Google Thailand ขยายสำนักงานรองรับผู้ใช้ในไทย พร้อมขยายโครงการใหม่ ตอบโจทย์ผู้ใช้งานทุกลุ่ม เพื่อผลักดันเศรษฐกิจไทยสู่ดิจิทัล 4.0
Google Thailand
หลังจากเปิดดำเนินงานในไทยเป็นเวลากว่า 2 ปี วันนี้ Google Thailand ได้ขยายพื้นที่ไปยังชั้น 16 ของอาคารปาร์คเวนเจอร์ อีโคเพล็กซ์ ซึ่งทำให้พื้นที่ให้ทีมงานของกูเกิล เพื่อรองรับความต้องการให้กับลูกค้าในไทยได้ดียิ่งขึ้น
ในโอกาสพิเศษนี้ทางกูเกิลได้เชิญ ฯพณฯ รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ท่าน ดร.พิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ และ ฯพณฯ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย มร.กลิน ที. เดวีส์ มาร่วมพิธีเปิดสำนังานใหญ่อย่างเป็นทางการ
สำนักงานใหม่ชั้น 16
สำนักงานใหม่บนชั้น 16 นั้นจะทำให้ กูเกิลประเทศไทยมีพื้นที่เพิ่มขึ้น 50% รองรับความต้องการของลูกค้าได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มพื้นที่เพื่อรับกับโครงการใหม่ๆที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
แนวคิดการออกแบบนั้นจะแบ่งเป็นสามส่วนรวมกัน หนึ่ง คือ Mass Trasit ที่นำแนวคิดรถไฟฟ้ามาใช้เป็นคอนเซ็ปท์ในการตกแต่ง ซึ่งส่วนนี้จะเป็นห้องประชุมต่างๆ สองคือ คาเฟ่แบบสบายๆ เพื่อช่วยให้บรรยากาศในการทำงานผ่อนคลาย ทำให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพในการทำงาน สามคือ Park ด้วยการออกแบบให้โปร่งโล่งสบายเหมือนทำงานในสวน
ดีเทลต่างๆของการตกแต่งนั้นก็แฝงด้วยความเป็นไทย แถมยังเปิดโอกาสให้พนักงานมีส่วนรวมออกความคิดได้ด้วย
ทิศทางปี 2017
ส่วนทิศทางของกูเกิลในปีนี้จะเน้นหลักๆมีอยู่ 4 ด้าน คือ
1. Education
ในส่วนของกรศึกษานั้น กูเกิลได้เตรียมหลักสูตรต่างๆเพื่อผลักดันให้คนไทยพร้อมก้าวไปสู่ไทยแลนด์ 4.0 ที่มีเทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน เริ่มตั้งแต่ โครงการ Google Ignite ที่เปิดโอกาสให้เหล่านักศึกษาได้เรียนรู้และเก็บเกี่ยวประสบการณ์สายงานด้านการตลาดดิจิทัล เตรียมความพร้อมให้กับคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศ
นอกจากนั้นก็ยังมีโครงการ Google Developer Experts และ Google Developer Group ที่ให้ผู้ที่เชี่ยวชาญในแขนงๆต่างที่กูเกิลจัดหมวดหมู่ไว้น มาช่วยถ่ายทอดความรู้ให้กับคนรุ่นหลังต่อไป
2.Content
ในส่วนของ Content นั้นจะมี YouTube เป็นหัวใจสำคัญ ตอนนี้มีคนเข้ามาดูคลิปบนแพลตฟอร์มนี้ถึงวันละ 1,000 ล้านชั่วโมงต่อวัน โดยปีนี้จะเน้นเนื้อหาที่ผลิตโดยคนไทยมากขึ้น, มีการนำ Machine Learning มาช่วยเลือกและแนะนำคอนเท้นท์ให้เหมาะกับแต่ละคนได้
นอกจากนั้นยังมีการผลักดันเหล่า Creator บนยูทูปให้ สร้างสรรค์เนื้อหาให้เป็นมืออาชีพมากยิ่งขึ้นผ่านการฝึกอบรม Workshop ต่างๆ
3.SME/Startup
หลังจากที่สนับสนุน Startup หน้าใหม่ร่วมกับ dtac Accelerator มาปีนี้กูเกิลก็ผันตัวมาเป็นป๋าดันอย่างจริงจัง ด้วยการเปิดตัว Startup Bootcamp และ Lauchpad Accelerator Batch 3 โครงการอบรมฟูมฟักสตาร์ทอัพหน้าใหม่ที่จัดทั่วโลกมาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว มีการให้ความรู้อย่างเข้มข้นจากกูรูกับสตาร์ทอัพมากกว่า 25 ประเทศ พร้อมสนับสนุนเงินทุนแบบให้เปล่าเพื่อดันธุรกิจใหม่สู่โลกดิจิทัล ส่วนไทยเองก็จะจัดขึ้นในปีก็เตรียมจัดงานครั้งที่สอง โดยเปิดรับสมัครเรียบร้อยแล้ว
4.User/Access
ในส่วนของผู้ใช้ก็จะพัฒนาบริการใหม่มาตอบสนองความต้องการ รวมถึงปรับปรุงสิ่งที่มีอนู่แล้วให้เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกขึ้น ยกตัวอย่างเช่น Google Translate เครื่องมือแปลภาษา ที่ปีนี้เพิ่มเทคโนโลยี Neural Machine Traslation ช่วยให้การแปลภาษาอื่นเป็นภาษาไทยได้เข้าใจยิ่งขึ้น
นอกจากนั้นทางกูเกิลเองก็ร่วมมือกับภาครัฐอย่างเต็มที่ เพื่อขับเคลื่อนเศรฐกิจไทย ให้เรามีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น