Xiaomi จัดงาน Xiaomi Ecosystem Launch เปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่จับกลุ่มไลฟ์สไตล์ ภายใต้แนวคิด Smart life

Xiaomi เรียกว่ามีของขายครบแทบทุกหมวดหมู่เรียกว่ามาช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับระบบ Ecosystem ของแบรนด์ ซึ่งกลยุทธ์หลักที่ทาง Xiaomi วางไว้ในระยะยาวก็คือ Dual-engine strategy ด้วยการพัฒนาสมาร์ตโฟนควบคู่ไปกับอุปกรณ์ AIoT โดยมีมือถือเป็นศูนย์กลางในการควบคุมของใช้ต่างๆที่อยู่รอบตัวเรา ไม่ว่าจะเป็นทีวี เครื่องใช้ไฟฟ้า แก็ดเจ็ตต่างๆเพื่อให้เกิดการทำงานแบบไร้รอยต่อ

ปัจจุบันทาง Xiaomi ได้ขายอุปกรณ์ IoT ไปแล้วมากกว่า 252 ล้านชิ้น ในงาน Xiaomi Ecosystem Launch มีการเปิดตัวผลิตใหม่ 5 ชิ้นดังนี้

Mi Smart Band 5

Mi Smart Band 5 มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 1.1 นิ้วใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า 20% แสดงสีสันสดใสสวยงาม เห็นข้อมูลได้ชัดเจนมากขึ้น เลือกหน้าปัดได้มากกว่า 65 แบบ มีหน้าปัดแบบ Animation ให้เลือกใช้ด้วย รวมถึงเลือกปรับแต่งหน้าจอให้แสดงข้อมูลที่เราดูบ่อยๆได้ด้วย

ในส่วนของการวัดอัตราการเต้นของหัวใจแม่นยำขึ้น 50% มีการเพิ่มโหมดออกกำลังกายใหม่ 5 ชนิด เพิ่มฟีเจอร์ใหม่อย่าววัดการนอนหลับ วัดความเครียด, ติดตามรอบเดือนของสาวๆ

การใช้งานมาพร้อมคุณสมบัติกันน้ำ 5ATM ลงน้ำลึกได้ 50 เมตร แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้สูงสุด 14 วันต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง ส่วนการชาร์จนั้นไม่ต้องถอดตัวเครื่องออกจากสายแล้ว สามารถใช้ที่ชาร์จคลิปแม่เหล็กติดที่หลังเครื่องได้ทันที  แถมยังรองรับการเชื่อมต่อกับแอป Mi Home สามารถควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะในบ้านได้

ตัวเรือนมีทั้งหมด 6 สี สนนราคาขายอยู่ที่ 39.99 ยูโร (1,440 บาท) ส่วนราคาโปรโมชัน Early Bird อยู่ที่ 34.99 ยูโร (1,260 บาท) เท่านั้น ส่วนราคาในไทยที่ 1190 บาท เริ่มวางจำหน่าย 22 กรกฏาคมนี้

MI True Wireless Earphones 2 Basic

หูฟังไร้สายรุ่นใหม่มาพร้อมกับไดรฟ์เวอร์ขนาดใหญ่ 14.2 มม. เน้นการใช้งานง่าย แค่เปิดบลูทูธที่มือถือไว้เวลาที่เราเปิดฝาเคสก็จะทำการจับคู่ให้ทันที

ตัวหูฟังมาพร้อมเทคโนโลยี In-ear Detection ตรวจจับการสวมหู ถ้าเราถอดหูฟังเมื่อไหร่ เพลงจะหยุดเล่นทันที ถ้าเราใส่หูฟังกลับไปเพลงก็จะเล่นต่อให้อัตโนมัติ นอกจากนั้นยังมีไมโครโฟนคู่ที่หูฟังแต่ละข้างสำหรับช่วยตัดเสียงรบกวน

