ในงาน WWDC ทาง Apple ยังคงให้ความสำคัญกับเรื่องของความเป็นส่วนตัว เน้นความโปร่งใสและควบคุมได้ ซึ่งงานนี้ก็มีการเพิ่มฟีเจอร์ปกป้องความเป็นส่วนตัวในแอปต่างๆ

Mail
สิ่งที่หลายคนไม่รู้คือภาพที่แนบมากับอีเมลนั้นมีเครื่องมือติดตามการใช้งานชื่อว่า Invisible Pixels คอยเก็บพฤติกรรมการใช้งานอีเมลของเรา เช่น  เก็บข้อมูล IP Address ติดตามว่ามีการเปิดอ่านเมลฉบับนั้นเมื่อไหร่ ซึ่งทาง Apple ได้เพิ่มการติดค่าให้ผู้ใช้เปิดหรือปิดการติดตามได้ในแอป Mail ในฟีเจอร์ Mail Privacy Protection
หากเราเปิดใช้งานก็จะช่วยซ่อน IP Address ของเรา ไม่ให้ติดตามกิจกรรมออนไลน์ที่เผยให้รู้ถึงพิกัดเรา รวมถึงป้องกันไม่ให้ผู้ส่งรู้ว่าเปิดอ่านอีเมลฉบับนั้นตอนไหน ช่วยให้ใช้งานอีเมลได้อย่างสบายใจยิ่งขึ้น
Safari
เพิ่มการซ่อน IP Address ป้องกันการติดตาม ทำให้ไม่สามารถเชื่อมโยงการทำกิจกรรมข้ามเว็บต่างๆหรือทำให้ล่วงรู้พิกัดได้  เราสามารถตรวจสอบได้ว่าตัวติดตามตัวไหนถูกปิดกั้นไม่ให้สร้างโปรไฟล์ผู้ใช้ของเราใน Safari Privacy Report
App Privacy Report 
เป็น Session ใหม่ในการตั้งค่า ทำให้เรารู้ว่าแต่ละแอปติดตามข้อมูลเราแค่ไหน แอปไหนขอเข้าถึง permission บ่อยแค่ไหน เพื่อเข้าถึงพิกัด, รูปภาพ, กล้อง, ไมโครโฟน , รายชื่อติดต่อ ตลอดระยะเวลา 7 วันที่ผ่านมา  รวมถึงแสดงข้อมูลว่าข้อมูลของตนเองอาจกำลังถูกแชร์ให้กับใครอยู่ โดยดูที่ทุกโดเมนของบุคคลที่สามซึ่งแอปกำลังติดต่ออยู่
Siri
สิรินั้นจะมีการประมวลผลใยอุปกรณ์ เพื่อให้ข้อมูลของเรามีความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ส่วนปีนี้มีการเพิ่ม Speech recognition ทำงานบนอุปกรณ์ซึ่งมีประโยชน์หลายข้อ เช่น ประมวลผลได้โดยไม่ต้องต่ออินเทอร์เน็ต ทำให้ประมวลผลได้เร็วขึ้นกว่าเดิม นอกจากนั้นทาง Apple ยังยืนยันว่าไม่มีการบันทึกเสียงจากการใช้งานใดๆทั้งนั้น
iCloud+
iCloud เพิ่มฟีเจอร์ Account Recovery สำหรับผู้ใช้ที่ลืมรหัสผ่าน เราสามารถตั้งรายชื่อเพื่อนหรือคนครอบครัว ให้อยู่ในรายชี่อที่ช่วยกู้คืนบัญชีได้ ซึ่งพวกเขาจะไม่ได้รหัสผ่านของเราไป ในกรณีที่เราลืมรหัสผ่านให้เราส่ง SMS ไปให้เบอรที่ตั้งไว้ จากนั้นจะส่งรหัสผ่านใหม่ไปให้ ต่อมาคือโครงการ Digital Legacy สำหรับส่งต่อข้อมูลให้เพื่อนหรือครอบครัวหลังจากที่เราเสียชีวิตไปแล้ว ผ่านการตั้งค่า
