จะดีแค่ไหนหากมือถือที่เราต้องการมีสเปคที่เทียบได้กับเรือธง Smartphone แบรนชั้นนำ แต่ราคาถูกกว่าแบบน่าตกใจ
หลายๆท่านคงเคยได้ยินโทรศัพท์ยี่ห้อ Xiaomi กันมาบ้างแล้วหรือที่คนไทยชอบเรียกว่า เสียวหมี ซึ่งจริงๆแล้วต้องอ่านว่า เซี่ยวมี่ นั้นเอง มือถือยี่ห้อนี้เป็นของดีจากเมืองจีนที่เหลาสเปคกันแล้วว่าเทพจริงๆ หากเทียบกับรุ่นที่ติดตลาดโลก Xiaomi มีความสามารถไม่ได้น้อยหน้าไปกว่ากันเลย เผลอๆ ดีกว่าด้วยซ้ำ
ดังนั้นวันนี้จึงขอนำเสนอรุ่น Red mi รุ่นกลางสเปคเทพมารีวิวกัน เดิมจริงๆ แล้วเจ้าตัว Red mi มีขายในจีนเท่านั้น แต่พอมีความต้องการที่จะจำหน่ายออกไปต่างประเทศเลยต้องมีการปรับเปลี่ยนชื่อและฟังก์ชั่นกันเล็กน้อย ซึ่งชื่อเดิมคือ Xiaomi Hongmi และจะไม่มี Playstore มาให้ แต่ในตัวเครื่องจะมี Market Xiaomi เป็นของตัวเองมาเลยเอาไว้โหลดใช้ ที่นี้เราจะลองมาเจาะกันไปแต่ละจุดว่าทำไมมือถือยี่ห้อนี้ที่มีสเปคใกล้เคียงหรือเท่ากันกับเจ้าอื่น ถึงได้มีราคาที่ถูกกว่ามาก บางรุ่นถึงขั้นถูกกว่าเป็นหมื่น และที่สำคัญที่เคยมีข่าวออกมาเมื่อสองเดือนก่อนว่าทาง mi นั้นสามารถเข้าถึงฐานข้อมูลลูกค้าได้แบบง่ายดายเนื่องจากหากลูกค้าลงทะเบียนข้อมูลต่างๆของเจ้าตัวทางมือถือไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นจะส่งข้อมูลเข้าสู่ Sever ที่จีนทันที ซึ่งอันนี้จริงหรือมั่วชัวหรือไม่ เราคงต้องลองกันดูว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้ไหมหากเราลองมาเปิดดูฟังก์ชั่นภายในกัน
Red mi เป็น Smartphone รองรับระบบปฏิบัติการณ์ Android 4.3 มีสเปคระดับกลางๆ ที่พอเหลาสเปคได้ออกมาดังนี้
– ระบบปฏิบัติการ Android 4.3 Jelly Bean
– หน้าจอ IPS ขนาด 4.7 นิ้ว HD (1280 x 720) 312ppi
– ซีพียู Mediatek MT6589T Quad-core 1.5GHz
– แรม 1GB
– ชิปกราฟฟิก PowerVR SGX544MP2
– หน่วยความจำ 4GB เพิ่ม microSD สูงสุด 32GB
– กล้องหลัง 8 ล้านพิกเซ LED flash ถ่ายวีดีโอ 1080p@30fps (ƒ/2.2 aperture, 28mm wide angle)
– กล้องหน้า 1.3 ล้านพิกเซล
– รองรับ 2 ซิม 3G เฉพาะ 900/2100 เท่านั้น
– แบตเตอรี 2,000 mAh
รูปร่างและลักษณะของตัวเครื่อง
Red mi มาด้วขนาดหน้าจอ 4.7 HD ค่าความละเอียดของพิคเซลอยู่ที่ 312 PPI ซึ่งหากเทียบกับรุ่นอื่นที่มีสเปคใกล้เคียงถือว่าชนะขาดได้เลย ด้านหน้าประกอบไปด้วยกล้องหน้า 1.3 ล้านพิคเซล พร้อมช่องเซนเซอร์ Proximity, Ambient light ด้านล่างเป็นส่วนของปุ่มเมนูบาร์แบบสัมผัส ด้านล่างช่องชาร์จไฟแบบ Micro USB พร้อมไมโครโฟนสำหรับสนทนา ด้านข้างฝั่งขวาเป็นแถบของปุ่มปรับลดเพิ่มเสียงและปุ่มล๊อกหรือเปิดปิดตัวเครื่อง ด้านบนเป็นช่องเสียบหูฟังขนาดมาตรฐาน 3.5 มิลลิเมตร ด้านหลังกล้องระดับ 8 ล้าน พร้อมไฟแฟลชแบบ LED ช่องด้านขวาคือลำโพง Audio
