หลังจากที่ Apple เผชิญแรงกดดันจากสหภาพยุโรป ในการเปลี่ยนพอร์ตให้เป็น USB-C มาตรฐานเดียวกัน ล่าสุดทาง Apple ได้เริ่มเปลี่ยนผ่าน USB-C ประเดิม AirPods Pro 2 ที่จะเปิดตัวในปีนี้ ตามด้วย iPhone 15 ในปีหน้า
AirPods Pro 2
ทาง 52audio ได้ปล่อยข้อมูลและภาพหลุดของ AirPods Pro 2 ที่คาดว่าจะเปิดตัวในไตรมาสที่ 3 หรือ 4 ของปีนี้ โดยจะเปลี่ยนจากพอร์ต Lightning มาเป็น USB-C ซึ่งนักวิเคราะห์หลายคนมองว่านี่เป็นจุดสิ้นสุดของพอร์ต Lightning ที่ใช้มาอย่างยาวนาน แต่ที่น่าสนใจก็คือหูฟังไร้สายรุ่นนี้จะมีการอัปเกรดหลายๆด้าน ดังนี้
- ชิป H1 จะใช้ System-in-Package (SiP) ใหม่ รองรับ adaptive active noise cancellation, EQ, Spatial Audio และ audio sharing
- เคสใหม่มาพร้อมพอร์ต USB-C ชาร์จได้เร็วขึ้น รวมถึงมีลำโพงในตัว คาดว่าจะส่งเสียงเพื่อหาพิกัดกับแอป Find My
- สอดส่องอุณหภูมิ (ยังไม่มีการยืนยัน)
- ปรับปรุง Find My ให้ทำงานดีขึ้น
- ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจ
- โหมดช่วยฟังสำหรับผู้ที่มีปัญหาทางการได้ยิน
แน่นอนว่า AirPods Pro 2 จะให้ประสบการณ์เสียงที่ดีขึ้น ทั้งเรื่องของคุณภาพและ ANC ส่วนข่าวลือเรื่องรุ่นนี้จะมีไม่มีก้านหูฟัง ก็ไม่ต้องห่วงแล้วค่ะ เพราะก้านยังคงอยู่เหมือนเดิม ซึ่งหลายคนก็ยังชอบกดสั่งงาน รวมถึงทำให้ไมค์รับเสียงไดีดีขึ้นเมื่อเทียบกับแบบไม่มีก้าน นอกจากนั้นทาง Apple ก็วางแผนที่เพิ่มฟีเจอร์ด้านสุขภาพและฟีเจอร์สำหรับผู้พิการให้มากขึ้น
iPad เจน 10
ผลิตภัณฑ์ต่อมาที่จะเปลี่ยนเป็น USB-C คือ iPad เจน 10 แท็บเล็ตราคาประหยัด ซึ่งจะยังคงมาในดีไซน์เดิม แต่อัปเกรดสเปกให้ทำงานได้ดีขึ้น ด้วยชิป A14 และรุ่น Cellular จะรองรับการเชื่อมต่อ 5G
iPhone 15
คิวต่อมาคือ “iPhone 15” ที่จะเปลี่ยนมาเป็น USB-C ซึ่งก่อนหน้านี้ทาง Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์ชื่อดังได้รายงานว่า Apple กำลังทดสอบ USB-C กับไอโฟนที่จะออกในปี 2023 หลังจากที่ทางสหภาพยุโรปได้ออกกฎ Common Charger Law นั่นจึงทำให้ iPhone 15 หลีกเลี่ยงการเปลี่ยนแปลงไม่ได้
แล้วถ้าเกิด iPhone 15 เป็นแบบไร้พอร์ตล่ะ? ก็มีความเป็นไปได้เพราะกฎใหม่ของ EU ไม่ได้ครอบคลุมเรื่องนี้ แต่ข้อจำกัดก็คือเทคโนโลยี MagSafe คือ ไม่ได้รองรับการส่งข้อมูล ดังนั้นการใช้ USB-C น่าจะตอบโจทย์มากกว่า ซึ่งเราน่าจะยังไม่เห็นไอโฟนไร้พอร์ตในเร็วๆนี้อย่างแน่นอน ถ้ายังแก้ปัญหานี้ไม่ได้ นอกจากนั้นหากเปลี่ยนมาจริงก็จะเกิดขยะอิเล็กทรอนิกส์อีกมากมายที่เกิดจากสายชาร์จเก่า
สุดท้ายแล้ว USB-C ก็…
USB-C ก็จะเป็นมาตรฐานกลางที่ใช้งานต่อเนื่องไปอีกหลายปี ซึ่งเมื่อ iPhone เปลี่ยนมาใช้ก็จะมีข้อดีหลายอย่าง
- ความเร็วในการชาร์จเพิ่มขึ้น
- ความเร็วในการส่งข้อมูลเพิ่มขึ้น
- คุณภาพเสียงดีขึ้น เมื่อใช้คู่กับ passive/active DAC)
- สายเดียวใช้ได้ทุกอย่าง แม้จะลืมเอาสามยมาก็ยืมเพื่อนได้สบายๆ ไม่ว่าจะใช้ไอโฟนหรือแอนดนรอยด์
ที่มา .phonearena