หลังจากที่ Galaxy Note 3 ได้เริ่มวางจำหน่ายไปในหลายประเทศแล้ว หลายๆคนก็เริ่มตั้งข้อสงสัยและสืบสวนว่าจะมีการเร่งประสิทธิภาพเครื่องเมื่อเช็คด้วยโปรแกรม benchmark เพื่อให้ผลออกมาดูดี

ทางเว็บ Ars Technica ได้รายงานว่า Note 3 รุ่นที่ใช้ชิพ Quad-Core เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม benchmark ชื่อดังหลายๆโปรแกรม จะเปิดการทำงานทั้ง 4 คอร์แบบเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งเค้ายังพบอีกว่าไม่ใช่แค่เครื่องของค่ายซัมซุงเท่านั้น

ส่วนเว็บ Slashgear ได้ทดลองเปิดแอพ System Monitor เพื่อทดสอบมือถืออีกหลายเครื่อง พบว่าทั้ง Galaxy Note 3, HTC One และ LG G2 ต่างก็ทำงานเหมือนกันคือเปิดการทำงานของทั้งสี่คอร์บนชิพให้ทำงานเต็มที่เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม benchmark ทั้งที่เวลาทำงานปกติ เครื่องเหล่านี้จะใช้งานแค่คอร์เดียวหรือสองคอร์เป็นอย่างมาก

 

HTC One ใช้ชิพ Qualcomm Snapdragon 600 แบบ quad-core processor โดยชิพจะทำงานเต็มสปีดเมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม benchmark อย่าง Geekbench 3, Quadrant Standard, Antutu Benchmark และ 3DMark

ทางด้าน Galaxy Note 3 ก็ให้ผลที่คล้ายกัน ชิพ Qualcomm Snapdragon 800 แบบ quad-core ก็ทำงานแบบเต็มสปีดทั้ง 4 คอร์เมื่อทดสอบด้วยโปรแกรม benchmark และ System Monitor ที่โหลดมาทดสอบโดยตรงจาก Play Store

ในด้านของ LG G2 ก็มีความแตกต่างกันเล็กน้อย โดยปกติแล้ว LG G2 จะทำงานด้วยซีพียู 2 คอร์ด้วยพลังงานต่ำ ในขณะที่โปรแกรม benchmark 4 ตัวที่นำมาทดสอบพบว่ามีสองโปรแกรมเห็นว่า LG G2 เร่งการทำงานเป็น 4 คอร์ ส่วน 3DMark และ Geekbench 3 ดูเห็นประสิทธิภาพ LG G2 ผ่อนคลายไปตามการทดสอบ

นอกจากนี้ Ars Technica ยังพบ โค้ดบางอย่างใน Galaxy Note 3 ที่มีชื่อไฟล์ว่า “DVFSHelper.java” ซึ่งทำหน้าที่เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานบนโปรแกรมวัด benchmark โดยเฉพาะ ซึ่งไฟล์นี้จะโชว์ชื่อ benchmarks อย่าง CFBench, Nenamark2, Quadrant, Linpack, และ Geekbench 2 จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่จะพบไฟล์เดียวกันนี้ในสมาร์ทโฟนหลายๆรุ่นที่วางขายในตลาด

ตอนนี้หลายๆฝ่ายก็ยังสืบสวนต่อไปว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมค่ายมือถือต่างๆต้องบู้ตประสิทธิภาพเครื่องให้ทำงานสูงสุด เมื่อวัดผลด้วยโปรแกรม benchmarking ทำไมถึงไม่ปล่อยให้เครื่องทำงานและวัดค่าตามความเป็นจริงเพื่อให้ผู้บริโภคตัดสินใจตามข้อมูลที่ถูกต้องความเป็นจริง

VIA Slashgear