แบตเตอรี่หูฟังสามารถใช้งานได้ต่อเนื่อง 5 ชั่วโมง เมื่อใช้ร่วมกับเคสจะสามารถใช้งานได้ถึง 20 ชั่วโมง ตัวพอร์ตชาร์จเป็น USB-C

สนนราคาขายอยู่ที่ 39.99 ยูโร(1,440 บาท) ส่วนราคาโปรโมชันอยู่ที่ 29.99 ยูโร (1,080 บาท) ส่วนราคาในไทยอยู่ที่ 999 บาท ผ่านช่องทางออนไลน์บนแพลตฟอร์ม Lazada, Shopee และ JD Central รวมถึงร้าน Banana IT, Jaymart, TG Fone, MI Stores และร้านค้าที่ได้รับการรับรองจากแบรนด์ทั่วประเทศ โดยเริ่มวางจำหน่ายวันที่ 22 กรกฎาคม 2563

MI ELECTRIC SCOOTER PRO 2

ในส่วนของการเดินทางมีการเปิดตัว MI ELECTRIC SCOOTER PRO 2 สำหรับช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทาง สกูตเตอร์ไฟฟ้ารุ่นนี้มาในดีไซน์พับได้ สามารถเคลื่อนย้ายหรือเก็บไว้ท้ายรถสะดวกขึ้น

ทำความเร็วได้สูงสุด 25 กม./ชม. พร้อมระบบเบรกหน้าหลัง วิ่งได้ไกล 45 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง รุ่นนี้มีการเพิ่มหน้าจอ LCD ขนาดเล็กสำหรับดูข้อมูลต่างๆเช่น ระยะทางที่วิ่งไป จำนวนแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ ในเรื่องของความปลอดภัยหายห่วงเพราะได้รับการทดสอบและรับรองจาก TUV Rheinland  พร้อมระบบป้องกันแบตเตอรี่ในตัว ส่วนสนนราคาขายอยู่ที่ 499 ยูโรหรือประมาณ 18,000 บาท

นอกจากนั้นยังมีการเปิดตัว MI ELECTRIC SCOOTER 1S รุ่นราคาประหยัดลงมาหน่อย ทำความเร็วได้สูงสุด 25 กม./ชม. วิ่งได้ไกล 30 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง สนนราคาขายอยู่ที่ 399 ยูโร (14,380 บาท)

MI STICK TV

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ด้านความบันเทิงนั้น มีการเปิดตัว  MI STICK TV สำหรับแปลงทีวีให้เป็น Smart Android TV โดยภายในจะฝัง Google Assistant รองรับการสั่งงานด้วยเสียงและ Chromecast สำหรับส่งหน้าจอมือถือไปเล่นบนทีวี รองรับการแสดงผลสูงสุดที่ 1080P

นอกจากนั้นยังมีรีโมทแถมมาให้ สำหรับควบคุมและเข้าถึงบริการสตริมมิ่งต่างๆได้อย่างรวดเร็ว ส่วนสเปคนั้นมาพร้อมซีพียู 4 คอร์, RAM 1GB และความจุ 8GB สนนราคาขายอยู่ที่ 39.99 ยูโร (1,440 บาท)

MI CURVED GAMING MONITOR 34″

ผลิตภัณฑ์ชิ้นต่อมาคือจอโค้งสำหรับนักเล่นเกมในขนาด 34 นิ้ว ความละเอียดอยู่ที่ WQHD 3440 x 144o อัตรารีเฟรชเรตอยู่ที่ 144 Hz

หน้าจอเป็นแบบโค้งให้มุมมอง Ultra-wide 21:9  การแlดงสีสันสมจริงด้วย sRGB ที่กว้างถึง 121% ให้ความสว่างสูงสุด 300 nits รองรับเทคโนโลยี AMD FreeSync ช่วยให้เล่นเกมอย่างไหลรื่น สนนราคาขายอยู่ที่ 399 ยูโร (14,380 บาท)