ทุกวันนี้สมาร์ทโฟนสามารถทำสิ่งมหัศจรรย์ได้มากมาย ด้วย CPU ที่เทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์เครื่องย่อมๆ

นอกจากแอพพลิเคชั่นที่หลากหลายแล้วก็ยังมีอุปกรณ์เสริมอีกเพียบ เช่น เซนเซอร์ชนิดต่างๆ, กล้อง, ไมโครโฟน, GPS, accelerometers และไจโรสโคป สิ่งเหล่านี้ทำให้มันใช้งานได้มากกว่าแค่การโทรเข้าโทรออก ทาง Nokia ก็มีความเชื่อว่าสมาร์ทโฟนทำอะไรได้มากกว่าที่เป็นอยู่โดยเฉพาะเมื่อนำมาใช้เกี่ยวกับด้านสุขภาพ ด้วยเหตุนี้ทางบริษัทยักษ์ใหญ่จากฟินแลนด์จึงได้จัดการแข่งขันที่มีชื่อว่า ” Nokia Sensing X CHALLENGE ”  ขึ้นมา การแข่งขันครั้งนี้เป็นการแข่งขันระดับโลกที่มีเงินรางวัลสูงถึง 2.25 ล้านเหรียญ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะกระตุ้นการพัฒนาเซนเซอร์และเทคโนโลยีประสาทสัมผัสที่ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตและขยายการเข้าถึงบริการเกี่ยวกับสุขภาพในรูปแบบที่หลากหลายทั่วโลก

ด้วยความไม่มีประสิทธิภาพและค่าใช้จ่ายของระบบสุขภาพทั้งในอเมริกาและทั่วโลกทำให้เกิดปัญหาด้านสังคมและการเมืองตามมา อย่างในอเมริกาเองก็มีค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพต่อปีสูงกว่า 2 ล้านล้านเหรียญต่อปี ซึ่งคิดเป็น 15% ของ GDP และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นทุกปี หากมีผู้คนมีเซนเซอร์และ sensing solutions ที่มีศักยภาพเพียงพอ มันก็จะช่วยขยายบริการด้านสุขภาพให้เพิ่มขึ้นและง่ายขึ้นในราคาที่ถูกลง

ผู้ที่สนใจจะต้องสมัครเป็นทีม หลังจากนั้นต้องทำการส่งระบบ, อุปกรณ์หรือชิ้นส่วนที่สามารถตรวจจับ physical value และทำการบันทึกหรือตีความมันได้ (physical values อาจจะเป็น biofluid ,ตัวอย่างเนื้อเยื่อ, โครงสร้างของร่างกาย, สภาพแวดล้อมภายนอกของคนไข้, การเคลื่อนไหวของร่างกาย, อารมณ์/ความรู้สึก, และลักษณะทางกายภาพของร่างกาย (หัวข้อนี้รวมถึงสัญญาณชีพ อย่างอัตราการเต้นของหัวใจ, ความดันเลือดและอัตราการหายใจ)

ถ้าหากคุณอยากใช้อุปกรณ์ตัวใหม่ล่าสุดที่เพิ่งวางตลาดก็สามารถนำมาใช้ได้ แต่การเก็บข้อมูลต่างๆต้องใช้ซอฟท์แวร์ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เท่านั้น ในกรณีที่อุปกรณ์ที่ใช้เก็บข้อมูลที่มีลักษณะเฉพาะจริงๆก็อนุญาตให้ใช้ซอฟท์แวร์ที่มีอยู่ในปัจจุบันได้ค่ะ โดยคณะกรรมการจะตัดสินโดยมีเกณฑ์ต่างๆดังต่อไปนี้

  • ความน่าเชื่อถือ – อุปกรณ์จะต้องวัดข้อมูลได้ถูกต้องแม่นยำ
  • ใช้งานได้จริง
  • ตรงประเด็น – อุปกรณ์จะต้องมีประโยชน์ในการวัดข้อมูลหรือเชื้อโรคที่สำคัญ
  • ความเป็นออริจินัล – อุปกรณ์จะต้องมีความใหม่หรือมีความคิดสร้างสรรรค์ใหม่ๆ
  • การทำงานร่วมกัน – อุปกรณ์จะต้องทำงานร่วมกับซอฟท์แวร์,ฮาร์ดแวร์หรือระบบอื่นๆได้
  • ราคาที่จับจ่ายได้ – อุปกรณ์จะต้องมีราคาไม่แพงเพื่อให้คนเข้าถึงได้

Sensing X CHALLENGE จะแบ่งการแข่งขันเป็น 3 การแข่งขันแยกกันเด็ดขาดตามประเภทของเทคโนโลยี การแข่งขันนี้จะใช้เวลาดำเนินการทั้งหมด 3 ปี ผู้ชนะจะได้เงินรางวัล 2.25 ล้านเหรียญไปแบ่งกัน

VIA Gizmag