Gartner ออกมาคาดการณ์ว่าปีนี้จะขายคอมพิวเตอร์, แท็บเล็ตและมือถือได้รวมๆกันแล้วถึง 2,400 ล้านเครื่อง
ตัวเลขนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2012 ถึง 8 % ถ้าหากการคาดการณ์ของ Gartner ถูกต้อง ภายในปี 2017 ยอดขายอุปกรณ์เหล่านี้จะขึ้นไปแตะระดับ 3,000 ล้านเครื่องก็เป็นได้
Gartner เปิดเผยรายงานฉบับนี้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งนี่น่าจะเป็นเหตุผลว่าทำไมอุตสาหกรรมไอทีถึงมีการแข่งขันกันสูงและมีเรื่องฟ้องร้องกันตลอด ใครที่เป็นผู้นำตลาดย่อมหมายถึงเม็ดเงินมหาศาลที่จะตามมา แม้ว่า Gartner ไม่ได้ลงลึกถึงรายละเอียดส่วนแบ่งทางการตลาด แต่ส่วนหนึ่งที่ตลาดเติบโตก็เป็นเพราะว่าระบบปฎิบัติการแอนดรอยด์และแท็บเล็ตที่ได้รับความนิยมสูงขึ้น แอนดรอยด์ตอนนี้ถือว่าเป็นผู้นำในตลาดระบบปฏิบัติการที่ขายเครื่องได้มากที่สุด จากตัวเลข 2,400 ล้านเครื่อง มีการประมาณการณ์ว่าแอนดรอยด์จะขายได้ 861 ล้านเครื่อง ส่วนที่สองคือ Windows จะขายได้ 354 ล้านเครื่อง ส่วน OS X และ iOS รวมกัน 293 ล้านเครื่อง ในขณะที่ BlackBerry จะขายได้ 31 ล้านเครื่อง
ส่วนหนึ่งที่ทำให้แอนดรอยด์ประสบความสำเร็จก็คือ มีอุปกรณ์ตั้งแต่ระดับราคาถูกไปจนถึงระดับไฮเอ็น แถมผู้ผลิตเครื่องยังสามารถปรับแต่งระบบปฏิบัติการให้เข้ากับอุปกรณ์ของตัวเองได้ เช่น Amazons Kindle นอกจากนี้ยังมีตลาดใหม่อย่างแท็บเล็ตราคาประหยัดที่มีให้เลือกมากมายทั้งจากผู้ผลิตมีและไม่มียี่ห้อ ซึ่งขายดีมากในจีนและรัสเซีย ในขณะที่แอปเปิ้ลก็ยังคงแข็งแกร่งในอเมริกาและยุโรป
ในประเทศกำลังพัฒนาคนที่คุ้นเคยกับสมาร์ทโฟน เวลาจะซื้ออุปกรณใหม่ก็จะเล็งแท็บเล็ตก่อน เพราะจอใหญ่และคุ้นเคยกับระบบปฏิบัติการจากมือถือแล้ว จึงทำให้ยอดขายของพีซีและแล็บท็อปยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง มีการคาดการณ์ว่ายอดขายพีซีจะลดลงจาก 315 ล้านเครื่องในปีนี้เหลือแค่ 272 ล้านเครื่องภายในปี 2017 ส่วนอุปกรณ์ที่อนาคตสดใสก็คือ ultramobiles ซึ่งทาง Gartner ให้คำนิยามว่า อุปกรณ์ไฮบริดระหว่าพีซีและแท็บเล็ตที่บางและเบาที่ใช้ซีพียูของ Intel อย่างเช่น Surface Pro คาดกันว่า Ultramobile จะเพิ่มจาก 24 ล้านเครื่องภายในปีนี้ไปเป็น 96 ล้านเครื่องในปี 2017
VIA techhive