Apple เปิดตัวโครงการ Today at Apple Creative Studios Bangkok ชวนเด็กรุ่นใหม่ เรียนรู้การเขียนเพลง ทำเพลง ดนตรี จนไปยังการผลิต MV สร้างแรงบันดาลใจและมอบโอกาสแก่ครีเอทีฟรุ่นใหม่

มูลนิธิโรงเรียนวันเสาร์ คือใคร?

คุณยีราฟ หรือคุณสรวิศ ไพบูลย์รัตนากร ทองว่าปัญหาต่างๆในสังคมสามารถแก้ได้ด้วยการให้การศึกษากับเด็กๆ   จึงเริ่มเป็นครูสอนเลขในโรงเรียน กทม. ระดับชุมชนที่พื้นฐานฐานะยากจน ไปสอนเลขเด็กม.ต้น แม้พยายามสอนเด็กคณิตศาสตร์แต่มีข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ฐานะครอบครัว, การเลี้ยงดู จนไปถึงระบบการเรียนการสอนในโรงเรียนที่จำกัดศักยภาพเด็กมาก ทั้งที่เด็กน่าจะไปได้มากกว่านี้


เพราะพื้นที่เรียนรู้นั้นไม่เหมาะกับเด็กเท่าไหร่นัก จึงเริ่มทำกิจกรรม รร.วันเสาร์ (Saturday School) โดยเชื่อว่าเด็กเมื่อได้เรียนสิ่งที่ตัวเองสนใจเช่นศิลปะ เต้น ร้องเพลง เขียนโปรแกรม กีฬา ทำให้เด็กรู้ว่าชอบอะไร เลือกเรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียน คงดี

ในสังคมไทย มีคนเก่งที่อยากช่วยเหลือเด็ก จึงริเริ่มแนวทางอาสาสมัครช่วยเด็กขาดโอกาส ซึ่งทำมาต่อเนื่องปีที่ 7 มี 10 รร.ในกทม.และขยายไปภูเก็ตแล้วด้วย

Today at Apple Creative Studios Bangkok

โครงการ Creative Studios ช่วยเสริมสร้างทักษะหลายด้านเรื่องครีเอทีฟ นอกเนือจากหลักวิชาการ การปลดปล่อยศักยภาพเด็กคือการได้เรียนรู้ในสิ่งที่ตัวเองเรียน ปลดปล่อยความรู้สึกนึกคิดโดยไม่ตัดสินเค้า ความคิดสร้าง, ศิลปะ หรือเพลงเป็นสิ่งที่ทำให้ ศักยภาพถูกปลดปล่อยอย่างดี ทุกอย่างคือ ศิลปะที่ไม่ได้บอกว่าอะไรสวยกว่ากัน

การใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำให้แต่ละคนมีการพัฒนาความเชื่อมั่นในตนเอง  (self-esteem / self confident) มากขึ้น เพราะในห้องเรียนถูกตัดสินตลอดเวลา คิดเลขผิดทำข้อสอบผิด ทำให้คุณค่าตัวเองต่ำ ไม่ใข่แค่การพัฒนาตัวเองระหว่างเรียนกับเรา แต่ที่บ้านเด็กเหล่านี้ก็เอาไปซ้อม ไปเรียนรู้เพิ่มด้วยตัวเอง ทำให้ได้ทักษะ life-long learning ติดตัวไปด้วย

ปัญหาจากการเรียนออนไลน์คือ สุขภาพจิต (mental-health) เพราะเด็กจะเครียดที่ต้องนั่งหน้าจอตลอดเวลา พวกครีเอทีฟโปรแกรม จะทำให้ปลดปล่อยพลังงานด้านสร้างสรรค์เพื่อพัฒนาจิตใจ จากการสร้างสรรค์ผลงานทางศิลปะ เด็กในโครงการโชคดีมาก เพราะมีโอกาสได้เจอศิลปินตัวจริงในวงการด้วย ปูทางสู่การสร้างอาชีพ สร้างรายได้ในอนาคต ทั้งตัวเองและครอบครัวมีโอกาสรอดจากวิกฤตได้ด้วย

“การศึกษาที่ไม่ใช่วิชาการ การเชื่อมั่นตัวเอง คิดสร้างสรรค์ ก็เป็นหลักที่ต้องพัฒนา”

คุณพอล สิริสันต์ ผู้บริหารค่าย Universal Music (Thailand)  หนึ่งในเมนเทอร์ในโครงการนี้ ที่เป็นเสาหลักโครงการ ได้แชร์ว่า อยากมอบให้เด็กไทย เยาวชนไทย เพราะมองจากธุรกิจไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเด็กๆเหล่านี้ ไม่ได้ต้องการให้เด็กคิดหรือตั้งเป้าอยากเป็นศิลปินจากโครงการนี้ เพราะนั่นคือ 1 ในล้านคน ต้องทำยังไงเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ให้เค้าอยากทำงานในอุตสาหกรรมบันเทิง  ไม่ต้องเป็นศิลปิน เขียนเพลงได้หรือเต้นดีเท่านั้น

