Apple Watch Series 4 เปิดตัวตั้งแต่ 12 กันยายน 2018 แต่ขายจริงในประเทศไทยแน่ 2 พย.2018!!! ก่อนขายเรามาดูความน่าสนใจกันดีกว่านะคะ ซีจัดรีวิวรายละเอียดจากการใช้งานเบื้องต้นให้น้ำลายหกกันไปก่อน
น่าซื้อไหม ตอบเลยว่า โดนมาก…ส่วนรุ่นและราคาเอาตามที่ไหวซีว่ามันเป็นของขวัญคนเพื่อการดูแลคนสูงอายุที่ดีมาก
กฎเหล็กแอปเปิ้ลก็มีอยู่ คือ จะใช้ Apple Watch ต้องมีไอโฟน เพราะ นี่คือสงครามที่แอปเปิ้ลเอาชนะทุกค่ายที่ “ระบบนิเวศ”ของตัวเอง ระบบปฏิบัติการในทุกจอ ตั้งแต่ macOS , iOS, watchOS นับวันมันจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ใช้ง่าย ใช้สะดวก และผสานเป็นเนื้อเดียวกันมากขึ้นเรื่อยๆ
แม้หลายคนบ่นเหมือนกันว่า ไม่มีอะไรว้าว แต่เอาเข้าจริง ก็ต้องยอมรับว่า “การทำงานที่ลื่นไหลไม่สะดุด ไม่ขัดใจ และ ยิ่งทำงานได้ลื่นมากขึ้นในทุกจอที่เป็นของแอปเปิ้ล” นั่นก็เพียงพอต่อชีวิตมากกว่าความว้าวที่เอามาทำมาหากินไม่ได้
ซีต้องขอยอมรับว่า Apple Watch เป็นนาฬิกาที่สวยมีสไตล์ แต่ในรุ่นที่ผ่านมา ไม่มีรุ่นไหน ตื่นเต้นเท่า Apple Watch Series 4 เพราะฟังก์ชั่นที่เคยฝันว่าอยากจะใช้ มันได้อยู่ในระบบ watchOS 5 ที่สนุกขึ้นมาก
กิจวัตรคนเราไม่เหมือนกัน
ซีงานยุ่งทุกวันแอปพลิเคชั่นบนนาฬิกาที่ใช้ได้มากที่สุดคือ โทรศัพท์และแอปเพื่อการสื่อสารนี่ตลอดเวลารุ่นก่อนหน้าคือ Series3-Cellular เวลาไปส่งลูกที่รร.ต้องทั้งจูงทั้งลากกระเป๋า ไม่เอาอะไรลงจากรถทั้งนั้น เวลาจะเรียกรถวนมารับก็กดนาฬิกา โทรหาคนขับรถนี่แหละค่ะ บ่อยที่สุด สะดวกมาก เคยคิดว่า ถ้าไม่โทร ขอแบบ วอร์คกี้ ทอล์คกี้ได้เลยคงยิ่งดี…มันก็มาจริงๆใน รุ่นใหม่ล่าสุด Apple Watch Seires4 บอกเลยว่าซีชอบมากค่ะแม้จะยังไม่ได้ซื้อให้คนรถใส่แต่มันก็ได้ดั่งใจหลายฟีเจอร์มาก
ตัวที่เล็งไว้ นี่แหละค่ะ Stainless Steel Milanese Loop Gold ใส่นาฬิกาสีทองสายเหล็กนี้เข้ากับชุดเดรสหรือชุดออกทางการหรูหราภูมิฐานมากนี่เดินทางมาต่างประเทศทำข่าวก็ใส่มาอวดเลยค่ะ
ดูแพง ตั้งแต่กล่อง …แพงกว่านี้ก็ HERMES แต่ซีคิดว่า “มันเข้ากับมือถือ iPhone XS Max รุ่นสีทอง ขั้นสุดแล้ว” ถือด้วยกันพาใจหวั่นไหวฟีลลิ่งเหมือนใส่กระเป๋าเข้ากับเข็มขัดหรือรองเท้าประมาณนั้นเข้าได้หลายสไตล์มาก
กล่องรอบนี้ สวยมาก ออกแบบเหมือนกล่องห่อของขวัญมาในตัว ตอนแกะนี่ แกะเหมือน การห่อของขวัญสไตล์ญี่ปุ่นเลย ลายกระดาษด้านในเก๋น่ารักมาก การห่อหุ้มรุ่นนี้ก็พิเศษสุดๆ ภายในกล่องมีกล่องใส่สายแยกมาอีกชิ้น หรูจังเลย
แกะไปต้องหยุดถ่ายรูปไปทุกขั้นตอน
ความพิเศษของ Apple Watch SERIES4 เอาไปใช้อะไร สภาวะไหน ถึงต้องซื้อ?
