เรียกว่าตั้งแต่ต้นปีก็มีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ออกมานับหลายสิบรุ่นให้เลือกซื้อ ใครที่มองหามือถือที่ราคาไม่แพง เน้นความคุ้มค่า บอกเลยค่ะว่า VIVO V15 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่น่าจับตา วันนี้เราจะมาลอง Hand-On และพรีวิวเครื่องกันว่ามีจุดเด่นอะไรบ้าง

Vivo V15

ดีไซน์

ตัวเครื่องมาในดีไซน์ไร้ขอบ Ultra FullView Display เลือกใช้จอ LCD 6.53 นิ้ว ความละเอียด Full HD+  แน่นอนว่าการแสดงผลนั้นจะด้อยกว่า VIVO V15 Pro ที่เป็นจอ Super AMOLED

สัดส่วนหน้าจอต่อขนาดเครื่องอยู่ที่ 90.95% ทำให้มีพื้นที่ใช้งานมากขึ้น เวลาดูคลิปวิดีโอหรือเล่นเกม สบายตามากขึ้นไม่ต้องเพ่งหรือเอาตาไปใกล้จอ  เสริมความแข็งแรงด้วยกระจก Gorilla Glass 5 ช่วยให้ใช้งานได้ทนไม้ทนมือมากขึ้น

VIVO V15

ด้านหลังเป็นกระจกโค้ง 2.5D โค้งรับจับถนัดมือ มีเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือเด่นอยู่ตรงกลางเครื่อง ฝาหลังไล่เฉดสีจากบนลงล่างสวยงามหรูหรา ตัวเครื่องจะมีสองสีคือ Topaz Blue (ไล่เฉดสีน้ำเงินฟ้า) และ Glamour Red (ไล่เฉดสีดำแดง)

VIVO V15

ด้านขวาของตัวเครื่องจะเป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงและปุ่ม Power ส่วนด้านซ้ายจะเป็นปุ่มเรียกใช้ Google Assistant ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. พอร์ต MicroUSB และลำโพง แม้จะให้ลำโพงมาแค่ตัวเดียว แต่เวลาเปิดคลิปนั้นเสียงกระหึ่มใช้ได้เลยค่ะ

VIVO V15

กล้องหน้าสไลด์

จุดเด่นของ VIVO V15 ก็คือกล้องหน้าแบบซ่อนอยู่ในตัวเครื่อง เลื่อนออกมาอัตโนมัติเมื่อเราเปิดใช้กล้องหน้าค่ะ ความละเอียดที่ให้มาก็คือ 32 ล้านพิกเซล รูรับแสง f2.0 เท่ากับรุ่นโปรเลยค่ะ

VIVO V15

ตัวกล้องนั้นจะมีการทำขอบให้โค้งมนรับกับขอบเครื่อง เวลาที่กล้องเด้งขึ้น ลองเอานิ้วกดดูกล้องจะไม่ได้ยุบลงไป ในกรณีที่เราเผลอลืมเปิดกล้องหน้าค้างไว้ระยะนึงแล้วไม่ได้ใช้งาน กล้องจะหดกลับเข้าไปได้เองค่ะ ถ้าเราเผลอทำเครื่องหลุดมือ เซ็นเซอร์ของเครื่องจะบอกให้กล้องหดเข้าไปเพื่อป้องกันความเสียหาย ทาง VIVO เคลมว่ากล้องนี้สามารถเลื่อนขึ้นลงได้ถึง 300,000 ครั้งสบายๆโดยที่กลไกต่างๆใช้งานได้ตามปกติ นอกจากนั้นกล้องหนัานั้นยังรอรับการถ่าย HDR ช่วยให้เวลาถ่ายเซลฟี่ย้อนแสง

VIVO V15

มาดูเรื่องของโหมดถ่ายรูปกันบ้าง สิ่งที่เหมือนกันทุกค่ายก็คือเอา AI มาช่วยให้ถ่ายรูปได้สวยขึ้น เริ่มตั้งแต่

  • Studio lighting ใส่เอฟเฟคแสงเหมือนถ่ายในสตูดิโอ

  • แนะนำฟิลเตอร์แต่งภาพให้เหมาะกับฉากหลังได้ เวลาที่ไม่รู้ว่าจะแต่งรูปยังไงดี

  • โหมดปรับหน้าสวยอัตโนมัติ (AI Face Beauty) ปรับโทนสีผิว ปรับรูปหน้า ปรับปกราม ทำตาโต รูปปาก ทุกสิ่งอย่างที่อยู่บหน้าเราปรับได้หมดเลยค่ะ ว่าจะเอาเรียบเนียนขนาดไหน

  • AR Selfie เลือกใส่สติกเกอร์ AR แบบน่ารักๆ ซ้อนไปบนใบหน้าเรา
  • โหมดเปลี่ยนภาพเซลฟี่เป็นสติกเกอร์ (AR Sticker)