ด้านหลังของ Red mi สามารถแกะฝาหลังออกมาได้ภายในมีช่องเสียบใส่ Dual Sim แบบ 3G 900/2100 เท่านั้น และช่องใส่เมมโมรี่แบบ Micro Sd Card ที่เพิ่มได้สูงสุด 32 GB. ตรงสีส้มด้านล่างคือแบตเตอรี่ขนาด 2,000 MAH. และถอดเปลี่ยนแบตได้
Interface ภายในและฟังก์ชันของตัวเครื่อง
Red mi มี Interfaceที่ให้มาสวยงามน่ารักมีการจัดเป็นหมวดหมู่ในตัวเรียกใช้งานได้ง่ายเช่น Tool , System , App ใช้ MIUI ที่ออกแบบมาสวยดีครับ เรียบๆ ทำงานไหลลื่นเยี่ยมยอด หน้าตาไม่ค่อยซ้ำใครแต่เน้นใช้งานหน้าจอหลักครับ
สิ่งที่แตกต่างไปจาก Smartphoneรุ่นอื่นคือ Xiaomi จะมี Market ที่จะคล้ายๆ Playstore มาให้ในเครื่องเลย การใช้งานไม่ต่างกันแบ่งออกเป็นแต่ละหมวดแล้วแต่จะเลือกใช้
ต่อมาที่เด่นอีกก็คือมีช่องทางการซื้อขายผ่านตัวเครื่องได้เลยคือ mi Store ขายผลิตภัณฑ์ทุกอย่างในเครือ mi เท่านั้น หูฟังลำโพง มือถือ Tablet มีหมดแถมบอกสเปคพร้อมราคาอย่างละเอียดอีกด้วยสะดวกดีจริงๆ แต่ก็ต้องใช้วุ้นแปลภาษากันหน่อยเพราะเป็นภาษาจีนหมดนะจ๊ะ
ส่วนที่ชอบมากและแปลกในสายตาคือโหมดเล่นไฟล์ Video ซึ่งปรกติกแล้ว Smartphone ทั่วไปนั้นจะเล่นได้แค่ไฟล์ที่มาพร้อมเครื่องหรือที่เราโหลดเข้าไปเท่านั้นแต่นี้ทาง Xiaomi ใส่ฟีเจอร์เพิ่มขึ้นมาคือ ผู้ใช้สามารถดูวีดีโอออนไลน์ได้ด้วยทั้งหนัง ทั้งมิวสิควีดีโอ แม่เจ้าตัวแค่เนี้ยอัดมาซะเยอะ
อีดจุดนึงที่น่าสนใจไม่น้อยคือระบบการส่งแชร์ข้อมูลกัน หลักๆคล้ายพวก Wi-Fi Direct และ NFC แต่นี้เค้าให้ชื่อเป็นของตัวเองว่า Transfer ก็คือแสกนหาตัวเครื่องแถวที่อยู่หากเจอก็จับสัญญาณกันแล้วส่งหรือรับข้อมูลกันไปเลย สะดวกรวดเร็วมากกว่า Bluetooth มาก
คราวนี้ลองมาดูอีกจุดนึงที่ได้เกริ่นไปตอนแรกถึงเรื่องที่ว่าจริงหรือที่ข้อมูลทุกอย่างของเจ้าของเครื่องหลังจากที่ลงทะเบียนหรือสมัครผ่านมือถือนั้นจะเด้งไปทางSever ที่เมืองจีนงั้นหรือ ลองมาดูว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้ไหม ตามมาดูในเครื่องขอ งRed mi และคิดว่ารุ่นอื่นก็น่าจะมีอยู่ด้วย จะมีเมนูให้ผู้ใช้ลงทะเบียนอยู่สองที่ จุดแรกคือ Xiaomi Account ที่มีไว้ทำธรุกรรมผ่านตัวเครื่องได้เช่น ซื้อเพลง ซื้อแอฟ หรือแม้กระทั้งซื้อมือถือ อุปกรณ์ Gadget ในส่วนของ Mi Market ก็ทำได้ ซึ่งดูจากตรงนี้ก็อาจเป็นไปได้ตามที่ข่าวออกมาว่าข้อมูลทุกอย่างของเจ้าของเครื่องที่ลงทะเบียนไปอาจไปโผล่ที่ Sever ในเมืองจีนก็น่ามีสิทธิ์เป็นไปได้อย่างสูงเลยทีเดียว ที่ข้อมูลฐานของลูกค้าอาจโดนขโมยได้
จุดที่สองคือ Mi Cloud ลักษณะการใช้เหมือน I Cloud ของทาง Apple ก็คือโหลดไฟล์ฝากไว้ อยากโหลดเมื่อไรก็ค่อยไปดูดกลับมา ซึ่งดูไปดูมาจากจุดทั้งสองมีสิทธิ์ไปเป็นได้เกือบ 100 % เต็มที่ฐานข้อมูลของผู้ใช้จะถูกขโมยได้ง่าย ขนาด Apple ยักใหญ่ขนาดนั้นยังโดนแฮกได้เลย ก็ไม่แปลกที่เจ้าอื่นจะโดนไปด้วย ทางออกที่ดีคือเวลาจะทำอะไรหรือสมัครอะไรควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนการกดปุ่ม Next หรือ Accept ดีที่สุด
