เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วกับ Huawei mate 20 ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ หลายอย่างตรงข่าวลือ ไม่ว่าจะเป็นกล้องหลัง 3 ตัว มีเลนส์มุมกว้างเป็นพิเศษ จัดเต็มเรื่อง AI พร้อมลูกเล่นใหม่เพียบ

Ultimate Performance

ตัวเครื่องดีไซน์ในคอนเซปต์ Perfect Flow Design กระจกโค้งหน้าหลัง จับกระชับมือ ขอบจอและขอบโลหะด้านข้างของตัวเครื่องเล็กกว่าแบรนด์อื่นๆ มาดูในส่วนของหน้าจอกันบ้าง

Mate 20 มาพร้อมหน้าจอ RGBW 6.53 นิ้ว ความละเอียด FHD+ สัดส่วน 18.7:9 ความสว่างอยู่ที่ 820 nits จอสว่าง ให้ภาพที่คมชัด แต่กินไฟต่ำ รอยแหว่งหน้าจอเล็กลง เหลือแค่รูปทรงหยดน้ำ สัดส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องอยู่ที่ 88.07% รุ่นนี้ยังใช้เซ็นเซอรืสแกนนิ้วที่ฝาหลัง

ส่วน Mate  20 Pro จะใช้จอคนละประเภทคือ OLED ความละเอียด 2K+ (3120*1440) ให้สีสันและคอนทราสที่สดกว่า สัดส่วนหน้าจอกับตัวเครื่องอยู่ที่ 86.60% ที่ต่างกันเพราะว่ารอยบากด้านบนมีขนาดใหญ่กว่านั่นเอง หน้าจอมาพร้อมกับเซ็นเซอร์สแกนนิ้วแบบฝังใต้หน้าจอ In-screen Fingerprint มาพร้อมกับเทคโนโลยีจับแรงกดได้ถึง 10 ระดับ ช่วยให้ปลดล็อกจอได้เร็วขึ้นสูงสุด 30%

ของใหม่ถอดด้านอีกอย่างก็คือ Nano Memory Card (NM Card) ถามใส่ซิมการ์ดแบบใหม่แบบประกบหน้าหลังที่หัวเว่ยพัฒนาเอง เลือกได้ว่าจะใส่สองซิม หรือใส่ซิมคู่กับ NM Card ส่วนลำโพงจะเป็น Dual Spearker ส่วนมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นจะต่างกัน คือ Mate 20 Pro จะเป็น IP68 ส่วน Mate 20 ธรรมดา iP53

อีกเรื่องที่ต้องขอชมก็คือ เข้าใจความต้องการของผู้ใช้ โดยเฉพาะรุ่นที่ตัวเครื่องเป็นกระจก มักจะมีรอยนิ้วมือเปื้อนได้ง่าย ต้องคอยเช็ดออกถ้าไม่อยากให้สกปรก แต่ตัว Mate นั้นจะเคลือบ  กระจกด้วย Hyper Optical Pattern ทำให้ตัวเครื่องมีลายสามมิติโดดเด่สวยงามน แถมยังช่วยเพิ่มความทนทาน จับกระชับขึ้น แถมรอยนิ้วมือได้ติดด้วย เก๋มั้ยล่ะ

ตัวเครื่องสีเครื่องมีทั้งหมด 5 สีคือ Emerald Green, Midnight Blue, Black, Pink Gold และ twilight เหมือน P20 pro ที่ได้ความนิยมสุดๆ

ชิป

ในส่วนของชิปนั้น Mate Series จะมาพร้อมชิปใหม่ล่าสุด KIRIN 980 ที่พัฒนาด้วยเทคโนโลยี 7 นาโนเมตร พร้อม Dual NPU ช่วยให้ทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น CPU ทำงานดีขึ้น 75% GPU 46% NPU 226% ถึงจะทำงานเร็วขึ้นแต่เรื่องของการประหยัดแบตเตอรี่ก็เพิ่มขึ้นด้วย การเปิดแอปยอดนิยมต่างๆก็ทำได้เร็วขึ้น ซึ่งในงานก็เทียบกับ iPhone ให้ดูเลยค่ะ

ทางผู้บริหารก็ชูอีกจุดเด่นของ Mate 20 ก็คือ การคงประสิทธิภาพการทำงานเอาไว้ ซึ่งใครที่ใช้แอนดรอยด์จะรู้ดีว่าเมื่อเครื่องใช้ไปนานๆแล้ว ตัวเครื่องจะเริ่มหน่วง ทำงานไม่ดีเท่ากับตอนแรกๆที่ซื้อมา แต่ Mate 20 นั้นแม้จะใช้งานไปแล้ว 18 เดือน ประสิทธิภาพการทำงานจะลดลงแค่ 5% เท่านั้น

