แม้ตลาดคริปโทจะอยู่ในช่วงขาลง ฝั่งของ NFT เองก็ซื้อขายน้อยลงเช่นกัน แต่เด็กหนุ่มวัย 18 ปีรายนี้กลับทำกำไรได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ด้วยการผลิตฟิกเกอร์ Bored Ape ออกมาขาย ฟันรายได้ไปมากกว่า 24.96 ล้านบาท

เจ้าของไอเดียนี้คือ Ricky da Luz เด็กวัย 18 ปีที่ต่อยอด NFT สู่สิ่งของที่จับต้องได้  ด้วยความที่เขาอยากเป็นนักออกแบบของเล่น จึงได้เริ่มส่งข้อความไปหาผู้ที่ถือครอง Bored Ape NFT บนทวิตเตอร์ ด้วยการผลิตฟิกเกอร์ที่เหมือนกับ NFT ที่ถือครองอยู่แบบฟรีๆ โดยเขาได้ติดต่อผู้ใช้ราวๆ 100 คนแต่มีผู้สนใจแค่ 5 คนเท่านั้น หนึ่งในนั้นก็คือ  @phibacka31 ที่พอได้ของเล่นก็นำมาโพสต์อวดบนทวิตเตอร์จึงทำให้ได้รับความนิยมมากขึ้น

ก่อนหน้านี้ Ricky da Luz  ได้เปิดตัวบริษัท IsmToys ด้วยการใช้เงินเก็บของตัวเองจำนวน 10,000 ดอลลาร์ เพื่อนำมาเป็นเงินทุนในการผลิตตุ๊กตา เพื่อแจกให้ผู้ถือครอง Bored Ape  โดยมีคุณพ่อคอยดูแล เขาและพนักงานอีก 6 คน

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับการว่าจ้างให้ตุ๊กตาตัวแรกในราคา 400 ดอลลาร์หรือประมาณ 14,200 บาท  นับถึงตอนนี้บริษัทของเขามีรายได้จากการผลิตของเล่นมากกว่า  700,000 ดอลลาร์หรือ 24.96 ล้านบาทแล้ว ค่าผลิตฟิกเกอร์แบบไม่ซ้ำใครหนึ่งตัวค่าผลิตเฉลี่ยอยู่ที่  700 ดอลลาร์หรือประมาณ 24,900 บาท ซึ่งทำไปแล้วมากกว่า 300 ตัว ซึ่งเดือนหน้าก็มีออเดอร์เข้ามาแล้วอีกกว่า 200 คำสั่งซื้อ ส่วนของเล่นอื่นๆราคาจะมีตั้งแต่ราคา 50 – 200 ดอลลาร์ ซึ่งการทำธุรกรรมทั้งหมด 99% จ่ายผ่าน ethereum

นอกจากนั้น IsmToys ยังออก NFT ขายไปพร้อมกันเพื่อยืนยันว่าของเล่นที่ซื้อไปเป็นของแท้ ยกตัวอย่างเช่น ซีรีส์  “Golemz” นั้นขายทำรายได้ 300,000 ดอลลาร์ในเวลาแค่ 96 วินาทีเท่านั้น เดือนที่ผ่านมาก็มีการออกชุดหมากรุก Bored Ape พร้อม NFT จำนวน 400 ชุดในราคาชุดละ 400 ดอลลาร์ก็ขายหมดในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ทาง Ricky da Luz ได้ขอบคุณชุมชนของ Bored Ape community ที่ให้การตอบรับเป็นอย่างดี จึงทำให้ IsmToys แจ้งเกิดขึ้นได้

แม้หลายคนคิดว่า metaverse มันเจ๋ง แต่สุดท้ายแล้วเรายังอาศัยอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ที่ยังต้องการของที่จับต้องได้ซึ่งบ่งบอกถึงตัวตยของเรา

ที่มา Business Insider