มาดูความสามารถด้านการถ่ายรูปของRed mi กันบ้าง
กล้องที่ให้มานั้น กล้องหลัง 8 ล้าน และบันทึกวีดีโอได้ระดับ Full HD ดูๆไปแล้วก็ทั่วๆไปแต่มีหมัดเด็ดตรงฟีเจอร์และโหมดเมนูในการปรับแต่งเยอะมากกึ่งๆ โปรได้เลยส่วนกล้องนั้นมีระบบ Auto Focus ที่ไวใช้ได้เลย เคลื่อนไหวได้สมูทดีมาก
ส่วนฟังก์ชั่นที่ใส่มาก็ครบครัน HDR , Panorama , Filter , Scene Mode ไงละไม่ธรรมดาเลยทีเดียว
กล้องหน้าก็ไม่ธรรมดาดูสีสันสดใสเลยทีเดียวถึงแม้ว่าจะให้มาแค่ 1.3 ล้านพิคเซลแต่ต้องบอกเลยว่าภาพที่ได้มาคมชัดดี แถมเซนเซอร์วัดแสงก็ทำได้ดีในที่มืดอีกด้วย เห็นไปถึงรูขุมขนเลย
ภาพตัวอย่างจากกล้อง Red Mi
Normal Mode
HDR Mode
Panorama Mode
สรุปการใช้งาน
การใช้งานหลังจากลองเล่นแค่ 1 วันก็ค้นพบได้ว่าระบบการลื่นไหลดีเกินตัว ไม่มีอาการกระตุกหรือหน่วงๆ ให้เห็น หน้าจอแค่ HD แต่คมชัดเกือบระดับ Full HD ได้เลยหากเทียบกัน กล้องหน้ากล้องหลังระบบโฟกัสและเซนเซอวัดแสงทำได้ดีมาก พวกเรือธงยี่ห้ออื่นมีอายได้เหมือนกัน ต่อมาระบบพวก Xiaomi Account และ Mi Cloud นั้นหากกลัวก็ไม่ต้องไปสมัคร เล่นแต่ในส่วนของ Playstore ก็พอ เพราะคิดว่าหากเราไม่ลงทะเบียนไปมีหรือจะหลุด อีกอย่างที่เคยบอกไปแล้วว่าทำไมสเปคเท่ากันกับเจ้าอื่นแต่ราคาดันถูกกว่าเยอะมาก โดยส่วนตัวคิดว่า ยังไม่มี Dealer หรือตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ฉะนั้นแล้วเรื่องการรับประกันตัวเครื่อง ราคาตัวเครื่อง ยังเป็นของทางร้านที่จัดจำหน่ายแบบหิ้วเครื่องมาเท่านั้น ฉะนั้นแล้วจากปัจจัยนี้เลยทำให้ Xiaomi จึงมีราคาที่ถูกกว่าเจ้าใหญ่ๆ ที่สเปคใกล้เคียงกันกว่ามาก เพราะหากจำหน่ายราคาที่ใกล้เคียงหรือเท่ากันแน่นอนลูกค้าต้องหันคงหันกลับไปมองเรื่องการรับประกันและการบริการหลังการขายตาม Store ใหญ่ๆจะดีกว่า จ่ายเพิ่มอีกหน่อยแต่ได้สิ่งที่อุ่นใจกลับมากกว่า
ข้อดี
1. ใช้งานง่าย ลื่น ไม่หน่วง
2. จอคมชัดมากถึงแม้ว่าจะแค่ระดับ HD
3. กล้องหน้าและกล้องมีความเร็วโฟกัสและการชดเชยแสงที่เร็ว
ข้อเสนอแนะ
1. บางเมนูยังเป็นภาษาจีน อ่านไม่ออก
2. การลงทะเบียนของผู้ใช้ยังคลุมเคลืออยู่ว่าจริงๆ แล้วข้อมูลนั้นไปโผล่ที่ Sever จีนแบบ Auto เลยหรือไม่
3. รองรับการทำงาน 3G บนคลื่น 900/2100 เท่านั้น
4. แถบปุ่ม Home ด้านล่างไม่มีไฟเรืองแสง ใช้งานลำบากหากแสงไม่พอ
[youtube]http://www.youtube.com/watch?v=2OwKSH3m21k[/youtube]
บทส่งท้าย
จะเลือกค่ายไหนเจ้าไหนต่อให้ถูกสเปคเทพก็ต้องศึกษาข้อมูลให้ดีก่อน มือถือจากจีนนั้นมีทั้งดีและไม่ดีปะปนกัน ควรหาร้านหรือบุคคลที่ไว้ใจได้สอบถามเอาไว้ประดับความรู้ก่อนซื้อก็ดี หรือหาข้อมูลจากคนที่รีวิวไว้ก่อนหน้านี้ก็ได้ จะได้ไม่เป็นเหยื่อของผู้ที่คิดไม่ดีกับเราเหมือนที่มีข่าวออกมา
Via : Siamphone.com , mi.com , Youtube , First Mobile Magazine
ผู้เรียบเรียง : NuTty m00yAi