หลังจากที่ Xiaomi ยักษ์ได้เปิดตัวโทรศัพท์มือถือระดับเทพ ราคานางฟ้าไปเมื่อหลายปีก่อน จนถึงตอนนี้ Xiaomi กลับมาอีกครั้งให้ลูกค้าและผู้ใช้ทั้งหลายได้เกิดอาการคันกันอีกครั้ง กับ Action Camera สไตล์พกพาสีสันน่าหมั่นไส้
แต่ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าเจ้า Action Camera ตัวนี้ไม่ได้ผลิตออกมาจากโรงงานของ Xiaomi โดยตรง แต่เป็นผลิตผลจากบริษัทลูกที่แยกตัวออกจาก Xiaomi เพื่อผลิตและพัฒนาแต่กล้องแนว Action Camera เพียงอย่างเดียว ฉะนั้นกล้องด้านหลังจะเห็นได้ว่าผลิตโดย Xiao Yi ( เซี่ยวอี่) นั้นเอง และจริงๆ แล้ว คำว่า Yi นั้นตามภาษาจีนแล้วต้องอ่านว่า อี้ ซึ่งแปลว่า 1 นั้นเอง ความหมายโดยนัยบอกกันไปเลยว่าอีกไม่นานจะมาเป็นที่ 1 แน่นอน
Xiao Yi Action Cam ตัวนี้ออกแบบมาได้น่าจับตามองกันเป็นอย่างมากทั้งความโดดเด่นในเรื่องสเปค หน้าตา สีสัน และราคา ที่คุณอาจอุทานว่า โฮ้ !!! ออกมาได้ทันที เพราะคิดค่าเงินออกมาเป็นเงินไทย แบบราคาหิ้วกันแล้วละก็ ราคาแตะไม่ถึง 3,500 บาท แต่ว่าราคาที่จะจับจองกันเป็นเจ้าของนั้นก็มีหลายข้อให้เลือก เพราะมีจำหน่ายแบบกล้องชุดเดียว หรือกล้องพร้อมไม้เซลฟี้ หรือชุดใหญ่ไปเลย กล้อง ไม้เซลฟี้ และเคส ใส่กรอบเอาไว้ลงน้ำ ซึ่งต้องใส่ของ Yi เองเลย ไม่สามารถนำไปใส่เข้ากับของ Go Pro ได้
สเปคของ Yi แบ่งออกได้กันหลายโหมด หลายแบบ ไม่ต่างจากกล้อง Action Camera จากค่ายอื่นๆ เท่าไร แต่สิ่งที่ทาง Xiao Yi นำมาประกอบและจับใส่เข้ามานะซิ เนี้ยเทพ จนทำให้ระดับ Top Action Cam จากค่ายอื่น ร้อนๆ หนาวๆ กันเพียบ สเปคแบ่งออกเป็นดังนี้
1. Lens Sensor หน้ากล้องนั้นได้รับผลงานการผลิตหน้าเลนส์มาจากค่าย Sony (Sony Exmor R CMOS)
2. หน่วยประมวลผลเป็นของ Ambarella A7LS (เป็นชิปเซ็ตเดียวกันกับที่ใช้ใน GoPro Hero3 Black)
3. รูรับแสง F/2.8 ทำหน้าที่ถ่ายภาพหรืออัดวีดีโอ ได้ดีในสภาวะแสงไม่พอ
4. ความละเอียดนั้นแบ่งออกได้ 2 ประเภท 1. ด้านการถ่ายภาพ 16 ล้านพิคเซล 2. ถ่ายวีดีโอได้ถึง Full HD 1980×1080
5. Wide Angle หรือขนาดความกว้างขอหน้าเลนส์นั้นมีขนาดมากถึง 150 องศา
6. ในตัวเครื่องไม่ได้ใส่หน่วยความจำ จึงต้องใส่เมมโมรี่เพิ่มเป็นแบบ Micro Sd Card ได้มากถึง 64 GB.
