ฟีเจอร์ใหม่ AirPlay to Mac ช่วยให้ผู้ใช้งาน Apple ใช้งานได้อย่างไร้รอยต่อระหว่างอุปกรณ์มากขึ้น ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้ iPhone, iPad เล่นเนื้อหาทั้งภาพ วีดีโอ หรือเสียง ไปยังเครื่อง Mac ของเรา ทำให้ดูเนื้อหาได้ในจอที่ใหญ่ขึ้น แถมระบบเสียงที่ดีขึ้นใน Mac โดยใช้การเข้ารหัสของ Apple เองอย่าง AirPlay

1. ต้องใช้ macOS Monterey

ฟีเจอร์ AirPlay to Mac จะรองรับการใช้งานแค่ใน macOS Monterey เท่านั้นนะ ซึ่ง Apple ก็บอกมาเลยว่าไม่ใช่ Mac ทุกรุ่น รุ่นไหนใช้ได้บ้าง?

  • MacBook Pro ปี 2018 และรุ่นใหม่กว่า
  • MacBook Air ปี 2018 และรุ่นใหม่กว่า
  • iMac ปี 2019 และรุ่นใหม่กว่า
  • iMac Pro ปี 2017
  • Mac Pro ปี 2019
  • Mac mini ปี 2020

สำหรับการแชร์ได้อย่างเต็มที่จะต้องใช้มือถือ iPhone ต้องเป็นรุ่น 7 ขึ้นไป และ iPad ต้องเป็นรุ่นที่ 6 ขึ้นไป และไม่จำเป็นต้องใช้ iOS 15 ก็ใช้งานได้ค่ะ

2. แตะไอคอน AirPlay ในแอป แล้วเลือก MacBook

ตัวอย่างการ AirPlay to Mac ผ่าน Apple Music: เปิดแอป > แตะไอคอน AirPlay > เลือก Mac เครื่องปลายทางจะใช้เล่นเพลง

2 ขั้นตอนเท่านั้นก็สามารถใช้งาน AirPlay to Mac ได้แล้วค่ะ แต่ต้องดูว่าแอปนั้นรองรับด้วยหรือไม่

หรือถ้าฝั่งของแอป YouTube ก็คลิกที่ ปุ่ม Airplay ด้านบนแล้วเลือก MacBook ได้เลย

การตั้งค่าเพิ่มเติม

ค่าเริ่มต้นของ AirPlay to Mac นั้นจะต้องเป็นเครื่องของผู้ใช้ Apple ID เดียวกัน แต่ถ้าอยากตั้งค่าให้ผู้ใช้คนอื่นสามารถใช้ AirPlay to Mac มายังเครื่อง Mac ของเราต้องไปตั้งค่าเพิ่ม

บน Mac ให้ไปที่การตั้งค่า > การแชร์

เลือกการอนุญาตตามความต้องการได้ 3 แบบ

  1. Current User :  ผู้ใช้เครื่องปัจจุบัน ซึ่ง iPhone, iPad, Mac ต้องใช้ Apple ID เดียวกัน
  2. Anyone on the same network : อนุญาตผู้ใช้ที่เชื่อมต่อ Wi-Fi เครือข่ายเดียวกัน
  3. Everyone: ผู้ใช้ Apple ID ใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อ Wi-Fi เครือข่ายเดียวกัน

หรือสำหรับใครไม่ต้องการใช้ AirPlay ปิดได้โดยนำลูกศรออกในช่อง AirPlay Receiver ค่ะ

ตัวอย่างการเชื่อมต่อ 3 จอ

ถ้า Notebook ของเราเชื่อมต่อจอภายนอกอยู่แล้ว นั้นจะสามารถใช้หน้าจอได้สูงสุดถึง 3 หน้าจอ โดย Mac และจอ เล่นคอนเท้นต์ที่เปิด ส่วนมือถือนำไปแชทหรือทำอย่างอื่นได้ขณะที่ AirPlay