กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจัดการประชุมหารือร่วมกับผู้ให้บริการโครงข่ายมือถือและ ISP เผยความคืบหน้าในการปิดกั้นการเข้าถึงเว็บพนันออนไลน์
นายพุฒิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมได้เผยความคืบหน้าการปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์ที่มีการร้องเรียนเข้ามาด้วยการใช้พรบ.คอมพิวเตอร์และพรบ.การพนัน ภายใต้ความร่วมมือของกสทช. ผู้ให้บริการโครงข่ายมือถือ, ISP เพื่อติดตามการดำเนินงานและสรุปแนวทางเพื่อให้การทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
เนื่องจากในหลายประเทศนั้น การพนันเป็นสิ่งที่ถูกกฎหมาย ทางรัฐบาลไทยไม่มีอำนาจในการปิดเว็บเหล่านั้น ทำได้เพียงปิดกั้นการเข้าถึงเท่านั้น เพื่อให้เป็นการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกัน การดำเนินการต่างๆจะเป็นไปตามขั้นตอนตามกฎหมายเพื่อทำการขอหมายศาลดำเนินคดี
ในช่วง 19-20 กันยายนที่ผ่านมาทางกระทรวงดีอีเอสได้ทำงานยื่นเรื่องเพื่อทำการยื่นเรื่องปิดกั้นเว็บพนันไป 982 เว็บและกำลังรวบรวมหลักฐานเพื่อขอคำสั่งศาลปิดเว็บพนันอีก 220 เว็บ
เมื่อได้หมายศาลแล้วจะส่งเรื่องต่อให้กับผู้ให้บริการโครงข่ายมือถือและ ISP เพื่อทำการปิดกั้นเว็บไซต์ดังกล่าว หลังจากนั้นจะมีเวลา 15 วันในการปิดกั้นตามพรบ.คอมพิวเตอร์ หากมีการปิดการเข้าถึงแล้วก็จะมีหน้า Landing Page ขึ้นมา หากไม่ดำเนินการก็จะมีความผิดตามกฎหมาย
ในส่วนของการดำเนินคดีนั้นจะเป็นหน้าที่ของกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ในการสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดต่อไป
นอกจากนั้นทางรัฐมนตรีดีอีเอส ยังเผยความคืบหน้าในการปิดกั้นเนื้อหาที่ผิดกฎหมาย ในส่วนของแพลตฟอร์มต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น Facebook, YouTube และ Twitter นั้นมีการให้ความร่วมมือในการลบ/ปิดกั้นเนื้อหาบางส่วนแล้ว
แต่ก็มีบางเนื้อหาที่เลยเวลาตามคำสั่งศาล 15 วันแล้วก็ยังไม่มีการดำเนินการ ซึ่งทางกระทรวงดีอีเอสได้ส่งข้อมูลชุดที่ 2 จำนวน 1,024 รายการไปตั้งแต่วันที่ 27 สิงหาคม (ครบกำหนด 15 วันในวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา) ซึ่งประกอบด้วย
- Facebook จำนวน 661 Urls ปิดแล้ว 215 Urls เหลือ 446 Urls
- YouTube จำนวน 289 Urls ปิดแล้ว 285 Urls เหลือ 4 Urls
- Twitter จำนวน 69 Urls ปิดแล้ว 4 Urls เหลือ 65 Urls
- เว็บอื่นๆ 5 Urls ปิดแล้ว 4 Urls เหลือ 1 Urls
ทางกระทรวงเตรียมส่งตัวแทนยื่นดำเนินคดีกับแพลตฟอร์มเหล่านี้ในวันที่ 24 กันยายนนี้เพื่อให้เข้ามายื่นอุธรณ์ ชี้แจ้งว่าทำไมถึงไม่มีการปิดกั้นเนื้อหาหรือเว็บที่ผิดกฎหมาย