เมื่อสองค่ายยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Tesla ต้องมาเกี่ยวข้องกัน หรือว่าทั้งสองบริษัทนี้จะร่วมมือกันพัฒนา Apple Car เดากันไม่ถูกหรอกค่ะ
เหตุผลที่สองบริษัทนี้ต้องมาเกี่ยวข้องกันก็เพื่อต้องการผลักดันให้แก้ไขกฎระเบียบเกี่ยวกับการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ จะได้มีการเปลี่ยนแปลงให้ชัดเจนขึ้น เพราะหน่วยงาน Department of Motor Vehicles (DMV) ของแคลิฟอร์เนียเตรียมพิจารณานำเสนอกฎระเบียบใหม่ ซึ่งจะส่งผลต่อการทดสอบรถยนต์ไร้คนขับ ถ้าข้อเสนอนี้ผ่านเราจะได้เห็นรถยนต์ไร้คนขับที่ไม่ต้องมีคนมานั่งอยู่หลังพวงมาลัย วิ่งทดสอบในเมือง ทั้ง Apple, Tesla และบริษัทอื่นๆที่ได้รับอนุญาตให้ทดสอบอยู่ในตอนนี้ ต่างก็ต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงของนโยบายก็ได้ส่งจดหมายเสนอแนะเพิ่มเติมไปยัง DMV
ทางฟากของ Apple นั้น ต้องการให้ DMV ออกกฎเรื่อง “Disengagements” ให้ชัดเจนจะได้เข้าใจตรงกัน ว่าเหตุการณ์ไหนบ้างที่คนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยถึงจะเข้าควบคุมรถได้เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุหรือการละเมิดกฎจราจร เพราะตอนนี้บางสถานการณ์ก็ไม่ได้นับว่าเป็น “Disengagements” เช่น การเข้าควบคุมเมื่อระบบทำงานผิดพลาด ถ้ามีความชัดเจนข้อมูลจากการทดสอบจะเก็บได้แม่นยำขึ้น นอกจากนั้นทั้ง Apple และ Tesla ต้องการให้รับอนุมัติการทดสอบรถไร้คนขับที่มีขนาดใหญ่ด้วย อย่างเช่น พวกรถบรรทุกตรงจุดนี้ทาง Tesla กำลังพัฒนารถบรรทุกไฟฟ้าไร้คนขับอยู่ ซึ่งทาง Elon Musk ได้เผยข้อมูลในงาน TED talk ที่เพิ่งผ่านมา
ส่วนแผนกรถยนต์ไร้คนขับ Waymo ที่อยู่ใต้ชายคาของ Alphabet ก็อยากให้ DMV อนุมัติการออกประกันภัยรูปแบบใหม่ ที่สามารถเคลมได้ในกรณีที่ไม่ใช่ความผิดที่เกิดจากรถยนต์ไร้คนขับ (ปกติแล้วเวลาเกิดอุบัติเหตุรถชน ต้องมีชื่อคนขับทั้งสองฝ่ายถึงจะเคลมประกันได้) ทางฟาก Uber นั้น อยากให้ภาครัฐอนุมัติให้รับรถยนต์ไร้คนขับสามารถรับส่งผู้โดยสารได้ระหว่างทดสอบ ส่วนกฎใหม่นั้นจะเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยแค่ไหนอันนี้ก็ต้องมาติดตามกันต่อค่ะ ว่าจะได้ดังใจบริษัทยักษ์ใหญ้เหล่านี้รึไม่
VIA Engadget