เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ Galaxy S9 และ S9 Plus ที่ชูแนวคิด Reimagined ลองไปดูกันว่า สมาร์ทโฟนเรื่อธงรุ่นแรกของปีจาก Sumsung จะมีทีเด็ดอะไรบ้าง

Galaxy S9

1. กล้องเลือกเปลี่ยนรูรับแสงได้ 

เรื่องแรกคงนี้ไม่หมดเรื่องของกล้องถ่ายภาพที่เรียกว่าทั้งบัตรเชิญรวมถึงคลิปทีเซอร์ที่ปล่อยออกมาก่อนหน้านี้บอกใบ้เรื่องนี้อย่างเต็มที่ จุดเด่นของกล้อง S9 มาพร้อมกับ Dual Aperture หรือเลนส์ที่สามารถปรับรูรับแสงได้จึงทำให้ทำงานได้เทพขึ้น ส่วนความละเอียดอยู่ที่ 12 ล้านพิกเซล

แนวคิดของซัมซุงก็คือออกแบบให้เลนส์ทำงานได้เหมือนตาคนเราเวลาที่เจอสภาพแสงที่แตกต่างกัน เวลาเจอแสงจ้าก็หรี่ตา เวลาที่อยู่ในที่มืดม่านตาเราก็จะขยายขึ้นเพอ่อให้เห็นภาพในแสงที่เหมาะสม โดยจะเลนส์จะมีสองค่าให้ใช้งานคือ  f1.5 สำหรับถ่ายในที่แสงน้อยและ f2.4 สำหรับถ่ายภาพในที่แสงสว่างมาก ซึ่งฟีเจอร์นี้ใช้งานได้ทั้งสองรุ่นทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่น Plus

นอกจากนั้นยังเสริมประสิทธิภาพกล้องด้วยการใส่ชิปใหม่ DRAM  ช่วยให้ประมวลผลได้มากขึ้น 4 เท่า โฟกัสเร็วขึ้นกว่าเดิม ถ่ายภาพได้ในทุกสภาวะแสง ไม่ว่าจะแสงจ้าสุดๆหรือมืดสุดๆ

2.Super Slowmotion

ชิปตัวนี้ยังช่วยให้ถ่ายภาพ Super Slowmotion ได้ถึง  960 เฟรมต่อวินาทีที่ความละเอียด 720P  พร้อมฟีเจอร์ Auto Motion Detection สำหรับตรวจจับการเคลื่อนไหว เมื่อมีวัตถุเข้ามาในกรอบที่เรากำหนดไว้ก็จะถ่ายสโลโมชั่นให้อัตโนมัติ ถ่ายเสร็จเลือกใส่เพลงให้อัตโนมัติพร้อมแชร์ ถ้าไม่ชอบเพลงก็เลือกเปลี่ยนได้อีก แถมเลือกเล่นย้อนกลับได้จากหลังไปหน้าได้

ในส่วน S9+ นั้นจะเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่มาพร้อม Dual Camera หรือเลนส์คู่ โดยแบ่งเป็นเลนส์มุมกว้างและมุมแคบ สามารถถ่าย live focus ปรับหน้าชัดหลังเบลอได้จากเลนส์ แถมยังปรับหลังถ่ายรูปมาแล้วก็ได้ด้วย สิ่งที่เหนือกว่า S9 ก็มือในโหมด Live Focus นั้นจะมีฟีเจอร์ Art Bokeh เพิ่มเข้ามาสำหรับปรับฉากหลักให้เป็นโบเก้รูปต่างๆได้ และ Dual Shot ถ่ายภาพมุมกว้างและมุมแคบพร้อมกัน

AR Emoji

3. AR Emoji

อีกลูกเล่นใหม่ก็คือ AR Emoji ฟีเจอร์แบบเดียวกับ Animoji ของ iPhone X ใช้ได้ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง ใช้กล้องสร้างอีโมจิสามมิติขยับตามหน้าของเรา ผ่านการใช้ AI วิเคราะห์จุดต่างๆบนใหน้าของเรา ถ้ารูปที่ทำออกมายังไม่คล้ายตัวเรายังปรับแต่งเพิ่มได้อีกจนกว่าจะพอใจรวมถึงใส่เครื่องประดับ เปลี่ยนชุดได้ตามต้องการ อัดเสียงเพิ่มเข้าไปได้อีก

