หลังจากที่ Samsung Galaxy Note รุ่นแรกได้เปิดตัว หลายคนสังเกตหรือไม่ว่าทำไมถึง Samsung ยังคงทำมือถือมีปากกาอยู่ ทั้ง ๆ ที่ค่ายอื่นยังไม่ทำกัน

จอมือถือสมัยก่อนไม่แม่นยำกับนิ้วมือคน

จริงๆ แล้วถ้าย้อนกลับไปช่วงก่อน Samsung Galaxy Note เปิดตัวยังคงมียุคของเครื่อง Pocket PC ทั้ง Windows Mobile, Windows CE และ Palm เป็นต้น ยุคนั้นมือถือสัมผัสยังคงต้องใช้ปากกา เพราะความแม่นยำของหน้าจอนั้นยังไม่มีความแม่นยำกับมือคน หรือเรียกว่า resistive ถ้ากดลงไปมันจะเหมือนกับเป็นจอนุ่มๆ ผิดกับสมัยนี้ที่จอจะแข็งขึ้น หรือเรียกว่า capacitive ทำให้ปากกาเริ่มลดบทบาท

แต่การมาของ Galaxy Note เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่กลับมาเพราะเมื่อนิ้วคนแม่นยำ ปากกาก็ใช้แม่นยำเหมือนกัน

การมีปากกาทำให้เครื่องใหญ่ขึ้น

สังเกตจากสมัยก่อนเช่นกัน มือถือจะมีขนาดใหญ่มาก และมีการเก็บปากกา แต่พอมือถือสมัยนี้เล็กลง และบางขึ้น ทำให้การดีไซน์ให้ปากกาเก็บในตัวเครื่องนั้น ยากมากขึ้นด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นผู้ผลิตมือถือส่วนใหญ่จึงไม่ใส่ปากกาเข้ามา

โปรแกรมทำงานบนปากกา มีน้อยและไม่คุ้มกับการพัฒนา

ถ้ามองมือถือค่ายอื่น จะพบว่าการที่ไม่ใส่ปากกามานั้นส่วนหนึ่งก็อยากทำให้ฟีเจอร์อื่นดีกว่า และมองว่าเรื่องการพัฒนาให้มือถือรองรับปากกาไม่คุ้มเพราะมันจับกับคนบางกลุ่มเท่านั้น จึงไม่ค่อยเหมาะกับการพัฒนาเท่าไหร่

ยกเว้น Samsung ที่พัฒนาฟีเจอร์ใหม่ๆ ชอง Samsung Galaxy Note ออกมาอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องการสัมผัสที่ใช้ง่ายเหมือนกับวาดบนกระดาษ, ใช้เกี่ยวกับการจดและ ไฮไลท์ข้อความ หรือจะเป็นการวาด Live Message ที่ทำได้กับ Galaxy Note 8 เป็นต้น

คนคิดว่าปากกาไม่สำคัญเท่าสเปค

แม้ว่ามือถือทุกวันนี้จะมีสเปคที่ดีขึ้นและมีจุดเด่นในเรื่องของสเปคเครื่องที่ดีมาก แต่เชื่อหรือไม่ว่าก็มีบางคนที่คิดว่า ไม่ต้องมีปากกา ก็อาจจะไม่เป็นไร มันก็จริง เพราะว่าบางคนชอบใช้หน้าจอสัมผัสมากกว่า

ผิดกับ Samsung Galaxy Note ที่สเปคนั้นเรียกว่าเท่าๆ และพอๆ กับ Samsung Galaxy S ที่ออกมาแต่ละปี เพียงแต่เป็นการเพิ่มเติมฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องกับปากกาเข้าไปเองเท่านั้นเอง และก็ดึงดูดใจคนที่รักและช่อง ตระกูล Note อยู่แล้ว

ทั้งหมดที่บอกมานั้นถือว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Samsung Galaxy Note เกิดขึ้นมา และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แล้วรุ่นใหม่ที่กำลังจะเปิดตัวเป็นอย่างไรต้องติดตามกันอีกไม่นานหลังจากนี้