จบไปแล้วกับงาน Unpacked 2017 เปิดตัว Galaxy S8 อย่างเป็นทางการ เราลองไปพรีวิว จับเครื่องจริงดูกันดีกว่าว่ารุ่นนี้จะมีจุดเด่นอะไรบ้าง

Galaxy S8

Galaxy S8

ต้องบอกว่าการกลับมาครั้งนี้ทางซัมซุงได้ทำการบ้านมาอย่างหนักเพื่อสร้างสรรค์สมาร์ทโฟนที่มีความแตกต่างและโดดเด่นออกมาจากรุ่นอื่นๆ ในไทยเองก็มีการถ่ายทอดสดจากนิวยอร์คมาให้สื่อและเหล่าบล็อกเกอร์ต่างๆได้ชมงานเปิดตัวไปพร้อมกันกับที่นิวยอร์ค แน่นนอว่าข่าวลือต่างๆที่ออกมาก่อนหร้านี้ก็ค่นอข้างตรงกับเครื่องจริงที่ออกมา เราลองไปดูดีกว่าว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงจาก S7 ไปบ้าง

ดีไซน์

ดีไซน์ต้องบอกว่าเห็นครั้งแล้วแล้วสะดุดตามากๆ ซัมซุงเลือกใช้การออกแบบของเครื่องที่ที่โค้งมนรับกับอุ้งมือเรา ตัวเครื่องสมมาตร แต่จับแล้วถนัดมือใช้งานด้วยมือข้างเดียวสบายๆ นอกจากนั้นด้านข้างเรียกว่าไร้ขอบอย่างสิ้นเชิง รวมถึงขอบด้านบนและด้านล่างให้หดเล็กลงทำให้พื้นที่หน้าจอกว้างขึ้นในขณะที่ขนาดตัวเครื่องยังคงเท่าเดิม หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้จอขยายได้ก็คือการใช้ชิพประมวลผล 10nm ซึ่งถือเป็นชิพที่เล็กที่สุดที่นำมาใช้ครั้งแรกบนสมาร์ทโฟน

 

นอกจากนั้นปุ่มโฮมด้านล่างยังถูกถอดออกไป ย้ายไปฝังที่หน้าจอด้านล่างแทนกลายเป็น Invisible Home Button ซึ่งเวลากดจะมีการสั่นตอบสนองให้รู้ว่าเรากดด้วย ส่วนตัวเครื่องจะมีทั้งหมด 5 สี คือ สี Midnight Black, Orchid Gray, Arctic Silver, Coral Blue และ Maple Gold

S8

หน้าจอ

S8 จะมาพร้อมหน้าจอ 5.8 นิ้ว ส่วน S8+ จะมีหน้าจอ 6.2 นิ้วเสริมความแข็งแรงด้วยกระจก Gorrila Glass 5 ทั้งด้านหน้าด้านหลัง ความละเอียดเท่ากันคือ 2960×1440 พิกเซล โดยทั้งสองรุ่นจะมากับหน้าจอใหม่ไร้ขอบนี้ซัมซุงเรียกว่า Infinity Display ช่วยให้เราเห็นทุกอย่างชัดเต็มตาขึ้น ปรับสัดส่วนภาพจากเดิม 16:9 เป็น 18.5:9 แทน ช่วยให้เราดูภาพถ่ายหรือคลิปวิดีโอต่างๆได้เต็มตายิ่งขึ้น นอกจากนั้นยังมีประโยชน์เวลาเราเปิดสองแอปพร้อมกันก็จะมีพื้นที่ทำงานได้มากขึ้น ไม่ต้องเพ่งมากให้ปวดตา

เสริมด้วยเทคโนโลยี  MOBILE HDR PREMIUM ที่ช่วยเพิ่มสีสันและคอนทราสของภาพให้สมจริงสุดๆ เพื่อให้เราได้อรรถรสการชมที่มากขึ้น เรียกว่าเป็นมือถือรุ่นแรกของโลกที่ใส่เทคโนโลยีนี้มาให้ ส่วนใครที่ไม่ชอบกดปลดล็อคมือถือบ่อยๆ ก็มีเทคโนโลยี Alway-on display แสดงข้อมูลสำคัญๆเอาไว้ให้ดูด้วย

Bixby

AI ผู้ช่วยเสมือนจริงสั่งงานด้วยเสียงสำหรับช่วยให้เราใช้ชีวิตสะดวกขึ้น โดยมันจะค่อยๆเรียนรู้พฤติกรรมการใช้งานของเรา แถมยังเข้าใจบริบทต่างๆบนหน้าจอ เพื่อมารับใช้เราได้ถูก วิธีการเรียกใช้ก็ทำได้สองวิธีคือกดปุ่มที่ด้านซ้ายของเครื่องหรือเมื่ออยู่บนหน้าจอโฮมกรีนให้ลากนิ้วปัดไปทางขวา ซึ่งในนั้นจะมีการ์ดต่างๆคล้าย Google Now ให้เลือกดูข้อมูล เราสามารถสั่งงานด้วยเสียง, ตั้งให้ช่วยเตือนความจำ, ใช้เป็นตาให้มือถือโดยจะทำงานร่วมกับแอปกล้องถ่ายรูปสำหรับค้นหาข้อมูลของรูปที่ต้องการและการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์อัฉริยะภายในบ้านผ่านแอป Samsung Connect

ไม่ใช่แค่แอปของซัมซุงเอง แต่ Bizby ยังรองรับการสั่งงานแอป Third party ด้วย แต่ในช่วงแรกนั้นยังทำงานได้ไม่กี่แอปเท่านั้น

Iris scanner

Iris Scanner

นอกจากเซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่อยู่ด้านหลังแล้ว ซัมซุงยังใส่ระบบสแกนม่านตาแบบเดียวกับ Galaxy Note 7 มาให้ด้วย ซึ่งทำงานร่วมกับเทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่เค้าบอกว่ารวดเร็วมากๆ แค่ยกมือถือขึ้นมาส่องก็ปลดล็อคเครื่องให้ทันที ไม่ใช่แค่ล็อคเครื่องอย่างเดียว แต่เอาไปใช้ยืนยันตัวตนกับฟีเจอร์ Samsung Pay หรือ Secure Folder ก็ได้

กล้อง

กล้องหน้าความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.7 พร้อมระบบออโต้โฟกัส ส่วนกล้องหลังยังคงเลือกใช้ Dual Pixel ความละเอียด 12 ล้าน รูรับแสง f1.7 เท่ากัน อัพเดทให้ประมวลผลภาพได้ดีขึ้น มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ Mutiframe processing ที่ถ่ายภาพหลายๆภาพร้อมกันแล้วเอาองค์ประกอบต่างๆมารวมกันเพื่อให้ได้ภาพที่ดีที่สุด

Samsung Dex

Samsung Dex

อันนี้เป็นอุปกรณ์เสริมใหม่สำหรับต่อ S8 กับจอมอนิเตอร์และคีย์บอร์ด ทำให้กลายร่างเป็นคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ เลย์เอ้าต่างๆก็เหมือนตอนเราใช้ Windows ยังไงอย่างงั้น แถมยังมีโปรแกรมออฟฟิซมาให้ใช้ด้วย ถ้าใครใช้ทำงานก็สามารถแยกกับการใช้งานส่วนตัวด้วย Samsung KNOX

ทั้งหมดนี้คือจุดเด่นที่น่าสนใจของ Galaxy S8 ที่มีกำหนดจะวางขายทั่วโลกในวันที่ 21 เมษายนนี้ ส่วนไทยจะขายเมื่อไหร่ต้องติดตามกันต่อนะ