หลังจากที่ iPhone SE ออกวางจำหน่ายในหลายประเทศแล้ว ตอนนี้เราจะได้เห็นผลทดสอบประสิทธิภาพการทำงานออกมามากขึ้น ผลการทดสอบ Benchmark ของ iPhone SE นั้นมีคะแนนสูงกว่า Android หลายรุ่น

ชิป A13 Bionic

อันนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับชิป A13 Bionic ซึ่งเป็นชิปตัวเดียวกับที่ Apple ใช้กับ iPhone 11 ที่เปิดตัวเมื่อปลายปีที่แล้ว แม้จะจะตัดฟีเจอร์หลายอย่างออกไป เช่น Face ID กลับไปใช้ Touch ID เหมือนเดิม รวมถึงมีกล้องหลังแค่ตัวเดียว แต่การทดแทนด้วยชิปประมวลผลตัวใหม่ทำให้เพิ่มการทำงานใหม่ๆมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโหมด Portrait ที่ช่วยถ่ายหน้าชัดหลังเบลอได้, โหมด HDR จนไปถึงการถ่ายวิดีโอ 4K ที่ 60 เฟรมต่อวินาที

ชิป A13 Bionic นั้นเป็นชิปแบบ 6 คอร์ และ GPU แบบ 4 คอร์ ประกอบด้วยทรานซิสเตอร์ถึง 8,500 ล้านตัวจึงสามารถทำงานได้ตั้งแต่การคิดเลขง่ายๆจนไปถึงเรื่องการประมวลผลที่ซับซ้อนของ AI  สเปคนั้นจะให้ RAM อยู่ที่ 3 GB ซึ่งน้อยกว่า iPhone 11 ที่มี RAM 4 GB แม้สเปคจะดูน้อยกว่ามือถือหลายรุ่น แต่ผลการทดสอบ Benchmark ที่ออกมานั้นพบว่าเอาชนะมือถือไปหลายรุ่นเลยค่ะ

ผลทดสอบ Geekbench 5

ในส่วนของการทดสอบ Geekbench 5 นั้น iPhone SE ทำคะแนนได้สูงในหลายๆด้านเลยทีเดียว

เริ่มจากหัวข้อแรก CPU Benchmark นั้น ในส่วนของการทำงานส่วนของ Multi Core iPhone SE ทำคะแนนไปได้ 3,342 คะแนน  ส่วน Single Core ทำไปได้ 1,330 คะแนน ซึ่งก็ทำคะแนนได้มากกว่า Samsung Galaxy S20 Ultra 5G ได้ทั้งสองหมวด

แต่ iPhone SE นั้นกลับมาแพ้ในด้านการทำงาน Low Power Mode เมื่อทำงานแบบ Multi Core ซึ่ง Galaxy S20 Ultra 5G ทำคะแนนทิ้งห่างไปเยอะพอสมควร

มาดูในส่วนของ COMPUTE SCORE เรียกว่า iPhone SE ทำคะแนนนำโด่งจากคู่แข่ง

ผลทดสอบ ANTUTU

ลองมาดูผลการทดสอบด้วยโปรแกรม ANTUTU กันบ้าง เราจะเห็นว่า iPhone SE นั้นทำคะแนนไปได้ 492,166 คะแนน เรียกว่าแพ้แค่ Galaxy S20 Ultra 5G ทำคะแนนไปได้ถึง 570,987 คะแนน

ลองไปดูการทดสอบของเว็บ wccftech ที่นำ iPhone SE ไปเปรียบเทียบกับสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์อีกหลายรุ่นด้วย JetStream 2 และ Speedometer 2.0 ก็พบว่าทำคะแนนได้มากกว่า

จากคะแนนที่ออกมาถือว่า iPhone SE ถือเป็นสมาร์ตโฟนอีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจทีเดียวเมื่อเทียบกับระดับราคา

ที่มา CNET, iPhonedo