เปิดตัว Macbook Pro 14 นิ้วและ 16 นิ้ว ดีไซน์ใหม่พร้อมชิปสุดแรง M1 Pro/M1 Max ประหยัดพลังงาน พร้อมหน้าจอแสดงผลที่ดีที่สุดในตลาดตอนนี้
มาตามคาดกับ Macbook Pro 14 นิ้วและ 16 นิ้วปรับดีไซน์ใหม่โดย รุ่น 16 นิ้วจะมีความหนา 16.8 มม. หนัก 4.7 ปอนด์ (2.13 กิโลกรัม) ส่วนรุ่น 14 นิ้วจะหนา 15.5 มม. หนัก 3.5 ปอนด์ (1.58 กิโลกรัม) ออกแบบใหม่ทำให้ถ่ายเทอากาศได้มากขึ้น 50%
ส่วนคีย์บอร์ดก็มีการปรับมาเป็น Magic Keyboard พร้อมไฟแบล็กไลท์ โดยแถวบนสุดจะถอด Touch Bar ออกไป เปลี่ยนมาเป็นปุ่ม Function Key แบบเดิม ส่วนปุ่ม Power ยังฝัง Touch ID สแกนลายนิ้วมือเหมือนเดิม
พอร์ตการเชื่อมต่อจะให้ Thuderbolt 4 มาจำนวน 3 พอร์ต นอกจากนั้นยังมี MagSafe , ช่องเสียบหูฟังแบบ 3.5 มม. พอร์ต HDMI, ช่องเสียบการ์ด SD เรียกว่าทำให้เราไม่ต้องพก Hub ก็เพียงพอต่อการทำงาน แถมยังสามารถต่อจอภายนอกได้พร้อมกันถึง 3 จอมอนิเตอร์และอีก 1 จอทีวี
แล็ปท็อปจอดีที่สุดในโลก
อัตราส่วนคอนทราสต์แบบ 1,000,000:1 สามารถแสดงสีสันได้ถึง 1 พันล้านสี นอกจากคุณภาพการแสดงผลแล้ว ยังมาพรร้อมฟีเจอร์ ProMotion ครั้งแรกบน Mac ด้วยรีเฟรชเรท 120 Hz ให้การแสดงผลที่ไหลลื่นขึ้น
ส่วนของไมโครโฟนให้ระดับสตูดิโอมาถึง 3 ตัว ช่วยลด noise ได้ถึง 60% ทำให้เก็บรายละเอียดครบ บันทึกเสียงแบบคุณภาพ ฝั่งของลำโพงระบบเสียงสุดปังถูกใจ รุ่นจอ 16 นิ้วมาพร้อมระบบเสียงลำโพง 6 ตัว ประกอบด้วยทวีตเตอร์ 2 ตัวเพื่อสร้างมิติเสียงที่ชัดเจนยิ่งขึ้น พร้อมวูฟเฟอร์แบบตัดแรงสั่น 4 ตัวที่เพิ่มเสียงเบสอีก 80% อีกทั้งยังรองรับระบบเสียงตามตำแหน่ง ซึ่งสร้างประสบการณ์การฟังแบบ 3 มิติที่มีความสมจริง ดังนั้นไม่ว่าผู้ใช้จะฟังเพลงหรือดูภาพยนตร์ในแบบ Dolby Atmos
ชิประดับโปร


โน้ตบุ๊ก Mac ที่ทรงพลังที่สุดเท่าที่เคยมีมา
- สร้างโปรเจ็กต์ด้วย Xcode® ได้เร็วขึ้นสูงสุด 3.7 เท่า
- ใส่ปลั๊กอิน Amp Designer ใน Logic Pro® ได้มากขึ้นสูงสุด 3 เท่า
- มีประสิทธิภาพพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณใน NASA TetrUSS เร็วขึ้นสูงสุด 2.8 เท่า
- เรนเดอร์ระดับ 4K ใน Final Cut Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 9.2 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 13.4 เท่าด้วยชิป M1 Max
- มีประสิทธิภาพ GPU ด้านเวคเตอร์และราสเตอร์รวมกันใน Affinity Photo เร็วขึ้นสูงสุด 5.6 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 8.5 เท่าด้วยชิป M1 Max
- เรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ใน Blackmagic Design DaVinci Resolve Studio ได้เร็วขึ้นสูงสุด 3.6 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 5 เท่าด้วยชิป M1 Max
- ประสิทธิภาพการติดตามวัตถุใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 8.7 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 11.5 เท่าด้วยชิป M1 Max
- ทำ Scene Edit Detection กับวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 1080p ใน Adobe Premiere Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 7.2 เท่า
- มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 2.6 เท่าเมื่อเลือกตัวแบบในภาพใน Adobe Photoshop
- มีประสิทธิภาพพลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณใน NASA TetrUSS เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า
- สร้างโปรเจ็กต์ใน Xcode ได้เร็วขึ้นสูงสุด 2.1 เท่า
- ประสิทธิภาพในการเผยแพร่เร็วขึ้นสูงสุด 2.1 เท่าใน Vectorworks
- มีประสิทธิภาพ GPU ด้านเวคเตอร์และราสเตอร์รวมกันใน Affinity Photo เร็วขึ้นสูงสุด 2.9 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 4.5 เท่าด้วยชิป M1 Max
- เรนเดอร์เอฟเฟ็กต์ใน Maxon Cinema 4D พร้อม Redshift ได้เร็วขึ้นสูงสุด 2.5 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 4 เท่าด้วยชิป M1 Max
- เรนเดอร์ระดับ 8K ใน Final Cut Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 1.7 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 2.9 เท่าด้วยชิป M1 Max
- ทำ Scene Edit Detection กับวิดีโอ ProRes 422 ระดับ 1080p ใน Adobe Premiere Pro ได้เร็วขึ้นสูงสุด 4.4 เท่า
- ประสิทธิภาพการติดตามวัตถุใน Final Cut Pro เร็วขึ้นสูงสุด 3.6 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 4.9 เท่าด้วยชิป M1 Max
- มีประสิทธิภาพเร็วขึ้นสูงสุด 1.5 เท่าด้วยชิป M1 Pro และสูงสุด 2 เท่าด้วยชิป M1 Max เมื่อเลือกตัวแบบในภาพใน Adobe Photoshop
ประหยัดพลังงานแถวหน้าของอุตสาหกรรม
- รุ่น 14 นิ้ว เล่นวิดีโอได้นานสูงสุด 17 ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 7 ชั่วโมง ในขณะที่รุ่น 16 นิ้ว เล่นวิดีโอได้นานสูงสุดถึง 21 ชั่วโมง หรือเพิ่มขึ้น 10 ชั่วโมง จึงเรียกได้ว่าเป็นแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้นานที่สุดเท่าที่เคยมีมาบนโน้ตบุ๊ก Mac
- นักพัฒนาที่ทำงานใน Xcode จะสามารถคอมไพล์โค้ดได้มากขึ้นสูงสุด 4 เท่า
- ช่างภาพจะสามารถใช้งาน Adobe Lightroom Classic ขณะเดินทางได้นานขึ้นสูงสุด 2 เท่า

macOS Monterey ปรับแต่งมาอย่างลงตัวสำหรับชิป M1 Pro และ M1 Max
- MacBook Pro รุ่น 14 นิ้วใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 73,900 บาท และ 68,700 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา
- MacBook Pro รุ่น 16 นิ้วใหม่มีราคาเริ่มต้นที่ 89,900 บาท และ 82,900 บาท สำหรับราคาส่งเสริมการศึกษา