และแล้ว Amazon เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ก็ใกล้คลอดมือถือสมาร์ทโฟนของตัวเองแล้ว แต่พอซีได้อ่านรายงานจาก WSJ ที่บอกว่า Amazon กำลังทำมือถือ 3D ที่ไม่มีใครที่ไหนต้องการ  ทำให้สงสัยว่า มันขนาดนั้นเชียวหรือ?

งานนี้ก็เลยต้องเสาะหาข้อมูลกันหน่อยว่า  ความจริงแล้ว มือถือ 3D ของ Amazon คืออะไรกันแน่ และมันแย่เกินทนอย่างที่สื่อยักษ์ใหญ่อย่าง WSJ บ่นไว้จริง หรือเปล่า? ล่าสุดเว็บไซต์ TechCrunch ได้เปิดเผยข้อมูลเกียวกับเทคโนโลยี 3D ที่ซ่อนอยู่ในมือถือของ Amazon ซึ่งปรากฎว่า มันไม่ใช่มือถือ 3D ที่คิดกันไปเองว่ามันต้องใช้หน้าจอที่ทำให้เป็นภาพทะลุมิติออกมา แต่สิ่งที่ Amazon ทำก็คือ การติดตั้งกล้องหน้าบนมือถือรุ่นนี้ 4 ตัวไว้บริเวณมุมเครื่อง โดยกล้องเหล่านี้จะสามารถตามติดสายตา (เรติน่าของผู้ใช้) และการเคลื่อนไหวของศรีษะ เพื่อนำไปใช้สร้างภาพบนหน้าจอให้ดูเหมือนมิติ (ตื้น ลึก หนา บาง) ขึ้นมา อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวทั้งสองแสดงความเห็นไปในทางเดียวกันว่า เอฟเฟกต์ 3D ที่ได้จากเทคนิคนี้จะไม่หวือหวาน่าทึ่งมากนัก แต่ก็ไม่ต้องไปกังวลแทน Amazon เพราะมือถือ 3D ที่เป็นข่าวตอนนี้ ทั้งหมดยังอยู่ในขั้นของการทดลอง ซึ่งของจริงอาจจะมีอะไรเซอร์ไพรส์กว่า

นอกจากนี้ TechCrunch ยังระบุว่า ไม่เพียงแต่มือถือ 3D ของ Amazon จะแสดงเอฟเฟกต์จอสามมิติที่ไม่ทำให้ปวดตาเท่านั้น แต่มันยังมาพร้อมกับคุณสมบัติรู้จำภาพ (image recognition) ซึ่งนั่นหมายความว่า เมื่อผู้ใช้ถ่ายภาพสิ่งของต่างๆ ภาพดังกล่าวจะถูกนำไปเปรียบเทียบกับภาพสินค้าที่มีอยู่ในเว็บไซต์ของ Amazon ซึ่งหากพบสินค้าที่มีลักษณะเหมือนในภาพก็จะแสดงรายการสินค้า เพื่อให้เจ้าของมือถือสามารถสั่งซื้อสินค้านั้นได้ทันที ฟังดูไฮเทคดีนะคะ แถมยังเป็นการย่นย่อเวลาให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าของ Amazon ผ่านรูปถ่ายสิ่งของที่สนใจ ซึ่งการเชื่อมโยงอารมณ์ของผู้บริโภคทีสนใจสิ่งของที่อยู่ในภาพเข้ากับการสั่งซื้อสินค้านั้นได้ทันที ทำให้ผู้บริโภคไม่ต้องจำว่า อยากได้สินค้าชิ้นนั้น แถมยังสั่งซื้อผ่านมือถือ Amazon ได้ทันทีอีกด้วย งานนี้จึงดูเหมือนเป็นการจับแอมะซอนใส่มือถือไปกับผู้ใช้เลยนะคะ แต่จะว่าไปมันก็น่าสนใจไม่น้อยสำหรับนักชอปในยุคโมบาย แถมยังทำให้เหตุผลของการทำมือถือของ Amazon มีน้ำหนักมากขึ้นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ทางบริษัทคาดว่าจะยังไม่ออกมือถือภายในปีนี้อย่างแน่นอน ดังนั้น เมื่อถึงปีหน้า ฟีเจอร์ของมือถือจากเว็บไซต์ค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายนี้ อาจจะไปไกลมากกว่า 3D หรือฟีเจอร์ “แชะแล้วช้อป” ก็เป็นได้นะคะ

via TechCrunch