กล้องหลัง

VIVO V15 มาพร้อมกล้องหลังเรียงแนวตั้ง สวยงาม 3 ตัวโดยจะแบ่งเป็น กล้องหลักความละเอียด 24 ล้านพิกเซล รูรับแสง f1.78 เลนส์มุมกว้างเป็นพิเศษความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ระยะความกว้างอยู่ที่ 120 องศา และกล้องวัดระยะความลึกความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

VIVO V15

การเลือกใช้เลนส์ Wide นั้นจะต่างจากแบรนด์อื่นๆที่จะเป็นไอคอนแยกไปอยู่ด้านบน แต่ของ VIVO นั้นจะรวมกับไอคอนของโหมดอื่นๆทำให้ใครที่เพิ่งใช้งานครั้งแรก อาจจะมองหาไม่เจอว่าเลือกเปลี่ยนเลนส์ตรงไหน แต่ถ้าใช้จนชินแล้วก็ไม่ยากค่ะ โหมดต่างๆให้มาครบ

– โหมดฉาก (บุคคล, เวลากลางคืน, หน้าชัดหลังเบลอ) พร้อมเทคโนโลยีถ่ายภาพอัจฉริยะ (AI Camera) เลือกปรับการตั้งค่าอัตโนมัติให้เข้ากับฉากหลังและสิ่งที่ถ่าย

การถ่ายโหมด Portrait ละลายหลังได้ดีพอสวมควร เลือกระดับความเบลอของฉากหลักได้ทั้งก่อนถ่ายและหลังถ่ายเสร็จ แถมเลือกจุดที่ต้องการเบลอได้ด้วย ปรับได้ตามความพอใจเลยค่ะ แต่บางสถานการณ์ยังเบลอได้ไม่เนียนเท่าที่ควร– โหมดปรับสัดส่วนร่างกาย (AI Body Shaping) ทำได้เหมือน V15 Pro เลยค่ะ

เลนส์ Ultra wide เทียบเท่ากับระยะ 13 มิลลิเมตร ช่วยเก็บรายละเอียดได้ครบ ไม่ต้องถอยหลังไปถ่ายไกล แถมยังเพิ่มมุมมองใหม่ๆในการถ่ายรูปได้สนุกขึ้น

โหมดกลางคืนถือว่าทำได้น่าพอใจ ถ้าถ่ายในที่แสงน้อยก็ยังมีน้อยซ์ให้เห็นอยู่บ้าง ส่วนสีสันก็ถือว่าถ่ายแล้วไม่จืด

สเปค

ชิปประมวลผลหลักจะเป็น Helio P70 ความเร็ว 2.1GHz มาพร้อม RAM 6 GB และ ความจุ 128 GB (เพิ่มการ์ด MicroSD ได้อีก 256 GB) ระบบปฏิบัติการเป็น Funtouch OS 9 ครอบบน Android Pie อีกที

พอร์ตการเชื่อมต่อเป็น MicroUSB แบตเตอรี่ให้มาจุใจเลยค่ะ 4000 mAh เรียกว่าเหลือเฟือค่ะ ใช้งานยาวๆได้ทั้งวันโดยไม่ต้องพกพาวเวอร์แบงก์ แถมยังรองรับ  Dual-Engine Fast Charging ชาร์จไฟได้ไวขึ้นแถมความปลอดภัยด้วยระบบป้องกัน 9 ชั้น

VIVO V15

การเล่นเกม

การใช้งานทั่วไปถือว่า เหลือเฟือเลยค่ะ ใช้งานลื่นๆ ส่วนใครที่ชอบเล่นเกมก็สบาย อย่าเกม PUBG ด้วยการเปิดโหมดแสดงผลและเฟรเรทสูงสุดก็สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น ไม่มีอาการหน่วงหรือสะดุดมากวนใจเลนค่ะ

นอกจากนั้นตัว VIVO V15 ยังให้ฟีเจอร์ Game Mode 5.0 มาให้ด้วยสำหรับป้องกันการรบกวนต่างๆระหว่างเล่นเกม เช่น การแจ้งเตือน การตัดสายโทรเข้าอัตโมัติ เพื่อให้เล่นเกมได้อย่างต่อเนื่อง

แถมด้วยระบบ Dual-Turbo เพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกม ป้องกันปัญหาเฟรมเรต ตกระหว่างเล่นเกมได้ดียิ่งขึ้นถึง 300%

VIVO V15

ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่คุ้มราคาทีเดียว ด้วยราคาขายแค่ 10,990 บาท แต่ได้ฟีเจอร์ครบครอบคลุมทุกการใช้งาน กล้องได้ความสามารถของ AI ทั้งกล้องหน้ากล้องหลัง  ใครสนใจก็ลองดูรีวิว VIVO V15 Pro ไปพลางๆก่อนนะ สเปคอาจจะต่างกันแต่ฟีเจอร์การใช้งานใกล้เคียงกันเลยค่ะ