หลายคนที่ใช้ iPad รุ่นเก่าแต่ไม่สามารถใช้งานคู่กับ Apple pencil ได้ ขอแนะนำ SonarPen สไตลัสที่ใช้งานจับแรงกดได้ใกล้เคียงกัน แถมไม่ต้องชาร์จแบต เสียบกับช่องหูฟังก็ใช้งานได้ทันที
SonarPen
ข่าวดีสำหรับคนที่ใช้ไอแพดรุ่นเก่าที่ไม่รองรับ Apple Pencil ตอนนี้ทาง GreenBulb จากฮ่องกงได้เปิดตัวโปรเจคใหม่บน Kickstarter ภายใต้ชื่อว่า SonarPen จุดเด่นคือมีเทคโนโลยีแบบเดียวกับ Apple pencil คือ หัวปากกาสามารถจับแรงกดได้หลายระดับและ palm rejection เพื่อช่วยให้การวาดภาพบนจอสะดวกขึ้น แถมยังใช้งานง่ายเสียบกับช่องหูฟัง 3.5 มม. ก็ทำงานได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเชื่อมต่อบลูทูธหรือชาร์จแบตเตอรี่ให้เสียเวลา
หลักการทำงานของสไตลัสตัวนี้ก็คือ ตรงหัวปากกาจะติดตั้งเซนเซอร์โซนาร์เอาไว้ โดยมันจะปล่อยคลื่นเสียงออกมาเวลาที่สัมผัสจอ เมื่อคลื่นเสียงโดนจอก็จะสะท้อนกลับไปยังเซนเซอร์เพื่อคำนวนจุดสัมผัสและแรงกด เนื่องจากจอของไอแพดเองก็สามารถจิ้มจออยู่แล้ว จึงเอามาประยุกต์ใช้กับเทคโนโลยี palm rejection ด้วยการตรวจเช็คด้วยการจับคู่การส่งสัญญาณจากทั้งสองฝั่งเนื่องจากมือของเราไม่สามารถส่งคลื่นเสียงออกมาได้ จึงทำให้จุดที่โดนมือของเราสัมผัสจึงไม่เกิดการสั่งงานขึ้นมานั่นเอง
ข้อดีอีกอย่างก็คือ สไตลัสนี้สามารถใช้งานกับแอปอื่นๆได้ทั้งแอปวาดภาพหรือจดโน้ต ซึ่งในอนาคตจะรองรับแอปมากขึ้นเรื่อยๆ แถมเรายังตั้งปุ่มลัดบนตัวปากกาให้เรียกใช้แอปใช้งานประจำได้ทันที ทาง Engadget ได้ทดสอบตัวปากกาต้นแบบเป็นเวลา 2 สัปดาห์ก็พบว่าใช้งานได้ดีและสม่ำเสมอบนไอแพด 3 รุ่น (iPad Pro 12.9 นิ้ว, an iPad Air และ iPad เจน 3) กับแอป Zen Brush 2 และ GoodNotes แต่กก็มีบางครั้งที่เสียบใช้งานแล้วไม้เจอปากกาต้องเปิดและปิดแอปใหม่ถึงจะใช้งานได้ คาดว่าน่าจะได้รับการแก้ไขในเวอร์ชั่นขายจริง
สำหรับการใช้งานทั่วไปนั้นถือว่าขนาดพอๆกับปากกาทั่วไป จับใช้งานถนัดมือทีเดียว แถมยังรองรับการใช้งานกับไอโฟนรุ่นที่ขายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2011 ด้วยนะ ส่วนรุ่นใหม่ที่ไม่มีช่องหูฟังก็เสียบผ่านอแดปเตอร์ Lightning ได้เลย ส่วนใครที่ใช้ Windows และ Android อาจจะต้องอดใจรออีกนิดต้องดูว่ารุ่นแรกนี้ตลาดให้การยอมรับแค่ไหน ถ้าขายดีก็มีโอกาสได้เห็นแน่นอน
ส่วนคนที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดได้ที่ Kickstarter ถ้าสั่งล่วงหน้าตอนนี้จะได้ส่วนลดด้วย คาดว่าจะพร้อมขายในเดือนมิถุนายนนี้ โดยราคาขายจริงอยู่ที่ 235 ดอลล่าร์ฮ่องกงหรือประมาณ 950 บาทเท่านั้นเอง
VIA Engadget