอยู่บนเวทีด้วยความทุ่มเทสุดชีวิต ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการถูกนำเสนอนั้นสำคัญขนาดไหน ขอบคุณ Apple Music มากๆ”
 
ศิลปินแห่งปี (แอฟริกา): Wizkid

นักร้อง-นักแต่งเพลง Wizkid เป็นหนึ่งในศิลปินครอสโอเวอร์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของแอฟริกา ในฐานะผู้ที่เคยร่วมงานกับ Drake, Skepta และ Chris Brown และอีกมากมาย นักดนตรีชาวไนจีเรียรายนี้ประสบความสำเร็จในระดับภูมิภาคเป็นครั้งแรกในปี 2011 ด้วยซิงเกิ้ลยอดนิยมอย่าง “Holla at Your Boy” ซึ่งอยู่ในอัลบั้มเปิดตัวที่มีชื่อว่า “Superstar” Wizkid เริ่มมีชื่อเสียงระดับโลกในปี 2016 หลังจากได้ร่วมงานกับ Drake ในเพลง “One Dance” ซึ่งทะยานสู่อันดับสูงสุดของชาร์ตเพลงใน 15 ประเทศ ระหว่างปี 2019 ถึง 2020 Wizkid ได้เข้าร่วมในโปรเจ็กต์ “The Lion King: The Gift” ของ Beyoncé รวมทั้งผลงานภาพยนตร์ที่ออกมาพร้อมกันในชื่อ “Black Is King” ในเดือนตุลาคม 2020 เขาได้เปิดตัวอัลบั้ม “Made in Lagos” ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ได้รับการยกย่องและประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์มากที่สุด โดยในอัลบั้มประกอบด้วยเพลงฮิต “Essence” ซึ่งมียอดฟัง 125 ล้านครั้งบน Apple Music และยอดค้นหามากกว่า 2.8 ล้านครั้งบน Shazam ในปีที่ผ่านมา เขาเป็นศิลปินแอฟริกันที่ได้รับการสตรีมมากที่สุดในทวีปแอฟริกาบน Apple Music และติดอันดับบนชาร์ต Daily Top 100 ใน 60 ประเทศ ขณะที่ยอดสตรีมรายเดือนบน Apple Music ก็เติบโตมากกว่า 250% นอกแอฟริกา เขายังปรากฏตัวบนชาร์ต Today’s Hits บน Apple Music และเพลย์ลิสต์ R&B Now อีกทั้งยังได้เป็นแขกรับเชิญในรายการต่างๆ บน Apple Music Radio เป็นประจำ ซึ่งรวมถึง “Africa Now Radio,” “The Ebro Show,” “New Music Daily with Zane Lowe” และ “OVO SOUND RADIO”
 
“ขอบคุณ Apple Music สำหรับรางวัลนี้” Wizkid กล่าว “การได้ทำสิ่งที่อยากทำเป็นของขวัญชิ้นเยี่ยมสำหรับผม และผมภูมิใจที่ได้เป็นตัวแทนจากแอฟริกา”
 
ศิลปินแห่งปี (ฝรั่งเศส): Aya Nakamura

Aya Nakamura นักร้องเพลงป๊อปสัญชาติฝรั่งเศส-มาลีเป็นศิลปินจากประเทศที่ใช้ภาษาฝรั่งเศสซึ่งได้รับการสตรีมเพลงมากที่สุดในโลก เธอกลายเป็นที่รู้จักจากเพลงฮิตอย่าง “Djadja” และได้ปล่อย 3 อัลบั้มที่มาพร้อมกับเพลงฮิตติดชาร์ตอย่าง “Copines,” “Pookie,” “Plus Jamais” และ “Jolie nana” นอกจากนี้ เธอยังได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ Hits Français ของ Apple Music อีกด้วย ในฝรั่งเศส Nakamura คือหนึ่งในศิลปินหญิงเพียงไม่กี่คนที่มีชื่อปรากฏบนชาร์ตสตรีมเพลงอยู่บ่อยๆ ในวงการที่เต็มไปด้วยศิลปินแร็พชาย และอัลบั้ม “AYA” ของเธอก็ได้รับยอดสตรีมสูงที่สุดในสัปดาห์แรกของการเปิดตัวอัลบั้มโดยศิลปินหญิงบน Apple Music เพลง “Jolie nana” และ “Plus Jamais” ได้ครองตำแหน่ง 2 อันดับเพลงจากศิลปินหญิงบน Apple Music ในฝรั่งเศสที่มียอดสตรีมสูงสุดในสัปดาห์แรก และเพลงทั้ง 15 เพลงในอัลบั้มของเธอได้ติดชาร์ตเพลงฮิตประจำวัน 100 เพลงในฝรั่งเศส เบลเยียม และไนเจอร์ โดย “Jolie nana” ได้ตำแหน่งสูงสุดอันดับ 1 ในประเทศดังกล่าว เพลง “Bobo” ของเธอยังติดอันดับ 1 บนชาร์ตเพลงฮิตประจำวัน 100 เพลงในฝรั่งเศส, ไนเจอร์, เคปเวิร์ด และไมโครนีเซีย นี่คือซิงเกิ้ลที่ 5 ของเธอที่ติดชาร์ตเพลงฮิตประจำปีในฝรั่งเศส
 
“ฉันรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้เป็นศิลปินจากประเทศที่พูดภาษาฝรั่งเศสคนแรกที่ชนะรางวัล Apple Music Awards ในฐานะศิลปินแห่งปี (ฝรั่งเศส)” Nakamura กล่าว “ขอบคุณค่ะ Apple”
 
ศิลปินแห่งปี (เยอรมนี): RIN

Renato Simunovic นักร้องแพลงแร็พที่รู้จักกันในชื่อว่า RIN เกิดในปี 1994 ที่ Bietigheim-Bissingen ใกล้กับชตุทท์การ์ทในเยอรมนีตอนใต้ หลังจากเปิดตัว “Genesis” EP แรกของเขาในปี 2016 อัลบั้มเดบิวต์ของเขาอย่าง “Eros” ก็เปิดตัวตามมาอย่างรวดเร็วในปี 2017 RIN ศิลปินที่ครองรางวัลระดับทอง 25 ครั้งและระดับแพลตตินั่ม 3 ครั้งได้เปิดการแสดงสดมานับครั้งไม่ถ้วน ได้ร่วมงานกับบุคคลระดับตำนาน และทำงานกับแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในโลก RIN ได้ฉีกกรอบเดิมๆ ของเพลงแร็พเยอรมันใน “Kleinstadt” อัลบั้มที่ 3 ของเขา แฟนๆ และนักวิจารณ์ต่างเห็นพ้องกันว่าอัลบั้มนี้มีอิทธิพลต่อวงการเพลงแร็พปัจจุบันในเยอรมนีตอนใต้อีกด้วย เขาเป็นศิลปินเยอรมันคนแรกที่ได้จัดรายการของตัวเองบน Apple Music ในชื่อว่า “KLEINSTADTRADIO” โดยรายการนี้มีความเกี่ยวข้องกับอัลบั้มใหม่ นอกจากนี้เขายังได้ขึ้นปกเพลย์ลิสต์ HYPED และ Deutschrap 100 บน Apple Music
 
“2021 เป็นปีที่ดีมากสำหรับผม เพราะสิ่งที่ผลัดวันประกันพรุ่งมานานก็ได้เกิดดอกออกผลในที่สุด” RIN กล่าว “เพลงของผมก็มีพัฒนาการแบบเดียวกัน ผมใส่ความเป็นตัวเองลงไปมากกว่าเดิมเยอะ”
 
ศิลปินแห่งปี (ญี่ปุ่น): OFFICIAL HIGE DANDISM

วง OFFICIAL HIGE DANDISM ก่อตั้งขึ้นในชิมะเนะ ประเทศญี่ปุ่น ในปี 2012 หรือที่เรียกกันอีกชื่อว่า HIGEDAN โดยสมาชิกวงประกอบด้วย Satoshi Fujihara นักร้องนำและมือคีย์บอร์ด, Daisuke Ozasa มือเบสและ Makoto Narazaki นักเล่นแซกโซโฟน และ Masaki Matsuura มือกลอง พวกเขาได้ปล่อยมินิอัลบั้มเปิดตัวอย่าง “Love to Peace wa Kimi no Naka” ในปี 2014 “Escaparade” อัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกที่มีเพลงฮิตอย่าง “No Doubt” ได้เปิดตัวไปในปี 2018 แต่ซิงเกิ้ลที่สองอย่าง “Pretender” กลับกลายเป็นเพลงที่ติดอับดับต้นๆ บนชาร์ต Apple Music ในญี่ปุ่น HIGEDAN ติดลิสต์ศิลปินหน้าใหม่จาก Shazam ในญี่ปุ่นและออสเตรเลียเป็นครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2019 ก่อนหน้าการเปิดตัวอัลบั้มต่อมาอย่าง “Traveler” ซึ่งได้กลายเป็นอัลบั้มอันดับ 1 ในญี่ปุ่น วงได้ปรากฏตัวบนโฆษณาของ Apple Music Japan ถึง 3 โฆษณาพร้อมกับเพลงฮิตอย่าง “Stand by You” และ “I Love…” รวมถึงเพลงที่เปิดตัวในปี 2021 อย่าง “Apoptosis” จากอัลบั้มที่สาม “Editorial” ซึ่งมียอดสตรีมสูงสุดในสัปดาห์แรกเป็นอับดับสามสำหรับอัลบั้มที่เปิดตัวในปี 2021 จากญี่ปุ่น และไม่นานมานี้ทางวงก็ได้ปรากฏตัวบนโฆษณาระบบเสียงตามตำแหน่งกับ Dolby Atmos จาก Apple Music Japan นอกจากนี้ วงยังได้เป็นแขกรับเชิญของ “J-Pop Now Radio” บน Apple Music 1 มาแล้วหลายครั้ง
 
