เรียกว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ถูกใจผู้ใช้ เมื่อ Google ประกาศเปิดให้ผู้ใช้ทุกคนสามารถใช้งาน Workspace (หรือชื่อก่อนหน้าคือ G Suite) ได้ฟรี หลังจากก่อนหน้านี้จะใช้งานได้ในกลุ่มลูกค้าองค์กรและสถาบันการศึกษา

นั่นหมายความว่าผู้ใช้บัญชี Google กว่า 3,000 ล้านคนทั่วโลกจะสามารถใช้งานฟีเจอร์ของ Drive, Meet, Docs, Sheets และอีกหลายบริการได้มากขึ้นกว่าเดิมในประสบการณ์ทำงานเต็มรูปแบบ แต่สิ่งที่เราต้องทำก็คือ ต้องเปิดใช้งาน Google Chat ใน Gmail ก่อนถึงจะใช้ได้

แม้จะเปิดให้ใช้งานฟรีแล้ว แต่ก็ยังมีเวอร์ชันเสียเงินอยู่ในชื่อว่า “Google Workspace Individual” เจาะกลุ่มเจ้าของธุรกิจขนาดเล็ก โดยให้บริการระดับพรีเมียม เช่น บริการ smart booking services, ประชุมวิดีโอคอลแบบมืออาชีพ, การทำตลาดผ่านอีเมล เป็นต้น

ปรับโฉม Google Chat

ไม่ใช่แค่ประกาศใช้งานฟรี แต่ยังมีฟีเจอร์ใหม่เพิ่มขึ้นด้วย เริ่มการ อัปเกรด Rooms ใน Chat (เปลี่ยนชื่อมาจาก Hangouts) ให้กลายเป็น Spaces พร้อมปรับอินเทอร์เฟซให้ใช้งานเป็นทีมง่ายและยืดหยุ่นขึ้นโดยผู้ใช้จะอยู่ด้านบนสุด  ทุกอย่างจะรวมอยู่ในหน้าเดียวพร้อมแสดงสถานะปัจจุบัน, ปรับแต่สถานะได้, แสดงการโต้ตอบ รวมถึงดูและปักหมุดข้อความได้ให้เหมาะกับการทำงานร่วมกันมากขึ้น ผ่านการจัดการไฟล์และงานต่างๆให้เป็นระเบียบเรียบร้อย

จากภาพด้านบนเราจะเห็น Spaces หน้าตากเป็นอย่างไร มีการแบ่งหน้าจอด้านซ้ายสำหรับแชทกับเพื่อนร่วมงาน ส่วนด้านขวาจะเป็น Google Sheet ให้ทำงานร่วมกัน โดยในหร้าต่างแชทเราสามารถเปลี่ยนดูไฟลืหรืองานที่ทำได้ รวมถึงเปลี่ยกลุ่มทำงานจากเมนูด้านบน

Google Meet ปรับให้เหมือน Zoom มากขึ้น

An image showing Google Meet on the web with Companion Mode.

ในส่วนของวิดีโอคอลก็มีการอัปเกรดการทำงาน เพิ่มฟีเจอร์มากขึ้นให้ใกล้เคียงกับคู่แข่งอย่าง Zoom และ Microsoft Teams เพิ่มโหมดใหม่ Companion (สามารถสร้างโพล, เพิ่มระบบแชท,ระบบยกมือ, Q&A, live captions เป็นต้น) เพิ่มเครื่องมือใหม่ช่วยในการควบคุมการประชุม และอัปเดตปฏิทิน RSVP

ฟากของระบบหลังบ้านก็มีการเพิ่มความปลอดภัยหลายอย่าง เช่น เพิ่มการเข้ารหัสฝั่ง client, เพิ่ม “Trust rules” และเพิ่มฉลากใน Drive เพื่อช่วยให้แอดมินจัดระเบียบ/ควบคุมไฟล์ตามระดับความอ่อนไหว สุดท้ายคือเพิ่มการป้องกันฟิชชิ่งและมัลแวร์ใน  Workspace

ที่มา Engadget