7. Battery ที่แถมมาให้มีขนาด 1010 mAH.
8. รองรับการทำงานผ่านระบบ Wifi , Micro USB , Micro HDMI
ตัวเครื่องประกอบไปด้วย
ด้านหน้า : เลนส์กล้องแบบไม่มีฝาปิด พร้อมปุ่มเปิดปิดตัวเครื่อง และวงแหวนไฟสีต่างๆ ฟ้า ชมพู แดง ซึ่งบอกถึงสถานะของ Battery และยังเป็นปุ่มปรับโหมดไปยังถ่ายภาพเคลื่อนไหวได้อีกด้วย
ด้านบน : ปุ่ม Shutter พร้อมไฟสีแดงบอกสถานะการถ่ายทั้งภาพนิ่งและเคลื่อนไหว ถัดมาที่เห็นเป็นรูเล็กนั้นคือ ช่องรับเสียงเวลาบันทึกภาพเคลื่อนไหวนั้นเอง
ด้านข้าง : ปุ่มเปิดปิดรับสัญญาณ Wi-Fi เพื่อต่อเข้ากับโทรศัพท์มือถือ และไฟสีฟ้าบอกสถานะการเชื่อมต่อ
ด้านหลัง : ช่องใหญ่ๆนั้นคือช่องใส่ Battery ขนาด 1010 maH. และ Port ต่างๆ ประกอบไปด้วย ช่องใส่ Micro Sd Card , Micro HDMI , Micro USB ตรงมุมบนซ้ายนั้นเป็นปุ่มไฟสีแดงบอกสถานะการถ่ายภาพ เช่นกับทางด้านบนตัวเครื่อง
ด้านล่าง : เป็นช่องแกนเสียบแบบหมุนเข้ากับไม้เซลฟี้หรือขาตั้งกล้องทั่วๆไป และไฟสีแดงบอกสถานะการถ่ายภาพ
ลักษณะการใช้งานนั้นไม่ได้ยากเลย วิธีการเล่นมีอยู่แค่ 2 อย่างเท่านั้น
1. ถ่ายจากตัว Yi กันไปเลยแบบไม่ต้องคิดมาก แค่เปิดเครื่องเท่านั้น กดปุ่ม Shutter ด้านบนไปเลยทีเดียวจบ แต่แนะนำนิดนึง หากต้องการรูปภาพแบบไม่ใช่วิญญาณออกจากร่างนั้น ให้สังเกตุเสียงของตัวเครื่องหลังจากที่เรากดถ่ายเสร็จแล้วจะมีเสียง ปิ๊ปๆ ออกมาเราให้ถือตัวเครื่องนิ่งๆ ไว้จนกว่าเสียงนั้นจะหายไปแล้วค่อยปรับอริยบท ในท่าต่อไป ทั้งนี้ก็เพราะตัวเครื่อง Yi นั้นกำลังทำหน้าที่ส่งภาพที่ถ่ายไปยัง Sensor และปรับค่าความไวแสง เพื่อให้ได้ภาพที่ออกมาชัดที่สุด ฉะนั้นแล้วหากเป็นการ่ถายตอนกลางคืนหรือในสภาพที่สภาวะแสงไม่พอ ก็อาจต้องอาศัยเวลานิดนึง กว่าจะเสียงปิ๊ปๆ นั้นจะหายไป ส่วนการถ่ายวีดีโอ ก็ง่ายๆ กดปุ่มเปิดปิดเครื่องอีกครั้ง จนกว่าไฟสีแดงด้านบนและด้านหลังเครื่องจะติด จากนั้นก็บรรเลงถ่ายต่อเนื่องกันเลย
2. ถ่ายภาพและภาพเคลื่อนไหว จากโทรศัพท์มือถือ โดยการดาวโหลดโปรแกรมผ่าน QR Code ที่แถมมาให้ในกล่องหรือจะหาตาม Web Site ต่างๆ โดย App นี้มีชื่อว่า Yi Camera จากนั้นพอ Install ลงเครื่องกันเรียบร้อยก็ Sync ผ่าน Wi-Fi เปิด App ก็จะได้หน้าตาเหมือน App ถ่ายรูปทั่วๆไป แต่ที่ผู้ ใช้สามารถนำเอามือถือตัวที่เชื่อมต่อนั้นเป็น Controller แทน Yi Camera ได้เลย จอภาพนั้นจะปรากฏขึ้นมาผ่าน App แต่อาจจะดู Delay กับความเป็นจริงอยู่ราวๆ 2 วินาที ฉะนั้นผู้ใช้ก็ใจเย็นๆ หน่อยแล้วกันจ้า ภายใน App ยังสามารถตั้งค่าขนาดภาพ หรือ วีดีโอให้ได้ตามทีเราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นขนาด Full HD , HD หรือจะเลือกระดับพิคเซลของภาพให้มีขนาดเล็กกว่า 16 ล้านก็ทำได้ เพราะจากตัวกล้อง Yi นั้นไม่มี Setting มาให้เลือก โหมดต่างๆ ใน App นอกจาก Setting แล้ว ยังมีโหมดให้ถ่ายได้สนุกมากขึ้นไปอีกมากถึงได้ด้วยกัน 4 โหมด ได้แก่ Normal , Time Lapse , Self – Timer , Burst และอีกมากมายภายนฟีเจอร์ที่ยกมาให้แบบจัดหนัก จัดเต็ม
สรุปการใช้งานและความคิดเห็นส่วนตัว