มาดูเรื่องของแบตเตอรี่ ให้มาสูงถึง 4200 mAh รองรับ 40W Huawei Supercharge ครึ่งชั่วโมงชาร์จได้ 70% นอกจากนั้นก็ขายของอุปกรณ์เสริมใหม่ 15W Huawei wireless charge แต่ที่เรียกเสียงฮือฮาในงานก็คือ  ตัวเครื่องยังทำหน้าที่เป็นแท่นชาร์จไร้สายให้กับอุปกรณ์อื่นๆที่รองรับได้ด้วยฟีเจอร์ Wireless Reverse Charge

การเชื่อมต่อ

Mate 20 มาพร้อมสารพักการเชื่อมต่อไร้สาย ที่เรียกว่าสร้างมาตรฐานใหม่หลายอย่าง เริ่มตั้งแต่เป็นสมาร์ทโฟนตัวแรกที่รองรับการรับส่งข้อมูลที่ 1.4 Gbps Cat.21 รียกว่าแซงหน้า Galaxy Note 9 ที่เป็นเจ้าของสถิติเดิม

มีการปรับปรุงเสารับสัญญาณให้ทำงานได้ดีขึ้น ส่วน WiFi ถือเป็นมือถือเครื่องแรกที่ทำความเร็วในการดาวน์โหลดที่ 1733 Mbps เรียกว่าโหลดหนังความละเอียด HD มาดูได้ในเวลาแค่ 10 วินาทีเท่านั้น

ส่วนเรื่องของพิกัดก็มีการนำ Dual frequency GPS มาใช้ โดยใช้ดาวเทียมสองดวงคือ L1 และ L5 ทำให้การจับตำแหน่งแม่นยำขึ้น 10 เท่า แถมยังเอา AI มาช่วยวิเคราะห์ ว่าดาวเทียมดวงไหนทำงานเร็วกว่าก็เปลี่ยนไปใช้ดวงนั้น ฉลาดมั้ยล่ะ (AI Satellite Selection GPS)

Remarkable Photography 

มาดูสิ่งที่หลายคนอยากรู้กันบ้างดีกว่ากับกล้องหลัง 3 ตัวของ Mate 20 Series จะเป็นยังไงบ้าง ต้องบอกว่าเลนส์ของ Mate 20 และ Mate 20 Pro จะมีความแตกต่างกันอยู่

เริ่มจาก Mate 20 นั้นจะแบ่งเป็น กล้องหลักเลนส์ Ultra Wide Angle เทียบเท่ากับเลนส์ 17 mm รูรับแสง f2.2 ความละเอียด 16 ล้าน ตัวต่อมาจะเป็นเลนส์มุมกว้างความละเอียด 12 ล้าน เทียบเท่าระยะ 27 มม. f1.8 เลนส์ตัวสุดท้ายจะเป็นเลนส์ซูม ความละเอียด 8 ล้าน f2.4 เทียบเท่ากับระยะ 52 มม.

ส่วน Mate 20 Pro นั้นกล้องหลักจะเป็นเลนส์มุมกว้าง ความละเอียด 40 ล้าน เทียบเท่าระยะ 27 มม. ต่อมาจะเป็นเลนส์มุมกว้างเป็นพิเศษความละเอียด 20 ล้าน f2.2 ระยะเทียบเท่า 16 มม. ตัวสุดท้ายจะเป็นเลนส์ซูม ความละเอียด 8 ล้าน f2.4 เทียบเท่ากับระยะ 80มม. ส่งผลให้กล้องของ Mate 20 Pro เทียบเท่ากับเลนส์ 16-270 mm ช่วง 16 เลนส์มุมกว้าง ซูม optical 3x เทียบเท่า 80 มม. ไฮบริดซูม 5x เทียบเท่า 135 มม. ดิจิทัลซูม 10x หรือ 270 มม.

ตัว Mate 20 Pro นั้นจะใช้เซ็นเซอร์ขนาด 1/1.7 นิ้ว จึงทำให้ถ่ายภาพในสภาพแสงน้อยได้ดีกว่าคู่แข่ง สามารถดัน ISO ได้สูงสุดถึง 102400 เลยทีเดียว เมื่อมารวมกับ AIS เรียกว่ามืดแค่ไหนก็ยังได้ภาพออกมาแน่นอน

ส่วนโหมดถ่ายภาพเด่นๆที่ให้มาก็มี

  • Super HDR Technology ถ่ายภาพ RAW ครั้งเดียวจะได้ภาพสูงสุดถึง 10 เฟรม เลือกแต่งต่อได้อย่างสบายใจ
  • ระยะมาโครระยะโฟกัสใกล้สุด 2.5 เซนติเมตร
  • โหมดถ่ายภาพใต้น้ำ มาพร้อมเคสกันน้ำ ดำถ่ายภาพได้ลึกถึง 5 เมตร
  • ใช้ประโนชน์จาก AI ประมวลผลวิดีโอได้แบบ real-time เช่น โหมด AI Color เปลี่ยนฉากหลังวิดีโอเป็นขาวดำ แต่ตัวแบบในภาพยังคงเป็นสี ให้เอฟเฟคแบบเดียวกับหนังฮอลลีวูด
  • AI สามารถระบุบุคคลที่อยู่ในภาพและวิดีโอได้ เลือกลบคนที่อยากตัดออกจากคลิปได้เหมือนกับมีเวทมนตร์

ส่วนกล้องหน้า Mate 20 pro มาพร้อมความละเอียด 24 ล้านพิกเซล พร้อมเซ็นเซอร์ต่างๆ เพื่อใช้งาน 3D Face unlock ที่ปลดล็อกในเวลาแค่ 0.6 วินาทีเท่านั้น อีโมจิสามมิติก็ยังอยู่ เลือกได้ว่าจะเซฟเป็น GIF หรือ MP4

ที่น่าตื่นตาตื่นใจก็คือ มือถือกลายเป็นสแกนเนอร์สามมิติแบบย่อมๆ ด้วยการใช้กล้องหน้าสแกนวัตถุ 3 มิติ สร้างเป็นโมเดล 3 มิติ ใช้เทคโนโลยี AR วัดสเกลเทียบกับสถาพแวดล้อมให้ สั่งให้ทำ Action ต่างๆ หรือจะถ่ายภาพกับคนจริงๆก็ได้

ระบบปฏิบัติการ

ระบบปฏิบัติการจะเป็น Android Pie 9.0 ครอบทับด้วย EMUI 9.0 ซึ่งก็มีฟีเจอร์อัดแน่น เริ่มตั้งแต่

  • Gesture Navigation ใช้งานมือเดียวได้สบายๆ ด้วยการสั่งงานด้วยการลากนิ้ว
  • เพิ่มคววามเป็นส่วนตัวด้วยสารพัดฟีเจอร์ เช่น App Lock เหมือนเป็นล็อกเกอร์เก็บแอป อยากใช้งานต้องสแกนหน้าหรือสแกนนิ้ว, App Twin สำหรับเล่น LINE/Facebook สองบัญชีในเครื่องเดียว เป็นต้น
  • Shopping แบบใหม่ เอานิ้วโป้งสองนิ้วกดที่ภาพหน้าจอ ระบบจะทำการหาร้านออนไลน์ที่มีสินค้า พร้อมสั่งซื้อได้ทันที โดยหัวเว่ยได้เชื่อมต่อระบบเข้ากับแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ กว่า 200 แพลตฟอร์มทั่วโลก มีสินค้ามากกว่า 120 ล้านชิ้น
  • Hi Vision Ai ที่เหมือนกับ Gogle Lens ยกกล้องขึ้นมาส่องหาข้อมูลหรือแปลภาษาได้ ส่องอาหารก็คำนวณเป็นแคลอรี่ออกมาให้เลยว่ากินแล้วน้ำหนักจะขึ้นแค่ไหน
  • Wireless PC Mode เชื่อมต่อไร้สายกับจอใหญ่ ใช้เป็นคอมพิวเตอร์ผ่าน Doggle ซึ่งขณะใช้งานโหมดนี้ก็ยัง รับสายได้ตามปกติ
  • Huawei Share 3.0 เชื่อมต่อกับอุปกรณ์อื่นอย่างคอมพิวเตอร์ มือถือ ที่ความเร็วสูงสุด 61 MBps

ส่วนสนนราคาขายนั้น Mate 20 รุ่น Ram 4GB ความจุ 128 GB ราคาอยู่ที่ 799 ยูโร ส่วนรุ่น Ram 6GB ความจุ 128 GB ราคาอยู่ที่ 849 ยูโร เริ่มขาย 16 ตุลาคมนี้

ส่วน Mate 20 Pro จะมีแค่รุ่น Ram 6GB ความจุ 128 GB ราคาอยู่ที่ 1049 ยูโร เริ่มขาย 16 ตุลาคมนี้เช่นกัน