ถ้าคุณเป็นเจ้ามือถือแอนดรอยด์ จงรู้ไว้ซะว่าทุกสิ่งที่คุณทำจะถูกบันทึกโดยไม่รู้ตัวต้วยซอฟท์แวร์ที่ซ่อนตัวอยู่ภายใน มันสามารถหลบเลี่ยง web encryption และขโมยได้ทุกอย่างไม่เว้นแต่รหัสผ่านและ Google queries ที่แย่ไปกว่านั้นมีผู้ผลิตมือถือและผู้ให้บริการเครือข่ายบางรายได้ติดตั้งซอฟท์แวร์ตัวนี้ลงไปในมือถือ โดยที่คุณไม่มีทางเอามันออกไปได้เลย

[youtube http://www.youtube.com/watch?v=T17XQI_AYNo&w=640&h=480]

จากคลิปด้านบนที่บันทึกโดย Trevor Eckhart นักพัฒนาแอพบนแอนดรอยด์ได้แสงให้เห็นว่ามันทำงานยังไงและมีมันแล้วแย่ยังไง (ถ้าใครขี้เกียวดูทั้งคลิปก็เลื่อนไปดูตั้งแต่นาทีที่ 9:00 ก็ได้นะ) ซอฟท์แวร์เจ้าสายลับตัวนี้พัฒนาขึ้นโดยบริษัท Carrier IQ

ผู้ผลิตและผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือส่วนใหญ่เห็นด้วยว่า spyware ในมือถือแอนดรอยด์มีอยู่จริง ซึ่งเจ้าซอฟท์แวร์ Carrier IQ ยังแฝงตัวอยู่ใน สมาร์ทโฟน Blackberry และ Nokia ด้วย ซึ่งมันมีแนวโน้มที่จะทำงานแอบเก็บข้อมูลเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามยังไม่มีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่ามันจะก่อปัญหาในสมาร์ทโฟนสองยี่ห้อนั้น แต่ไม่ว่าคุณจะซื้อมือถือแบบติดสัญญากับเครือข่ายหรือไม่ก็ตาม มันก็อยู่ในเครื่องแล้วล่ะ (หลังจากข่าวนี้ออกมาไม่นาน ทางโนเกียก็ออกมาโต้อย่างทันควันว่า โนเกียไม่ได้ใช้ Carrier IQ spyware) หลังจากนั้นก็มีแฮกเกอร์บางคนได้พบร่องรอยของ Carrier IQ ใน iOS ค่ะ แต่ว่ามันไม่ได้ถูกเปิดการใช้งาน ถ้าคุณไม่ได้เปิด diagnostic mode ซึ่งถ้าเปิดการใช้งานมันจะเก็บล็อกข้อมูลเฉพาะ อย่างเช่น สถานะการโทรและพิกัดค่ะ

แล้วมันมีการทำงานยังไง?

Carrier IQ จะถูกติดตั้งในมือถือของคุณในระดับที่ลึกที่สุด โดยคุณก็ไม่รู้ว่ามันติดตั้งอยู่ตรงไหน และไม่มีใครบอกคุณแน่ๆว่ามันมีอยู่ แถมยังเลือกไม่ได้ว่าจะเอาหรือไม่ แถมยังถอนการติดตั้งไม่ได้อีก

นอกจากนี้ spyware ยังคอยดักข้อมูลระหว่างคุณกับแอพพลิเคชั่นด้วย ไม่ว่าแอพนั้นจะมีปลอดภัยหรือมีความส่วนตัวมากแค่ไหนก็ตาม เจ้า spyware จะคอยดักขโมยทุกสิ่งที่คุณทำ ตั้งแต่ตำแหน่งพิกัด ,แอดเดรสของเวปที่คุณเข้า,รหัสผ่าน รวมถึงข้อความใน text message ที่คุณส่งออกไป ถึงจะปิด 3G หรือ 4G หันไปใช้ private Wi-Fi ก็อย่าคิดนะว่าจะรอดไปได้ ไม่มีทางเลยค่ะ โดนอยู่ดี

เมื่อข่าวนี้แพร่กระจายออกไป ทางบริษัท Carrier IQ ก็ออกมาปฎิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมดในแถลงการณ์ public statement (PDF) แต่ในคลิปด้านบนได้สาธิตให้เห็นแล้วว่าคำปฎิเสธนั้นไม่เป็นความจริงค่ะ เพราะ Keystrokes ได้ส่ง unique key codes ไปยัง Carrier IQ หรือแม้แต่ secure connections ก็ยังถูกขโมยเลย ทำให้มันบันทึกและเปิดเผยทุกการกระทำของคุณ นอกจากนี้ spyware ยังเก็บล็อกพิกัดของคุณ แม้ว่าผู้ใช้จะปิดไม่ใช้ฟังก์ชั่นนี้ แต่มันก็ไม่ฟังหรอกค่ะ ยังแอบเก็บข้อมูลอยู่ดี

เราจะทำยังไงเพื่อหลีกเลี่ยงมันได้?

ข่าวร้ายก็คือ เจ้าสายลับที่ซ่อนตัวอยู่นี้มันจะทำงานตลอดเวลา และไม่มีออฟชั่นใดๆเลยที่จะปิดการทำงานของมัน ถ้าคุณไม่ใช่แฮคเกอร์อัจฉริยะสายดำละก้อ หมดหวังค่ะ แม้แต่ Eckhart ที่เป็นนักพัฒนายังบอกว่าเอาออกยากมากเลย

หลายคนคงเริ่มสงสัยแล้วว่าทำไมมันต้องใส่มาและทำให้เอาออกยากที่ด้วยล่ะ? เป็นคำถามที่ดีทีเดียว แต่คนที่จะตอบได้ดีที่สุดก็คือ Carrier IQ นั่นเอง ทางออกของปัญหานี้ต้องอยู่ที่ผู้ผลิตแล้วล่ะ ที่ต้องคำนึงถึงสิทธิและเคารพความเป็นส่วนตัวของลูกค้า พวกเค้าต้องแจ้งข้อมูลที่ชัดแจ้งเหล่านี้กับผู้ที่ซื้อผลิตภัณฑ์ และผู้บริโภคต้องมีสิทธิที่จะเลือกว่าจะติดตั้งหรือถอนออกแบบง่ายๆเพียงคลิ๊กเดียวเมื่อไหร่ก็ได้ที่พวกเค้าต้องการ สิ่งเหล่านี้ทั้ง Carrier IQ, ผู้ผลิตมือถือและผู้ให้บริการเครือข่ายต้องออกมาแก้ไขให้เร็วที่สุดค่ะ

VIA gizmodo