พอได้ลองใช้ลองสัมผัสมาเต็มๆ 1 วัน ก็พอที่จะสรุปอะไรหลายๆ อย่างภายในตัว Yi Camera ก่อนอื่นก็ต้องชมบริษัทแม่ Xiaomi และ Xiao Yi ที่เป็นบริษัทที่แยกตัวออกมาทำพวก Action Camera โดยเฉพาะ ออกแบบผลิตภัณฑ์สินค้าตัวนี้ออกมาได้อย่างฮือฮากันอีกครั้งนับจากมือถือบริษัทแม่ออกเปิดตัวไป ทั้งคุณภาพไฟล์ที่ได้รับ และสีสันที่สดใสน่าหมั่นไส้ชวนให้หยิบจับขึ้นมาลองถ่าย การใช้งานเป็นการออกแบบที่ไม่มีอะไรต้องคิด ยก เล็ง กด รอ เก็บ ดู มีแค่เนี้ย ไม่พอใจก็ถ่ายใหม่ ยิ่งสามารถต่อเชื่อมเข้ากับ Smart Phone เพื่อให้เป็นหน้าจอในการมองและตั้งค่าในโหมดต่างๆ ด้วยแล้วยิ่งทำให้การใช้ง่ายและดีขึ้นไปกว่าเดิมอีก จริงอยู่ถึงแม้หากเทียบคุณภาพไฟล์ภาพ ไฟล์วีดีโอ จะสู้กล้องพวก Action Camera ในระดับ Pro สูงๆ ยังไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ดูขี้เหร่ หรือไฟล์แย่ขนาดที่ต้องร้อง ยี้ ออกมา แต่ดีไหมดี บางไฟล์นั้นอาจดูดีกว่ากล้อง Pro ตัวราคาระดับหมื่นเลยก็ได้ ฉะนั้นแล้วในเมื่อการใช้งาน และคุณภาพที่พอใช้ได้แบบไม่ต้องคิดมาก แถมราคาเนี้ยซิยิ่งเป็นตัวที่ทำให้ตัดสินใจง่ายใหญ่สำหรับเลือกมาเป็นเจ้าของ อย่างน้อยผู้เขียนละคนนึง ที่มีไว้ครอบครองอย่างไม่ต้องคิดมาก
ข้อดี
1. ราคาถูกจนน่าใจหายสำหรับฟีเจอร์ที่อัดลงแบบจัดหนักจัดเต็ม
2. สีสันสดใสคล้ายนกแก้วหรือนกหงหยก
3. มี Wi-Fi สามารถเชื่อมต่อเข้ากับ Smart Phone ได้ทั้ง Android และ IOS
4. Battery ทนพอใช้งานได้หนักเพราะมามากถึ 1010 mAH. และสามารถถอดเปลี่ยนได้
5. รองรับความจุแบบ Micro Sd Card ได้มากถึง 64 GB.
6. รองรับการชาร์จไฟด้วยสายแบบ Micro USB ซึ่งหาได้ทั่วโลก
ข้อเสนอแนะ
1. รุ่น 2 นั้นอยากเห็นคุณภาพไฟล์แบบระดับ 4k 120P ในราคาที่ไม่แพงกว่ารุ่นพี่มากนัก
2. อยากให้มีออกมาถึง 2 รุ่น รุ่นแรกเป็นแบบ Full HD แบบมีหน้าจอซิ้งผ่านมือถือได้เหมือนเดิม รุ่นที่สอง อยากได้แบบ 4K 120P เชื่อมต่อมือถือหรืออุปกรณ์อำนวยในการถ่ายได้ทั้ง Wi-Fi และ Bluetooth
3. Battery อยากให้เพิ่มความจุจากเดิมเข้าไปให้มากถึง 1500 mAH. เพื่อสนองความนานในการถ่ายแก่ผู้ใช้งาน
4. ปรับปรุงเรื่องความเร็วของ Shutter เพราะบางทีหากถ่ายในที่สภาวะแสงไม่พอ Shutter เปิดนานมากกว่าจะถ่ายเสร็จ
5. บางทีเปิด Wi-Fi ค้นหากันแล้วก็ไม่เจอกันสักเท่าไร ทั้งๆที่เคยต่อกันมาก่อนหน้านั้นแล้ว
[youtube]https://www.youtube.com/watch?v=e6DA0qzAicc[/youtube]
ภาพถ่ายตัวอย่างจากกล้อง Yi Camera ระดับ 16 ล้านพิคเซล กับความกว้างขนาด 155 องศา
บทส่งท้าย
คนเราเมื่อมีสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกัน ก็มักนำโน้นนี้มาจับคู่เทสสเปค ฟีเจอร์ ความสามารถว่าตัวไหนดีกว่ากัน ตัวไหนด้อยกว่ากัน ซึ่งคำตอบที่ได้ออกมานั้นก็มีทั้งดีและไม่ดีปะปนกันไป แต่คนที่จะตัดสินใจได้ดีที่สุดว่าอันไหนดี ตัวไหนโดน สุดท้ายคนนั้นก็คือเราจะรู้ได้อย่างแน่นอนว่าตัวไหนดี ตัวไหนเหมาะ ฉะนั้นแล้วเลือกซื้อในสิ่งที่คิดว่าพอดีสำหรับตนเอง โปรดศึกษาข้อมูลการใช้งาน สอบถามผู้รู้ ตาดูเวลาเห็น แล้วจึงมาประมวลในขั้นตอนสุดท้าย จึงค่อยกำเงินออกไปซื้อ
Via : XiaomiThailand.com
ผู้เรียบเรียง : NuTty m00yAi
