จีนขึ้นแท่นผู้นำ 5G ในภูมิภาคเอเชีย ด้วยจำนวนสถานีฐานและใยแก้วนำแสงให้บริการ 5G ความเร็วระดับกิกะบิต ในกว่า 110 เมืองทั่วประเทศตั้งแต่ปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

ทางรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของจีนเผยว่า ในแง่ของการกระจายตัวของเครือข่ายนั้น ครอบคลุม 41 เมืองทางภาคตะดวันออก 29 เมืองในภาคกลางและอีก 40 เมืองทางตะวันตก

อัตราการเข้าถึงใยแก้วนำแสงของครัวเรือนทั่วไปในเมืองเหล่านี้เกิน 100% เรียบร้อยแล้ว ส่วนสถานีฐาน 5G เองก็ครอบคลุม 22.2 สถานีฐานต่อประชากร 10,000 คน (ส่วนค่าเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 22.2 สถานีฐานต่อประชากร 10,000 คน)

สถานีฐานส่วนใหญ่มากกว่า 80% นั้นจะอยู่ตามโรงพยาบาลรัฐ มหาวิทยาลัยสำคัญๆ สถานที่ท่องเที่ยวและสถานที่เชิงวัฒนธรรม, สนามบินและถนนสายหลักเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงเครือข่าย 5G ได้ทั่วถึง

หนึ่งในเมืองน่าสนใจก็คือ ฉงซิ่ง เมืองทางตะวันตกของจีน ที่ตั้งเป้าเป็น dual-gigabit city ซึ่งเมืองนี้มีประชากรประมาณ 34 ล้านคน ถือเป็นอีกศูนย์กลางด้านอุตสาหกรรมของจีน โดยความเร็วระดับกิกาบิตนั้นจะส่งผ่านใยแก้วนำแสง ทำให้ความเร็วที่ได้นั้นสูงถึง 1,000 Mbps หรือ 1 Gigabit per second. ปัจจุบันฉงซิ่งมีสถานีฐาน 5G เฉลี่ยราวๆ 19 สถานีฐานต่อประชากร 10,000 คน

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทางฉงซิ่งพยายามสร้างและโปรโมตเครือข่าย 5G รวมถึงสาธารณูปโภคพื้นฐานที่ผนวก 5G เข้าไปกับภาคอุตสาหกรรม เช่น การผลิตและขนส่ง โดยเปิดตัวโครงการสาธิต 20 ดครงการเพื่อแสดงศักยภาพของ 5G เช่น ระบบควบคุมการทำงานระยะไกล ระบบขนส่งอัจฉริยะ

หนึ่งในพื้นทีใหม่ก็คือย่าน Liangjiang New Area ที่มีสถานีฐานมากขึ้นเท่าตัวคือ 70.98 สถานีฐานต่อประชากร 10,000 คน และผู้ใช้มือถือกว่า 42.19% ได้ใช้งาน 5G เรียบร้อยแล้ว โดยพื้นที่นี้จะส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆทั้งในด้านการสื่อสาร ภาคอุตสาหกรรม การแพทย์ การศึกษา

ที่มา

https://english.news.cn/20221224/ce2597966ec3499498d7bc4fb218a5e0/c.html
https://www.chinadaily.com.cn/a/202212/27/WS63aa4794a31057c47eba650c.html