หนึ่งในสิ่งที่สาวกไอทีอย่างเราๆเฝ้ารอในปี 2019 นี้ก็คงจะหนีไม่พ้นเจ้า MacBook Pro 16 นิ้วตัวนี้ เพราะเขาเป็นโน้ตบุ๊กที่ได้รับการเคลมว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุดและเป็น MacBook ที่มีจอสวยที่สุดที่เคยทำมาอีกด้วย

มาดูที่อุปกรณ์เสริมที่ให้มาในกล่องกันก่อน ซึ่งจะมีสาย USB Type C พร้อมคู่มือและสติ๊กเกอร์แอปเปิล รวมทั้งมีอแดปเตอร์ขนาด 96 วัตต์ ที่จะทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้น.. ไวขึ้น..  แต่ขนาดเท่าเดิม

 

มาถึงอีกเรื่องหนึ่งที่ MacBook Pro 16 นิ้วตัวนี้นำเสนออย่างชัดเจนก็คือตัวกันรอยที่ห่อสิ่งต่างๆมากจากโรงงาน ที่ทุกชิ้นทำมาจากกระดาษ ซึ่งก็เข้ากับเทรนด์ของโลกในตอนนี้ที่เน้นเรื่องการ Save The World หรือการรักษ์โลก ซึ่งแอปเปิลก็ตอบโจทย์ได้ดีทีเดียว เพราะเมื่อก่อนตัวกันรอยเหล่านี้จะเป็นพลาสติก ซึ่งอันนี้เป็นความคิดดีมากๆ

ในส่วนของตัวเครื่องนั้นมีน้ำหนักไม่มาก พกพาสะดวก แต่จะหนาและใหญ่กว่าตัว MacBook Pro 15 นิ้วเล็กน้อยด้วยขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้น รอบตัวเครื่องมี Thunderbolt 3 (USB-C) จำนวน 4 ช่อง ซ้าย 2 ช่อง ขวา 2 ช่อง และมีช่องสำหรับ Headphone Jack 1 ช่อง

MacBook Pro 16 นิ้ว โน้ตบุ๊กที่ได้รับการเคลมว่ามีหน้าจอแบบ Retina Display ที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีการผลิตออกมา ให้ความสวยงามด้วยจอ Retina ความสว่าง 500nits แบบ P3 ที่มีจำนวนพิกเซลสูงเกือบ 6 ล้านพิกเซล พร้อมการแสดงผลแบบ True Tone ซึ่งจะให้ภาพที่คมชัด สมจริง

MacBook Pro 16 นิ้วตัวนี้มาพร้อมกับขุมพลังโปรเซสเซอร์ Intel Core i9 แบบ 6-Core และ 8-Core พร้อม Turbo Boost ที่เพิ่มความเร็วได้สูงสุดถึง 5.0GHz ช่วยให้ลุยงานหนักหน่วงได้อย่างไม่มีสะดุด โดยเร็วกว่ารุ่น 15 นิ้วถึง 2.1 เท่า พ่วงด้วยหน่วยความจำสูงสุด 64GB และพื้นที่จัดเก็บข้อมูลแบบ SSD สูงสุดถึง 8TB ซึ่งเป็นความจุสูงสุดเท่าที่เคยมีมา รวมถึงแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานต่อกันได้สุดที่ 11 ชั่วโมง

นอกจากจะมีหน้าจอที่ใหญ่ที่สุดที่โน้ตบุ๊กเคยทำมาแล้ว ยังมี่อะไรอีกบ้างที่ทำให้เจ้า MacBook Pro 16 นิ้วตัวนี้ได้ชื่อว่าเป็นโน้ตบุ๊กที่ดีที่สุดของปี 2019 เรามาไล่ดูกันเป็นข้อๆกันเลย

1.Build-in Retina Display ที่เหมาะสำหรับงานตัดต่อ ทำให้วีดิโอและภาพมีคุณภาพสูงขึ้น ภาพสวยขึ้น

2.ประสิทธิภาพการทำงานที่เพิ่มขึ้นกว่า 80% เพราะใช้กราฟิกการ์ด AMD Radeon Pro 5000M Series ที่มีความลื่นไหล เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานได้สูงสุดด้วยหน่วยประมวลผลแบบ 7 นาโนเมตร ที่จะช่วยลดพลังงานลงได้กว่าครึ่งโดยที่ประสิทธิภาพการทำงานยังเหมือนเดิม รวมทั้งใช้หน่วยความจำ GDDR6 ขนาด 4GB และ VRAM สูงสุด 8GB ที่ออกแบบมาสำหรับงานกราฟิกโดยเฉพาะ ช่วยส่งถ่ายข้อมูลได้สูงขึ้น กินไฟน้อยลง แล้วเครื่องก็จะไม่ร้อนเหมือนเมื่อก่อนอีกด้วย

