iFixit เผย Face ID บน iPhone 13 จะไม่ทำงาน หากเปลี่ยนจอกับร้านนอก ที่ไม่ใช่ศูนย์หรือตัวแทนอย่างเป็นทางการจาก Apple

เป็นธรรมเนียมของทุกปีที่เมื่อ iPhone ออกรุ่นใหม่ทาง iFixit มักจะเอาเครื่องมาชำแหละให้คะแนนความยากง่ายในการซ่อม โดยก่อนจะแกะเขาได้ทำการ X-rays ให้เห็นภาพรวมของชิ้นส่วนภายในของ iPhone 13 Pro

ทาง iFixit บอกว่าเซ็นเซอร์ที่อยู่ด้านบนของตัวเครื่องค่อนข้างบอบบาง เสี่ยงต่อการเสียหายระหว่างซ่อมได้  ส่วนของ flood illuminator และ dot projector นั้นจะรวมเป็นโมดูลเดียวทำให้ขนาดของรอยบากบนหน้าจอลดลงไป 20%  ส่วนลำโพงหูฟังนั้นจะย้ายตำแหน่งไปอยู่ระหว่างกล้องหน้าและโมดูลของ Face ID แทน

ในส่วนของ Face ID นั้นตัวโมดูลนั้นจะยึดติดกับหน้าจอเลยค่ะ นั่นหมายความว่าถ้าหากมีการเปลี่ยนหน้าจอ Face ID กับร้านตู้หรือร้านที่ไม่ใช่ตัวแทนอย่างเป็นทางการของ Apple ตัวชิ้นส่วนของ Face ID ก็จะไม่สามารถทำงานได้ ดังนั้นใครที่จอแตกแนะนำให้เข้าศูนย์อย่างเดียวหากต้องการเปลี่ยนจอ

ส่วนแบตเตอรี่นั้น ‌iPhone 13 Pro‌ จะให้มา 3,095mAh เพิ่มขึ้นจาก iPhone 12 Pro ที่มีความจุ 2,815mAh in the ‌iPhone 12‌ Pro ซึ่ง ‌iPhone 13 Pro‌ ปีนี้จะใช้แบตเตอรี่รูปตัว L ทาง iFixit รายงานว่าการเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นสามารถทำได้ หลังจากที่มีข่าวลือว่าไม่ไอโฟนรุ่นใหม่เปลี่ยนแบตเตอรี่ได้ยาก

มาดูเรื่องของ RAM กันบ้าง iPhone 13 Pro‌ ใช้ LPDDR4X ของ SK Hynix ความจุ 6GB มาพร้อมชิป U1 และโมเด็ม SDX60M ของ Qualcomm ซึ่งทาง iFixit ไม่พบว่าจะมีความสามาถในการเชื่อมต่อกับดาวเทียมตามข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้ ฝั่งขอ Bloomberg รายงานว่าฟีเจอร์นั้นยังไม่มาจนกว่าจะถึงปี 2022

จากการทดสอบชำแหละไอโฟนครั้งนี้ทาง iFixit ได้ให้คะแนนของ ‌iPhone 13 Pro‌ ในแง่ของความง่ายในการซ่อมอยู่ที่ 5 เต็ม 10 ซึ่งความยากในการซ่อมอยู่ที่การเปลี่ยนหน้าจอ, กระจกสองชั้นและการกั้นน้ำนั่นเอง

ที่มา MacRumors