“เราไม่เห็นจะรู้มาก่อนเลยว่าศิลปินญี่ปุ่นก็สามารถชนะรางวัลนี้ได้ด้วย พวกเราเลยตกใจกันมากตอนที่รู้ว่าเราชนะ” ทางวงกล่าว “เราดีใจสุดๆ ที่ได้เป็นผู้ชนะคนแรกของ Apple Music Awards สาขาศิลปินแห่งปี (ญี่ปุ่น)”
 
ศิลปินแห่งปี (รัสเซีย): Scriptonite

Scriptonite หรือที่รู้จักกันในชื่อ Adil Zhalelov คือแรปเปอร์ที่ปลุกปั้นโดย Basta และเซ็นสัญญาเข้าค่ายเพลง Gazgolder ในปี 2015 อัลบั้มเปิดตัวของ Scriptonite ที่ชื่อ “House with Normal Activity” กลายมาเป็นผลงานขึ้นหิ้งทันที และได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผลงานเพลงสุดยิ่งใหญ่แห่งการปฏิวัติครั้งใหม่ของวงการฮิปฮอปรัสเซีย ในปี 2017 Scriptonite กลับมาปล่อยอีก 2 LP กับค่ายเพลง Gazgolder จนทะยานขึ้นเป็นโปรดิวเซอร์และเพอร์ฟอร์เมอร์มือหนึ่งของวงการฮิปฮอปยุคปัจจุบัน บรรดาแฟนๆ และนักวิจารณ์ต่างยกให้เขาเป็นนักร้องคนสำคัญที่สุดแห่งยุค หลังจากแยกมาเริ่มเปิดตัวค่ายเพลงของตัวเองที่ชื่อ Musica36 เมื่อปี 2019 Scriptonite จึงปล่อยอัลบั้ม “2004” ลง Apple Music แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากนักวิจารณ์ รวมถึงได้เป็นเพลงที่มียอดสตรีมอันดับ 1 แห่งปีอีกด้วย Scriptonite ยังมีอีก 2 อัลบั้มที่ทำสถิติมียอดสตรีมสูงสุดประจำสัปดาห์แรกที่เข้า Apple Music ใน 5 ประเทศ (รัสเซีย ยูเครน คาซักสถาน คีร์กีซสถาน และมอลโดวา) ซิงเกิ้ล “Baby Mama” พาเขาทะยานเข้าสู่ชาร์ตเพลงฮิต Top 20 ทั่วโลกของ Shazam ได้สำเร็จ ในปี 2020 Apple Music ได้เผยแพร่ภาพยนตร์สั้นเรื่อง “Behind Scriptonite’s ‘2004’” และการแสดงคอนเสิร์ตแบบสดๆ ในชื่อ “36 Jam” ที่รวบรวมศิลปินทุกรายของค่าย Musica36 เอาไว้แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ส่วนปีนี้ เขาได้ปล่อยอัลบั้มที่ชื่อ “Svistki Y Bumazhki” รวมถึงเปิดการแสดงในมอสโควหลังจากที่ต้องเลื่อนไปเพราะภาวะโรคระบาด โดยทั้ง 2 อย่างนี้มีให้รับชมได้แบบเอ็กซ์คลูซีฟใน Apple Music ผลงานเพลงต่างๆ ของ Scriptonite ได้รับการบรรจุไว้ในเพลย์ลิสต์ Kirillitsa, Russian Hits และ New Music Daily ของ Apple Music ส่วนตัวเขาในตอนนี้ก็กำลังสร้างสรรค์ผลงานเพลงภาษาอังกฤษชิ้นแรกร่วมกับ Gee Baller ศิลปินวัยรุ่นดาวรุ่งชาวไนจีเรียที่เพิ่งจรดปากกาเซ็นสัญญากับค่าย Musica36
 
“การได้รับรางวัลนี้คือจุดสูงสุดของช่วง 2-3 ปีอันยอดเยี่ยมนี้เลย และ Apple Music ก็คอยสนับสนุนผมมาตลอด” Scriptonite กล่าว “ขอบคุณมากที่ให้เกียรติผมขนาดนี้”
 

เกี่ยวกับ Apple Music Awards

Apple ออกแบบรางวัลประเภทต่างๆ ที่จัดทำด้วยมืออย่างประณีต แสดงให้เห็นถึงความละเอียดที่เป็นส่วนหนึ่งของการสรรค์สร้างผลงานเพลง รางวัลแต่ละชิ้นประกอบด้วยแผ่นเวเฟอร์ซิลิคอนพิเศษจาก Apple ที่ประกบด้วยแผ่นกระจกมันวาว และแกนอะลูมิเนียมชุบอะโนไดซ์ที่ตัดแต่งรูปทรง กระบวนการทั้งหมดใช้เวลาหลายเดือนก่อนที่จะตัดให้เป็นชิพหลายร้อยชิ้น จนได้ออกมาเป็นผลงานที่น่าประทับใจและไม่เหมือนใคร อันเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อว่า ชิพนี้จะช่วยมอบขุมพลังให้อุปกรณ์ต่างๆ ที่รวมเสียงดนตรีจากทั่วโลกมาไว้ใกล้เพียงปลายนิ้วของผู้ฟัง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของ Apple Music Awards