ซึ่งคุณพอลได้เห็นคุณค่าของการฝึกงานในค่ายเพลงตอนตั้งแต่อายุ 13-14 ปี ได้เก็บของในโกดังหรือถือกีต้าร์ให้ศิลปินก่อนเล่นคอนเสิร์ต มันก็เป็นประสบการณ์ที่มากับตัวเราว่าถ้าเราขวนขวายก็อาจจะกลับมาที่ธุรกิจเพลงได้ คิดกันเยอะมากว่าจะทำอย่างไรให้การเรียนรู้ ครบทุกด้าน ได้ทำครบทุกส่วนของการทำค่ายเพลงจริงๆ ตั้งแต่ศูนย์จนถึงการออกเอมวีเพลง เด็กอาจพบตัวเองว่าชอบตรงจุดไหน เช่น การทำพีอาร์ หรือ การผลิตเพลง

วงการเพลงตั้งแต่ต้นปี 2000 ธุรกิจเพลงหดตัวลงมากเพราะเทปผี ซีดีเถื่อนไฟล์ mp3 ยันปี 2018 จำนวนบุคลากรลดลงอย่างน่าใจหายทำให้ได้เด็กไม่มีประสบการณ์ทางตรง ทางอ้อม ในวงการนี้ เพราะงั้นการปูพื้นในเด็กเข้ามามีคุณค่าในวงการเพลงต้องทำยังไง โดยใช้เวลานานมากทั้ง Apple และทุกคน เมนเทอร์ เพื่อให้หลักสูตรนี้ สำเร็จ ครบถ้วน

คุณบูม (บรกรณ์ หลงสวาสดิ์) หัวหน้าฝ่ายสร้างสรรค์ Cat Radio เริ่มต้นจากการชอบฟังเพลง เพราะมีแค่ศิลปิน คนฟังเพลง ยุคที่มีเทปโดยไม่รู้เลยว่ามีอีกหลายอาชีพในวงการนี้ หลังจากทำงานเห็นศักยภาพเด็กม.ปลายที่ส่งเพลงเข้ามาอย่าง เดอะทอยส์ที่ประสบความสำเร็จได้ ในยุคนี้ ทำได้มากกว่า ยุคที่เราเด็ก ถ้าน้องๆมีทั้งพรสวรรค์ มีความสนใจและได้เรียนด้วย ก็คิดว่า จะสำเร็จ เร็วขึ้นโดยไปชวน พี่บอย ตรัย , พี่นภ พรชำนิ , พี่เล็ก Greasy Cafe ที่ชอบเขี่ยนเพลงเกี่ยวกับชีวิต มีความดาร์คคนละแนว , คุณ เจ มณฑล เบื้องหลังศิลปินทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาสอนสร้างแรงบันดาลใจในชั้นเรียน


รวมถึงดึงคุณอมราพร แผ่นดินทอง จาก GDH มาสอนเรื่องการทำเอมวียังไงในพลอตเรื่องน่าสนใจทุกวันนี้ยังอยากรู้ว่าเพลง มันต้องเขียนอย่างไรให้ถูกต้อง ครบรอบด้าน ถ้ามีโอกาส อยากเรียนเองครบทุกคลาสเลยด้วยซ้ำ

“การสร้างแรงบันดาลใจ โดยบุคคลระดับมืออาชีพที่น้องๆ ตื่นเต้นมาพูด อธิบายกระบวนการจริงของการทำงาน ได้เจอตัวจริงและพูดคุยกับตัวจริง”

เป็นครั้งแรก ที่เป็นโครงการใหม่ เพื่อตั้งเป้าเยาวชน 15-18 ปี โดยเลือกจาก 40 คน เบื้องต้นกระจายข่าวให้รร.ในเครือพันธมิตร ที่เป็นเด็กที่มีการปูพื้นฐาน มาตั้งแต่ม.ต้น พอมาม.ปลายก็จะเป็นนักเรียนที่พัฒนามาบ้างแล้ว มีการส่งใบสมัครมา ให้เด็กอธิบายตัวตน ความคิดความสามารถ

เบื้องต้นเป็นเครือข่ายเด็กที่เรากำลังต้องการค้นหาอยู่ ไม่เน้นเด็กมีฐานะ เริ่มจากพาร์ทเนอร์ก่อนอันดับแรก แนวคิดเหมือนกันทั้งโลก จึงอยากให้โอกาสกับ “คนที่ไม่ค่อยได้รับโอกาส” คือ รร.รัฐในกทม.และปริมณฑล เพื่อ”ขยายโอกาส”(ม.3-ม.6) เรียกว่า เด็ก”ไม่ค่อยได้รับโอกาส”ที่มี ฐานะครอบครัวค่อนข้างยากจน เมื่อปรับรูปแบบมาจัดในช่องทางออนไลน์ การทำเวิร์คช้อป คือ Apple สนับสนุน “iPad” “ปากกา Apple Pencil” “หูฟัง” และสนับสนุนแอปที่จำเป็นในการเรียนรู้ เช่น iMovie , Garageband เป็นต้น