นอกจากนั้นยังมีการอัปเกรด iCloud+  คือบริการใหม่ด้านความเป็นส่วนตัวในโลกอินเทอร์เน็ตซึ่งมีมาพร้อมกับ iCloud โดยจะช่วยให้ผู้ใช้เชื่อมต่อและเลือกดูเว็บไซต์ได้อย่างปลอดภัยและเป็นส่วนตัวมากขึ้น เมื่อเลือกดูเนื้อหาโดยใช้ Safari คุณสมบัติ Private Relay จะช่วยเข้ารหัสทุกการเข้าชมที่ออกไปจากอุปกรณ์ของผู้ใช้เสมอ ทำให้ไม่มีบุคคลอื่นใดระหว่างผู้ใช้และเว็บไซต์ที่เข้าชมสามารถเข้าถึงและอ่านข้อมูลนี้ได้ ไม่แม้กระทั่ง Apple หรือผู้ให้บริการเครือข่ายของผู้ใช้เองก็ตาม ระบบจะส่งต่อทุกคำขอทางอินเทอร์เน็ตของผู้ใช้แยกออกจากกันเป็นสองรายการ รายการแรกจะมอบหมายที่อยู่ IP แบบไม่ระบุตัวตนให้ผู้ใช้ ซึ่งเทียบตำแหน่งให้ตามภูมิภาคของผู้ใช้ ไม่ใช่ตำแหน่งที่ตั้งจริง ส่วนรายการที่สองจะถอดรหัสที่อยู่เว็บไซต์ซึ่งต้องการเข้าชม แล้วส่งผู้ใช้ให้ผ่านไปยังปลายทาง การแยกส่วนข้อมูลสามารถปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ได้ เนื่องจากจะไม่มีผู้ใดสามารถระบุได้ว่าผู้ใช้คือใครหรือเว็บไซต์ที่เข้าชมคือเว็บใด
Apple ได้ขยายความสามารถของ “ลงชื่อเข้าด้วย Apple” ให้มีคุณสมบัติซ่อนอีเมลของฉัน เพื่อช่วยให้ผู้ใช้มีที่อยู่อีเมลแบบสุ่มให้ไม่ซ้ำกัน ซึ่งจะส่งต่อเนื้อหาอีเมลที่ได้รับไปยังกล่องเข้าส่วนตัวของผู้ใช้ในกรณีที่ไม่ต้องการเปิดเผยที่อยู่อีเมลส่วนตัว การตั้งค่า iCloud, เมล, ซ่อนอีเมลของฉัน ที่มีมาพร้อมกับ Safari ยังทำให้ผู้ใช้สร้างและลบที่อยู่อีเมลกี่ครั้งก็ได้ เมื่อใดก็ได้ตามต้องการ เพื่อให้ผู้ใช้ควบคุมได้ว่ามีบุคคลใดบ้างที่สามารถติดต่อหาตนเองได้
iCloud+ ได้เพิ่มความสามารถในตัวเรื่องการรองรับ วิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกล้องในแอปบ้านได้หลายตัวกว่าเดิม และมีพื้นที่จัดเก็บข้อมูลฟุตเทจวิดีโอการรักษาความปลอดภัยในบ้านที่เข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งจะไม่นับรวมกับพื้นที่จัดเก็บข้อมูล คุณสมบัติ “วิดีโอ HomeKit เพื่อความปลอดภัย” ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่ากิจกรรมที่กล้องวงจรปิดของผู้ใช้ตรวจพบนั้นจะได้รับการวิเคราะห์และเข้ารหัสโดยอุปกรณ์ Apple ที่บ้าน ก่อนจะได้รับการจัดเก็บอย่างปลอดภัยใน iCloud