ฟีเจอร์นี้จะสร้างอีโมจิให้เราอัตโนมัติ 18 แบบเหมือนสติกเกอร์โดยจะไปอยู่ในส่วนของ Gallery สร้างเสร็จเอาไปใช้กับแอปอื่นๆได้ทั้ง Whatsapp และ Messenger รวมไปถึง Facebook ส่วนวิธีเรียกใช้นั้นจะอยู่ในส่วนของคีย์บอร์ดให้เราเปลี่ยนภาษาไปเป็นอีโมจิก็กดส่งได้แล้ว

นอกจากนั้นทางซัมซุงยังจับมือ Disney ทำหน้าเราเป็นอีโมจิคาแรกเตอร์สุดน่ารักของดิสนีย์ ซึ่งในอนาคตเราน่าจะเห็นพันธมิตรรายใหม่ๆเพิ่มเข้ามา

Bixby

3.Bixby ฉลาดขึ้น

ในส่วนของผู้ช่วยเสมือนจริงอย่าง Bixby นั้นก็เพิ่มความสามารถหลายอย่าง เช่น Bixby Vision เพิ่มความสามารถ Live Translate ยกกล้องขึ้นมาส่องก็แปลภาษาให้ทันทีแบบ Realtime ซ้อนทับลงไปด้วยเทคโนโลยี AR

ยกกล้องขึ้นมาส่องของที่ต้องการ Bixby ก็รู้ว่าของชิ้นนั้นคืออะไรพร้อมสั่งซื้อของได้ทันที แต่ฟีเจอร์นี้รองรับ 4 ประเทศก่อน คือ อเมริกา แคนาดา,จีน

4.หน้าจอ Infinity Display

ดีไซน์โดยรวมของ S9 เรียกว่าไม่ต่างจาก S8 เลยล่ะค่ะ หน้าจอ Infinity Display ขนาด 5.8 นิ้ว ในสัดส่วน 18.5:9 ความละเอียดระดับ 2K QHD หรือ 1440 x 2960 พิกเซล เพิ่มความสว่างของหน้าจอ ให้สีสันสดขึ้น ส่วน S9+ หน้าจอจะใหญ่ขึ้นมาหน่อยเป็น 6.2 นิ้ว

สิ่งที่หลายคนน่าจะชอบก็คือ รองรับโหมด horizontal หมุนใช้งานหน้าจอแนวนอนได้เหมือนแท็บเล็ตโดยหน้าโฮมจะหมุนตามไปด้วย

ส่วนลำโพง AKG เสียงดังขึ้น 40% พร้อมระบบเสียง Dolby Atmos ให้เสียง 3 มิติรอบตัว ช่องหูฟัง 3.5 มม.ยังอยู่ในกล่องก็แถมหูฟัง AKG เหมือนเดิม

5.Intellegent Scan

อันนี้มาตามข่าวลือเป๊ะๆเลยค่ะ คือเค้าจะใช้ Face recognition และ Iris Scanner ในการสแกนปลดล็อคตัวเครื่อง โดยมันจะเลือกให้เองว่าวิธีไหนเร็วสุดก็ใช้อันนั้นก่อน เช่น ในที่แสงน้อยการสแกนม่านตาจะเร็วกว่า

ส่วนความเปลี่ยนแปลงอื่นๆก็มี เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือย้ายตำแหน่งใหม่ช่วยให้สแกนได้ง่ายขึ้น, ชิปเซ็ทรองรับการเชื่อมต่อความเร็ว LTE 1.2 Gbit/s ช่วยให้การดูคลิปออนไลน์หรือการไลฟ์ ไหลลื่นขึ้น, มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP68, DexPad รุ่นใหม่

S9 จะมีความจุเดียวคือ 64GB วางขายในไทยแค่ 3 สีคือ  Midnight Black, Coral Blue, Lilac Purple ราคาอยู่ที่ 27,900 บาท ส่วน S9+ จะมี 3 ความจุ คือ 64GB, 128GB และ 256GB ราคาเริ่มต้นที่ 31,900 บาท เริ่มขายในไทย 16 มีนาคม มาพร้อมโปรโมชั่นประกันหน้าจอแตก 1 ปี รับฟรีแท่นชาร์จไร้สาย 2,090 บาท นำเครื่องเก่าของซัมซุงมาแลกซื้อได้ส่วนลดสูงสุด 3,000 บาท

ใครที่สนใจเริ่มสั่งจองได้วันที่ 27 กพ – 5 มีนาคมนี้  รับเครื่อง 9-11 มีนาคมสำหรับรุ่นความจุปกติ และวันที่ 29-31 มีนาคมสำหรับรุ่นความจุ 256 GB