- CONNECTIVITY สื่อสารไว้ อย่าหายไปจากจอ
- การเชื่อมต่อสารพัด อย่าง อิสรภาพในการมีนาฬิกามือถือ ที่เราไม่ต้องพกมือถือด้วยเทคโนโลยี eSIM ทำให้เราคล่องตัวมาก , ต่อหูฟัง Airpods กับนาฬิกาได้เลยโดยเพลงบนจอเล็กก็สตรีมมิ่งหรือโหลดมาไว้ได้เลย , นาฬิกาเองก็สามารถต่อ WIFI ทำตัวเหมือนมือถือจอจิ๋วขนาดเล็กที่รุ่นใหม่นี้ จอลื่นขึ้นไวขึ้นมากขอบจอก็สามารถกดสั่งงานได้รายละเอียดดีมาก
- ขนาดหน้าจอ 40 mm. และ 44 mm. ใหญ่ขึ้นก็สะดวกในการใช้นิ้วจิ้มสั่งงานง่ายขึ้น การใส่รหัสใช้การวาดบนจอได้เลย หน้าปัดหน้าจอ มีให้เลือกเยอะมาก หน้าปัดหลักเริ่มเน้นฟีเจอร์อื่นอย่าง การวัดค่า UV ส่วนมากกทม.นี่ 7/10 อย่างโหด ให้เรารู้ในสิ่งที่เห็นแต่ไม่รู้ ได้เป็นรูปธรรมขึ้นก็ระวังได้ดีขึ้น , หน้าจอที่รองรับการโทรออกส่งข้อความให้ไม่พลาดการติดต่อที่สำคัญหรือแม้กระทั่งเวลาฉุกเฉิน ในหลายประเทศเริ่มมีเคสที่นาฬิกาช่วยชีวิตคนเป็นโรคหัวใจได้พอล้มก็แจ้งให้มีรถพยาบาลมารับทันเวลามาแล้วล้มแล้วใครมันจะไปคว้ามือถือไหวถ้าอายุมากนี่ยิ่งน่าห่วง
- PRODUCTIVITY งานรุ่งชีวิตลื่นงานมีเงินมาจัดการชีวิตง่ายขึ้นไม่กี่จิ้ม
- หน้าปัดใหม่อย่าง INFOGRAPH ดูซับซ้อนแต่ไม่ยาก สามารถกำหนดรายละเอียด และเห็นทุกรายละเอียดสำคัญบนจอครบ ตั้งแต่ อุณหภูมิ , ค่า UV INDEX , TIMER ,STOPWATCH ,TRAVELLING
- หน้าปัดอย่าง Modular WatchFace ใครสายธุรกิจวันๆต้องเช็คหุ้น ราคาหุ้นก็เด้งได้ หรือเปลี่ยนเป็น Activity Graph การเดินวิ่งออกกำลังกายเราตลอดวันก็ได้ , ที่น่าสนใจคือ ข้อมูลเดินทางสายการบิน เด้งเป็นขั้นๆ ว่าช่วงนี้ต้องเดินไปเกทไหน เมื่อไหร่ คือดีไม่ต้องจับมือถือให้ลืมเลย
- สำหรับคนเป็น เบาหวาน มีแอพพลิเคชั่นเฉพาะทางที่ให้ข้อมูลมาที่หน้าปัดหลักได้ด้วย อย่าง Dexcom ที่คนป่วยเบาหวานสามารถดูข้อมูลบนหน้าปัดระดับน้ำตาลในเลือดตัวเองขึ้นหรือลงแค่ไหนหลังอาหารได้เลย
- คนกำลังควบคุมนำ้หนัก มีหน้าปัดแบบ LIFESOME ที่สามารถติดตามมื้ออาหารเรา เพื่อนับแคลอรี่ที่เผาผลาญ ตลอดทั้งวัน ว่าคาร์โบไฮเดรตเท่าไหร่ ไขมันเท่าไหร่ โปรตีนเท่าไหร่ …ใครจะเพิ่มน้ำหนักหรือลดน้ำหนักจัดไปไม่ต้องจำ
- หน้าปัดแบบ BREATHE WATCH FACE อันนี้เมื่อไหร่ที่มองนาฬิกาก็สติมาเตือนตัวเองให้หายใจเข้าออกลึกๆตามดอกบัวสีฟ้าเป็นแค่ไกด์จังหวะการหายใจเท่านั้นนะคะ ไม่ได้วัดว่าหายใจแล้วเราเป็นยังไงด้วยแต่แค่นั้นก็อาจจะพอแล้วสำหรับการมีสติและกำหนดจังหวะหายใจทุกครั้งที่มองนาฬิกา