คุณยีราฟแชร์ว่า “น้องๆแต่ละคนจะได้ค้นหาตัวเองในอุตสาหกรรมเพลงได้มากขึ้นและมีสิทธิเลือกว่า อยากจะไปต่อในจุดไหน เช่น นักสร้างพอตแคสท์ นักแต่งเพลง นักตัดต่อ”

คุณบูมแชร์ว่า “น้องทั้งหมด ชอบดนตรีแน่นอน แต่เสริมการสอนงานเบื้องหลังทุกอย่าง เพื่อในอนาคตจะได้ทราบว่าน้องถนัดอะไร”

แนวทางการวัดผล อยากให้มีการนำเสนอผลงานที่น้องๆได้ผลิตออกมา พร้อมได้ sharing มีการเฉลิมฉลองโครงการน้องๆ เป็นรอบ public ในการบ่มเพาะ 14 สัปดาห์

เริ่มปฐมนิเทศแล้วเมื่อวันที่ 10 กค.ที่ผ่านมา ซึ่งแต่ละสัปดาห์จะสามารถเข้าไปฟังได้ ทุกสัปดาห์ ตั้งแต่ 10.30-14.30 โดยมีเวลาหนึ่งชั่วโมง ครึ่งต่อหนึ่งศิลปิน มีครบทั้งสี่ด้านของการทำเพลง เช่น ทำเพลงแต่งเพลง , การทำบีท ซาวด์ ,โปรดักชั่น และกราฟฟิค.ดีไซน์

Deirdre O’Brien

 

ทาง Deirdre O’Brien รองประธานอาวุโสฝ่าย Retail + People ของ Apple ได้ให้สัมภาษณ์และตอบคำถามเกี่ยวกับโครงการนี้ไว้อย่างน่าสนใจค่ะ

Apple Retail มีการจัดการในช่วงสถานการณ์โควิดอย่างไร ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือบทเรียนรึไม่?
“ในสถานการณ์โรคระบาด เราทำงานอย่างหนักเพื่อหาวิธีให้เราได้พบกับลูกค้าทุกเวลาที่พวกเขาต้องการ คุณจะได้เห็นการผสมผสานการเรียนออนไลน์และในร้านเข้าด้วยกันเพื่อสร้างประสบการณ์ไร้รอยต่อ  ยกตัวอย่างเช่น Apple Pickup ที่ลุกค้าสั่งสินค้าผ่านออนไลน์แล้วเลือกมารับด้วยตัวเองในสาขาที่ต้องการได้ หรือแชทคุยกับทีมผู้เชี่ยวชาญจากที่บ้านได้ ไม่ว่าจะใช้บริการที่ Apple Iconsiam, Apple Central World หรือ Apple.com ก็จะได้ประสบการณ์และการสนับสนุนจากทีมของ Apple อย่างคาดไม่ถึง
อะไรคือเหตุผลและเป้าหมายของการเปิดตัวโครงการ Today at Apple Creative Studios? โปรแกรมนี้สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ Apple retail หรือไม่?
“การเปิดตัว Today at Apple Creative Studios Bangkok ทาง Apple ต้องการแสดงความมุ่งมั่นในการสร้างโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ที่ไม่ค่อยได้รับโอกาสอย่างเพียงพอ เรายินดีที่จะทำสิ่งนี้เพื่อสนับสนุนชุมชนที่ร้านของเราตั้งอยู่ผ่านการทำลายกำแพงและสร้างความสำเร็จด้วยตนเอง
Creative Studios จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับศิลปินรุ่นใหม่ ด้วยศิลปินตัวจริงและเมนทอร์ที่มาช่วยผลักดันโครงการนี้ ช่วยฝึกฝน, ถ่ายทอดประสบการณ์และเข้าถึงเทคโนโลยีและทรัพยกรด้านความคิดสร้างสรรค์ได้
อะไรคือปัจจัยสำคัญในการเลือกเมืองที่เข้าร่วมโครงการนี้? ทำไมกรุงเทพฯถึงถูกเลือกเป็นอันดับแรกๆ?
“ความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นหัวใจของวัฒนธรรมไทย เราหลงใหลในการเชื่อมต่อความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีเพื่อให้ไอเดียที่ดีที่สุดเกิดขึ้นจริง โครงการ Today at Apple ได้รับความนิยมอย่างมากในกรุงเทพฯ เรารู้สึกตื่นเต้นในการเปิดตัวโครงการใหม่ที่สนับสนุนและสร้างแรงบันดาลใจให้กับนักสร้างสรรค์รุ่นเยาว์ ผ่านเซสชั่นออนไลน์ของ Today at Apple Creative Studios เราทำงานร่วมกับองค์กรไม่แสวงหากำไรในท้องที่ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักถึงศักยภาพของตนเอง”