ยอมรับเถอะ เราเจอตัวพ่อเข้าให้แล้ว เพราะนวัตกรรมต่างๆของเค้าทำให้หลายตลาดตกที่นั่งลำบาก นี่คือหลักฐานอ่านก่อนเม้นต์จ้ะ
ถ้าหากนับไอแพดเป็นคอมเครื่องนึง ตอนนี้แอปเปิ้ลถือว่ามีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุดในอเมริกา ไอแพดทำให้โครงสร้างอุตสาหกรรมคอมพิวเตอร์เติบโตและเปลี่ยนแปลงไปอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ในขณะที่ตลาดเดส์กท็อปและโน้ตบุ๊คโตแค่ 24.1% รายได้ของบางบริษัทลดลงหรือคงที่ แต่การเข้ามาของไอแพดทำให้แอปเปิ้ลมีอัตราการเติบโตสูงถึง 250% ทีเดียว
จากการเปิดเผยข้อมูลจาก International Data Corporation’s Worldwide Quarterly PC Tracker พบว่าในไตรมาสที่3 ของปี 2010 แอปเปิ้ลขายเครื่องไปได้เกือบ 2 ล้านเครื่องด้วยส่วนแบ่งการตลาด 10.6% ทำให้ก้าวขึ้นไปเป็นอันดับ 3 ของผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ในอเมริกา แต่ถ้านับรวมไอแพดที่ขายไปได้ด้วย จะทำให้แอปเปิ้ลขึ้นไปเป็นอันดับหนึ่งทันที ซึ่งจำนวนไอแพดที่ขายไปได้ยังไม่มีรายงานที่เป็นตัวเลขที่แน่ชัด คาดว่าอยู่ราวๆ 2.4 – 6.4 ล้านเครื่อง
ปัจจุบันการระบุว่าอุปกรณ์ชิ้นไหนเป็น เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PCs) ทำได้ยากขึ้น จากข้อมูลของ IDC ระบุว่า PCs นั้นคือ เดส์คท๊อป แล๊ปท๊อป และมินิโน๊ตบุ๊ค ซึ่งไม่รวมเครื่องแบบพกพาและเครื่องเซอเวอร์ หลายๆคนระบุว่าไอแพดและแทปเล็ตอื่นๆเป็นเครื่องแบบพกพา เป็นสมาร์ทโฟน เครื่องอ่านอีบุ๊ค หรือ มีเดียเพลเยอร์ แม้ว่าแทปเล็ทและโน๊ตบุ๊คจะมีราคาใกล้เคียงกัน แย่งลูกค้ากลุ่มเดียวกัน แต่กลับไม่ถูกจัดให้อยู่ในหมวดเดียวกันซะงั้น
ดังนั้นกราฟของ Deutsche Bank ด้านบนจึงยังไม่ถูกต้องนัก เพราะมีการเพิ่มข้อมูลของไอแพดซึ่งไม่ได้นับรวมในหมวดหมู่ของ PCs เข้าไป และยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าตัวเลขอาจจะเปลี่ยนไป ถ้านับรวมตัวแปรอย่างแทปเล็ตและมือถือ ไม่ใช่แค่ของแอปปิ้ลแต่รวมถึงของเจ้าอื่นๆด้วย ถ้าหากมีการแบ่งแยกอย่างชัดเจนแล้วเราจะได้รู้ว่าธุรกิจของแอปเปิ้ลเจ๋งแค่ไหน
แต่สิ่งที่บ่งบอกว่าแอปเปิ้ลเป็นตัวพ่อจริงๆ ก็คือวิสัยทัศน์ในการทำธุรกิจ การมองเห็นโอกาสในตลาดแทปเล็ตซึ่งใหญ่แถมอัตราการเติบโตสูง แอปเปิ้ลเป็นผู้นำในการสร้างและครอบครองตลาดนี้ ประการสุดท้ายตลาดนี้ยังไปกินส่วนแบ่งของตลาด PCs แน่นอนว่าส่วนที่ไปแย่งมาก็คือลูกค้าของเจ้าอื่น ไม่ใช่ลูกค้าเก่าของแอปเปิ้ลอย่างแน่นอน