- ส่วนตัวชอบ WATCH FACE ที่เป็นอัลบั้มรูปภาพนะคะ เวอร์ชั่นนี้ กดค้างดู LIVE PHOTO ได้ด้วยเด็ดมาก เหมาะกับการดูรูปเด็กน้อย ขยับนิดหน่อยเราก็ยิ้มออกทุกทีที่มองแล้ว หรือน้องหมา น้องแมวเรานี่แหละ
- ACTIVE
- พูดได้ว่า รุ่น4 ทำให้อยากออกกำลังกายขึ้นมากเพราะมี Battle เป็นการแข่งขัน เค้าเรียกว่าฟีเจอร์ COMPETITION ท้าดวลกับเพื่อนในออฟฟิศ หรือเพื่อนเรานี่แหละ ไม่ต้องเจอหน้าท้ากันบนจอ แชร์ลงโซเชียลเป้าออกกำลังกายใครเทพกว่ากัน คือเล่นเป็นเกมจากการออกกำลังกายจริงกับเพื่อนที่ใช้ APPLE WATCH นี่แหละ คนชนะตามเวลาที่กำหนดแข่งกัน จะได้ BADGE OF HONOR ไปอวดบนโซเชียล เกทับเพื่อน อ่อนแอก็แพ้ไป
- ฟีเจอร์เอื้อต่อการออกกำลังกายใหม่ๆด้วยนะ อย่าง “โยคะ” ร้อนหรือเย็น ยากหรือง่าย การวัดผลละเอียดมาก โยคะร้อนต้องใช้พลังมากกว่าปกติก็รู้ หรือ “การเดินป่า ปีนเขา” ยิ่งสูงยิ่งหนาว นาฬิกาก็รู้เพราะมีเซ็นเซอร์วัดการขึ้นที่สูง อยากรู้ฮาร์ดคอร์ คงต้องลองโดดบันจี้จัมพ์ , หรือแม้แต่การวิ่งตามพี่ตูน สมมติเป็น OUTDOOR RUN วิ่งนอกสถานที่ ใส่ฟีเจอร์ PACE ALERT คือวิ่งช้าหรือเร็วกว่าที่ตั้งค่าจะสั่นเตือนเหมือนสะกิดบอกให้รู้จะได้เร่งหรือลดระหว่างมาราธอน
- หัวใจเต้นแรงขึ้นไว จะมีการแจ้งเตือน หรือแม้แต่เต้นช้าเกิน คือต่ำกว่า 40 bpm อันนี้แปลว่าไม่ไหวแน่ เตือนค่ะ แต่หวังว่าจะไม่มีใครได้ใช้เถอะ
นาฬิกา รุ่นที่4 นี้ได้มีการเปลี่ยนแปลง และเพิ่มเซ็นเซอร์ ใหม่ทำให้หน้าตาของด้านหลังนาฬิกาที่สัมผัสผิวเรา ก็ดูสวยแปลกตาขึ้นด้วย แถมการใช้วัสดุ Ceramic สีดำ ด้านหลังเป็นการย้ายที่เสาสัญญานมือถือ ที่ดูเหมือนใช้การจัดวางได้สวยงาม และ มีประสิทธิภาพขึ้นด้วย นอกจากนี้ ตรงปุ่ม DIGITAL CROWN มีฝังการจับอัตราการเต้นของหัวใจ
ส่วนคนชอบสื่อสาร โปรดทราบ ลำโพงคู่ข้างขวาสองช่อง เสียงลำโพงดังขึ้นถึงสองเท่า เสียงดังอย่างน่าประทับใจ แต่ไม่แตก ไมโครโฟนก็ย้ายมาอยู่ที่ใต้ Digital Crown อีกด้วย
นอกจากนี้ฟังก์ชั่นสำคัญที่เป็นตัวช่วยดูแลคนแก่ อย่าง FALL DETECTION ค่อนข้างฉลาดเพราะเค้าเก็บงานวิจัยเรื่องการ”ล้ม”ของคนมาเป็นปีๆ ว่า “หกล้ม” “ลื่นล้ม” “เป็นลมล้มตึง” หรือ”กระโดดโยนตัวลงเตียงนอน” ไม่เหมือนกันอย่างไร และอันไหนคือ “การล้มจริง”ที่อาจต้องการความช่วยเหลือ แถมฟีเจอร์นี้ผู้ใช้ต้องใส่อายุแบบหลอกเครื่องแทบไม่ได้ อายุต้องมากกว่า 65 ปีขึ้นไปเพื่อเปิดใช้งานในการตั้งค่า WATCH > Enable Fall-detection แล้วต้องเข้าไปใส่ “รายชื่อบุคคลที่ติดต่อฉุกเฉิน” และ “Medical ID”หรือรายละเอียดผู้ป่วยเมื่อเกิดเหตุจะโทรหาด่วนได้ทันทีด้วย