3.ตัวเมมโมรี่ที่เร็วขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 2 เท่า ที่ทำให้เราสามารถเปิดไฟล์ที่มีขนาดกว่า 2GB ได้ในเวลาแป๊บเดียว

4.มีระบบระบายความร้อนที่ดียิ่งขึ้นด้วย Heat Sink ตัวใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นถึง 35% พอเครื่องไม่ร้อนแล้วเราก็จะใช้งานได้นานขึ้น ไม่เปลืองแบต แถมเรนเดอร์งานได้อย่างไหลลื่น ไม่มีสะดุด

5.ความเร็วของตัวเครื่องโดยรวมแล้วคือเร็วมาก ชนิดที่ว่าสามารถเปิดคลิปแบบ 8K ได้อย่างไม่มีสะดุด คือถ้านึกไม่ออกว่าคลิป 8K เป็นยังไง ก็ลองนึกถึงการเปิดหรือตัดต่อคลิปแบบ Full HD พร้อมๆกัน 16 คลิปในคราวเดียว

ถัดมาในส่วนของคีย์บอร์ด ซึ่งคีย์บอร์ดของรุ่นนี้จะกลับมาใช้ Scissor-System Keyboard แทน Butterfly Keyboard ที่ได้รับการร้องเรียนเกี่ยวกับปัญหาการใช้งานค่อนข้างเยอะจากรุ่นก่อนหน้า ซึ่งคีย์บอร์ดรุ่นนี้จะมีใช้งานได้ไหลขึ้น อาจต้องออกแรงในการกดมากกว่าคีย์บอร์ดแบบ Butterfly Keyboard เล็กน้อย แต่ก็จะมีความทนทานมากขึ้น ไม่เสี่ยงกับปัญหาคีย์บอร์ดจม ปุ่มลูกศรซ้ายขวาบนล่างออกแบบเป็นตัว T กลับหัวกดง่าย

ด้านบน มี Touch Bar และ Touch ID โดยปุ่ม Touch ID นี้จะดีไซน์มาเหมือนของ MacBook Air

MacBook Pro 16 นิ้วมีความพิเศษตรงที่ปุ่ม ESC ที่คราวนี้ได้รับการดีไซน์มาให้เป็นปุ่มจริงๆแยกออกมาจาก Touch Bar ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาที่มักจะใช้งานปุ่ม ESC บ่อยๆใช้งานได้ง่ายขึ้น

นอกจากกราฟิกสวยยังมาพร้อมฟังก์ชั่นของเสียงที่ดีเยี่ยม ด้วยลำโพงที่มาพร้อมระบบเสียงที่คมชัดแบบ 6 ลำโพง พร้อมกับวูฟเฟอร์แบบตัดแรงสั่นที่จะช่วยลดแรงสั่นสะเทือนที่อาจทำให้เสียงเพี้ยนได้ รวมทั้งสามารถเล่นไฟล์ Dolby Atmos ที่มีระบบเสียงแบบ 360 องศาได้อย่างดีเยี่ยม จัดได้ว่ากระหึ่มเหมือนกับเข้าไปอยู่ในโรงหนังจริงๆ

มีลำโพงแล้วก็ต้องคู่กับไมโครโฟนดีๆ ที่เจ้าตัวนี้เขามาพร้อมกับไมโครโฟนถึง 3 ตัว ที่ทำให้สามารถบันทึกเสียงได้อย่างคมกริบ เพราะมีการปรับปรุงชุดรับเสียงให้ตัดเสียงรบกวนได้มากกว่า 40% ที่ดีขนาดที่เหล่านักดนตรีของต่างประเทศใช้ MacBook ตัวนี้อัดเสียงได้สดๆโดยไม่ต้องต่ออุปกรณ์ใดๆเพิ่มเลย

สุดท้ายนี้สำหรับ MacBook Pro 16 นิ้วตัวนี้ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการโน้ตบุ๊กสำหรับงานกราฟิกเลิศๆ ทำงานได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด เป็น MacBook Pro สำหรับมือโปรอย่างแท้จริง