Google และบริษัทอื่นๆได้ล่วงละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ไอโฟน ด้วยการแอบติดตามนิสัยการท่องเว็บ
Wall Street Journal ได้ค้นพบว่ากูเกิลได้ใช้ “special computer code” เพื่อหลอกเว็บบราวเซอร์ Safari ของแอปเปิ้ลที่ติดตั้งระบบป้องกันการติดตามการใช้งาน เพื่อให้เก็บพฤติกรรมการใช้งานเว็บของผู้ใช้ไอโฟนได้
ข้อมูลนี้ได้มาจากการสังเกตของ Jonathan Mayer นักวิจัยจาก Stanford ร่วมด้วยการยืนยันของ Ashkan Soltani ที่ปรึกษาด้านเทคนิคของ WSJ พวกเค้าพบว่าเว็บไซต์ 23 เว็บไซต์จากเว็บไซต์ยอดนิยม 100 เว็บแรกได้ติดตั้งโค้ดนี้บน Safari พวกเค้าเผยแพร่ข้อมูลนี้ออกไปเพื่อหวังให้กูเกิลยกเลิกการใช้โค้ดนี้ นอกจากกูเกิลแล้ว บริษัท Vibrant media, Media Innovation Group และ PointRoll ก็ถูกพบว่าใช้เทคนิคนี้เหมือนกัน
Rachel Whetstone รองประธานอาวุโส แผนก communications and public policy ของกูเกิลได้ออกแถลงการณ์ต่อเรื่องนี้ว่า:
รายงานนี้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง เรารู้ว่า Safari มีฟังก์ชั่นที่อนุญาตให้ผู้ใช้กูเกิลเมื่อทำการ signed-in แล้วใช้ cookie ได้ โดยมันใช้เพื่อเป็น advertising cookies ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้
Safari ไม่เหมือนบราวเซอร์ตัวอื่นโดยมันจะตั้งค่าพื้นฐานให้ปิดกั้น third-party cookies เอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม Safari ก็สามารถเปิดใช้งาน web features ต่างๆได้ รวมถึง third-party cookies ได้ อย่างเช่น ปุ่มกด “Like” ปีที่แล้วเราได้เริ่มใช้ฟังก์ชั่นนี้เพื่อให้ผู้ใช้กูเกิลที่ทำการ signed-in บน Safari ได้เห็นโฆษณาเฉพาะบุคคลและสามารถใช้งาน “+1” กับสิ่งที่ผู้ใช้สนใจได้
ในการเปิดใช้งานฟีเจอร์เหล่านี้ เราได้สร้าง temporary communication link ระหว่าง Safari และ Google servers เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ใช้ Safari สามารถลงชื่อเข้าใช้งานกูเกิล และเห็นโฆษณาเฉพาะบุคคลได้ เราออกแบบให้ข้อมูลที่ถูกส่งมาจาก Safari เป็นความลับ ด้วยการสร้างบาเรียที่แบ่งแยกระหว่างข้อมูลการใช้เว็บและข้อมูลส่วนบุคคล
แม้ว่า Safari จะมีัฟังก์ชั่นที่เปิดการใช้งาน Google advertising cookies ได้ แต่เราไม่นึกว่าเรื่องนี้มันจะเกิดขึ้น ตอนนี้เราได้เริ่มทำการลบ advertising cookies พวกนี้จาก Safari แล้ว และมันสำคัญมากที่เราจะบอกว่า advertising cookies เหล่านี้ไม่ได้ถูกใช้เพื่อเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
การจัดการความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ของกูเกิลก็เคยโดนตรวจสอบมาก่อนหน้านี้แล้ว ย้อนกลับไปเมื่อเดือนพฤศจิกายน กูเกิลได้ทำข้อตกลงกับ FTC โดยยอมให้มีการตรวจสอบและทำรายงานส่งทุกหกเดือน ต่อเนื่องเป็นเวลา 20 ปี ส่งผลให้กูเกิลต้องเปลี่ยนนโยบายด้านความเป็นส่วนตัวโดยรวบให้เหลือนโยบายหลักนโยบายเดียวไปเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
VIA mashable