iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max อัปเกรดเรื่องกล้องเป็น 48 ล้านพิกเซลแทนความละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่ใช้มาอย่างยาวนาน นอกจากนั้นยังมีเทคโนโลยี pixel-binning รวม 4 พิกเซลเข้าด้วยกันเพื่อให้ถ่ายในสภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น แต่นี่คือสิ่งที่ Apple ไม่ได้บอกเอาไว้ในงานเปิดตัว
ต้องเปิดใช้งานก่อนถึงถ่ายได้
ถ้าคุณอยากถ่ายภาพด้วยความละเอียดด้วย 48 ล้านพิกเซลต้องไปเปิดที่การตั้งค่าก่อน เพราะค่าเริ่มต้นนั้นจะปรับความละเอียดไว้ที่ 12 ล้านพิกเซล ให้เราเข้าไปที่การตั้งค่า เลือกกล้อง > รูปแบบ > เปิด Apple ProRAW
ถ่าย 48 ล้านพิกเซลต้องมีแสงมากพอ
เมื่อเราเปิดใช้งานความละเอียด 48 ล้านพิกเซลแล้ว ให้จำเอาไว้ว่าการถ่ายรูป ProRAW นั้นจำเป็นต้องใช้แสงสว่าง ยิ่งมากยิ่งดีเพราะการถ่ายมุมกว้าง 1 รูป สามารถเซฟเป็น 12 หรือ 48 ล้านพิกเซล แต่ถ้าถ่ายด้วย Night mode, เปิดแฟลชหรือถ่ายมาโครจะเซฟได้แค่ 12 ล้านพิกเซลเท่านั้น
ประมวลผลภาพนานขึ้น
แม้ชิป A16 Bionic นั้นจะเป็นชิปที่เร็วและแรงสุดๆในตลาดตอนนี้ แต่เมื่อเราถ่ายด้วย ProRAW การประมวลผลภาพก็จะใช้เวลานานขึ้นกว่าเดิมนิดนึง ซึ่งอาจจะทำให้บางจังหวะเราพลาดช็อตสำคัญๆได้
ถ่าย Live Photos ด้วยความละเอียด 48 ล้านพิกเซล
เราสามารถถ่าย Live Photos ด้วยความละเอียด 48 ล้านพิกเซลบน iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max แต่ถ้าเราปิด ProRAW และ Live Photos เราก็จะได้ภาพนิ่ง 12 ล้านพิกเซล
เปลืองพื้นที่เก็บข้อมูลมากขึ้น
การถ่ายรูปด้วย ProRAW นั้นหนึ่งภาพจะใช้พื้นที่ประมาณ 75MB เรียกว่าเพิ่มขึ้น 3 เท่าตัวเมื่อเทียบกับ ProRAW ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซลที่ใช้พื้นที่ประมาณ 25 MB ส่วนภาพปกตินั้นจะใช้พื้นที่แค่ 1.5MB เท่านั้น
ตัวเลขเหล่านี้เป็นแค่การประเมินเบื้องต้นเท่านั้น แต่ไฟล์ยังใหญ่กว่านั้นได้อีก ดังนั้นใครที่เน้นถ่ายรูปด้วยความละเอียดสูงๆแนะนำให้เลือกรุ่นที่มีความจุเยอะๆ
ถ่ายโอนข้อมูลช้า
อีกปัญหาของ iPhone 14 Pro คือ การถ่ายโอนข้อมูลที่ช้า เพราะไฟล์มีขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมแต่พอร์ตการเชื่อมต่อยังเป็นพอร์ต Lightning ความเร็วคือ USB 2.0
แม้จะมี AirDrop แต่การส่งไฟล์รูปทีละเยอะๆก็ไม่ไหวเหมือนกัน แถมรองรับแค่การส่งไฟล์ระหว่างอุปกรณ์ Apple ด้วยกันเอง ส่วนพอร์ต USB-C นั้นน่าจะมาในไอโฟนรุ่นถัดไปแทน
ที่มา https://bgr.com/tech/6-big-iphone-14-pro-camera-secrets-apple-never-told-us-about/